เมื่อวันที่ 21 เม.ย. หลังจากที่ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาให้ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ พ้นจากความเป็น ส.ส. จึงทำให้ตำแหน่ง ส.ส. เขต 3 ราชบุรี ว่างลง ก่อนจะมีการเปิดรับสมัคร ในวันที่ 21-25 เม.ย.65 ที่จะถึงนี้ ล่าสุดวันนี้ ที่สถานรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.ราชบุรี เขต 3 สำนักงานสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 2 ต.บ้านเลือก อ.โพธาราม นายธวัชชัย เทอดเผ่าไทย กรรมการการเลือกตั้ง ตรวจเยี่ยมและเตรียมความพร้อมการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ราชบุรี เขต 3 พร้อมด้วย นายรณภพ เหลืองไพโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ดร.สุชัญญา วิมุกตายน ผอ.สนง.กกต.ประจำ จ.ราชบุรี

สำหรับบรรยากาศในช่วงเช้าวันนี้ นายชัยทิพย์ กมลพันธ์ทิพย์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม ราชบุรี เขต 3 ในนามพรรค ปชป. และนางณัฐนันท์ นิธิภณยางสง่า ผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อมจากพรรคเสรีรวมไทย เดินทางมาแต่เช้า

สำหรับบรรยากาศของการรับสมัครเลือกตั้งครั้งนี้ ทางผู้สมัครทั้ง 2 ราย คือ นางณัฐทนันต์ นิธิภณยางสง่า และนายชัยทิพย์ กมลพันธ์ทิพย์ ได้ใช้วิธีตามข้อตกลงด้วยการเป่ายิ้งฉุบ แทนการจับสลาก ในการที่จะเข้ารับสมัครเพื่อยื่นเอกสารต่อเจ้าหน้าที่ กกต. ปรากฏว่า นางณัฐทนันต์ ได้เบอร์ 1 ส่วนนายชัยทิพย์ ได้เบอร์ 2

ดร.สุชัญญา วิมุกตายน ผอ.กกต.จ.ราชบุรี เปิดเผยว่า การลงสมัครได้จำกัดบุคคลที่เข้าไปด้านในพื้นที่รับสมัคร ขั้นตอนคือถ้าผู้สมัครตกลงกันได้ว่าใครจะเป็นผู้ยื่นใบสมัครก่อนหลัง ก็เข้าสู่กระบวนการได้เลย ตอนนี้ที่ตามข่าวมีมาสมัครรวม 2 พรรคการเมือง แต่หลังจากนี้ยังไม่ทราบว่าจะมีใครมาอีก ส่วนการหาเสียงก็จะต้องไม่ฝ่าฝืนกฎหมายที่กำหนดไว้ในการติดป้ายหาเสียง การแจกเงินซื้อเสียง การปราศรัยใส่ร้าย และจะต้องแจกเอกสารให้ผู้สมัครรับทราบเพื่อไม่ให้เกิดการกระทำผิดกฎหมายเกิดขึ้น มองว่าไม่น่าจะมีอะไรที่รุนแรง ประชาชนชาวราชบุรีมีการตื่นตัวในการเลือกตั้งพอสมควร ครั้งที่แล้วมาเลือกตั้งร้อยละ 81 จึงเชื่อว่าการตื่นตัวของประชาชนไม่น่าจะมีใครมาแทรกแซงได้ มีประชาชนผู้มีสิทธิในพื้นที่จำนวน 138,262 คน คาดหวังไว้ไม่อยากให้ต่ำกว่าเดิม ที่ผ่านมา เชื่อว่าคนราชบุรีจะมาช่วยกันเพื่อให้ได้มีผู้มาใช้สิทธิเยอะ ได้ตัวแทนที่แท้จริงของประชาชน

สำหรับพื้นที่เขต 3 ราชบุรี ประกอบด้วย อ.โพธาราม และ อ.จอมบึง มีประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งประมาณ 130,000 คน และมีหน่วยเลือกตั้ง 193 หน่วย ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ในปัจจุบัน กกต.จ.ราชบุรี อยู่ระหว่างพิจารณาเพิ่มหน่วยเลือกตั้ง จากเดิมที่กำหนดให้มีจำนวนประชาชน 800-1,000 คน ต่อหน่วยเลือกตั้ง เป็น 600-800 คนต่อหน่วยเลือกตั้ง รวมไปถึงการเตรียมกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งที่เพิ่มขึ้นด้วย