เมื่อวันที่ 28 ก.ค. แหล่งข่าวจากกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า ภายหลังมีพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในวันที่ 28 ก.ค. มีผู้ต้องขังจากเรือนจำ 143 แห่งทั่วประเทศ เข้าเกณฑ์ได้รับการปล่อยตัว จำนวน 35,000 คน ซึ่งขณะนี้ทุกเรือนจำอยู่ระหว่างการตรวจสอบรายชื่อผู้ต้องขังที่อยู่ในเงื่อนไขได้รับพระราชทานอภัยโทษ เพื่อส่งให้คณะกรรมการตรวจสอบผู้ซึ่งได้รับพระราชทานอภัยโทษพิจารณาก่อนปล่อยตัว

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ครั้งนี้มีคนดังที่เข้าเงื่อนไขได้รับพระราชทานอภัยโทษกรณี เป็นผู้ที่ได้รับการปล่อยตัวคุมประพฤติ คือ นายสรยุทธ สุทัศนจินดา ซึ่งก่อนหน้านี้ นายสรยุทธ ได้รับพระราชทานอภัยโทษมาแล้ว 2 ครั้ง และเข้าเงื่อนไขการพักโทษเป็นกรณีพิเศษ จึงได้รับการติดกำไลอีเอ็ม เป็นเวลา 14 เดือน และต้องรายงานตัวจนกว่าจะพ้นโทษคือ วันที่ 26 ก.ค.66 ก็มีผลให้พ้นโทษและได้รับการปลดกำไลอีเอ็ม หลังพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในวันพรุ่งนี้ (28 ก.ค.) รวมถึง นายจตุพร พรหมพันธ์ุ ที่เข้าเกณฑ์เหลือโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี และจะได้รับการปล่อยในเดือน ส.ค.นี้ หลังจากเข้ารับการอบรมโคกหนองนาโมเดล

นอกจากนี้ ยังมีผู้ต้องขังบิ๊กเนม ที่ได้รับการพระราชทานอภัยโทษ ลดโทษ เช่น นางจุฑามาศ ศิริวรรณ อดีตผู้ว่าการการท่องเที่ยวฯ ที่มีโทษจำคุก 50 ปี ได้ลดวันต้องโทษเหลือโทษจำคุก 17 ปี น.ส.จิตติโสภา ศิริวรรณ บุตรสาวนางจุฑามาศ คดีรับสินบน 60 ล้านบาท จัดเทศกาลภาพพยนต์นานาชาติกรุงเทพฯ โทษจำคุก 40 ปี นายภูมิ สารผล ผู้ต้องขังคดีทุจริตจำนำข้าว โทษจำคุก 38 ปี ได้ลงวันต้องโทษ 1 ใน 3 เหลือโทษจำคุก 13 ปี นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ ผู้ต้องขังคดีจำนำข้าว โทษจำคุก 48 ปี แต่ได้ลดวันต้องโทษ 1 ใน 3 เหลือโทษจำคุก 16 ปี นายครรชิต ทัพสุวรรณ อดีต ส.ส.ปชป.ได้ลดวันต้องโทษเหลือโทษจำคุก 11 ปี นายอภิชาต จันทร์สกุลพร หรือเสี่ยเปี๋ยง โทษจำคุก 48 ปี คดีทุจริตจำนำข้าวได้ลดวันต้องต้องโทษ 1 ใน 3 เหลือโทษจำคุก 9 ปี