เมื่อวันที่ 26 เม.ย. นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ รองเลขาธิการและคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีแนวทางยกเลิกระบบ Test & Go ในวันที่ 1 พ.ค.นี้ เพื่อให้ความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวต่างประเทศให้เข้ามา เป็นเรื่องที่ดีและถูกต้องและควรจะทำนานแล้ว เหมือนที่คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ได้เสนอและได้แนะนำไว้แต่แรก โดยได้ยกตัวอย่างประเทศเกาหลีใต้และสิงคโปร์ ที่ดำเนินการไปก่อนหน้านี้แล้ว ดังนั้นจึงอยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ เร่งดำเนินการเรื่องดังกล่าวและขจัดปัญหาความไม่สะดวกของนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาทั้งหมด รวมถึงยกเลิกการเก็บค่าเหยียบแผ่นดินด้วย
ทั้งนี้เมื่อยกเลิกระบบ Test & Go และประเทศเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ ควรจะต้องยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินได้แล้ว เพราะตลอดเวลากว่า 2 ปีที่ผ่านมา พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่ได้ช่วยป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิดเลย แต่กลับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในการควบคุมและกำจัดผู้เห็นต่างเท่านั้น ดังนั้นเมื่อสถานการณ์ปกติ ไม่มีความจำเป็นแล้ว จึงควรต้องยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พร้อมกันไปทีเดียว อย่าคิดแค่ว่าจะเก็บไว้เป็นเครื่องมือป้องกันรัฐบาลเท่านั้น เพราะจะเสียภาพลักษณ์ที่ดีว่าประเทศไทยยังมีปัญหาถึงต้องคง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไว้
นอกจากนี้รัฐบาลต้องหาทางช่วยเหลือผู้ประกอบการการท่องเที่ยว โดยเฉพาะด้านโรงแรมให้กลับมาทำธุรกิจได้ จะช่วยให้ส่งเสริมให้เกิดการจ้างงานที่ยังเป็นปัญหาอย่างมาก ควรจะต้องออกซอฟต์โลน รวมถึงการปรับโครงสร้างหนี้ ลดดอกเบี้ย ลดเงินต้น ยืดการชำระหนี้ เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ไม่ใช่หนี้ท่วมทำอย่างไรก็ใช้หนี้ไม่ได้ ก็คงจะไม่ไหว ซึ่งคงต้องพิจารณาเป็นรายๆ ตามหลักเกณฑ์ที่จะกำหนด อีกทั้งปัจจุบันผู้ประกอบการโรงแรมจำนวนมากนอกจากจะไม่มีรายได้เพียงพอแล้ว ยังต้องถูกเรียกเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างแบบมหาโหด เพิ่มจากเดิมถึง 10 เท่า ทำให้ลำบากกันอย่างมาก จึงอยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ พิจารณาผ่อนผันลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างออกไปอีกอย่างน้อย 1 ปี เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถหารายได้เข้ามาเพียงพอเพื่อประคองธุรกิจและจ่ายภาษี
อย่างไรก็ตาม การที่รัฐบาลขายฝันว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาปีนี้ 10 ล้านคนนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายและน่าจะเป็นเรื่องยากมาก จะนั่งเทียนคิด รออยู่เฉยๆ ไม่ทำอะไรเลย รอนักท่องเที่ยวเข้ามาเอง 10 ล้านคน คงเป็นไปไม่ได้ การทำการตลาดเชิงรุกจึงมีความจำเป็น เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามามากๆ ดังนั้นจึงอยากให้รัฐบาลศึกษาและหาแนวทางในการทำการตลาดเชิงรุกทางด้านท่องเที่ยวนี้ โดยพรรคเพื่อไทยได้เตรียมแผนงานไว้แล้ว และจะทำให้มีนักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามาประเทศไทยถึงปีละ 80 ล้านคน ภายใน 4 ปี
คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยเห็นว่า การฟื้นเศรษฐกิจของประเทศเป็นเรื่องที่ยากมากจากภาวะเศรษฐกิจซบเซามาตลอดเกือบ 8 ปี ซึ่งต้องการผู้ที่มีความรู้ความสามารถอย่างมากและต้องทำได้หลายๆ ทางพร้อมกัน การท่องเที่ยวจะเป็นแนวทางสำคัญที่จะฟื้นเศรษฐกิจไทยได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากที่สุด เพราะรายได้จะเข้ามาเร็วและมีการกระจายรายได้สูง ดังนั้นการฟื้นฟูและส่งเสริมการท่องเที่ยวจึงเป็นความจำเป็นเร่งด่วน โดยต้องให้ความสะดวกสบาย และลดปัญหาให้กับนักท่องเที่ยวให้มากที่สุดเพื่อจะนำรายได้กลับเข้ามาในประเทศโดยเร็ว
