ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดแรก วันพุธที่ 27 เม.ย. เวลา 02.00 น. “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ทีมรองจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก เล่นในแอนฟิลด์เจอกับ “เรือดำน้ำสีเหลือง” บียาร์รีล ที่รั้งอันดับ 7 ในลา ลีกา สเปน โดยฟอร์มล่าสุดของเจ้าบ้านเพิ่งชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-0 เป็นการชนะในลีก 12 จาก 13 นัดหลัง ส่วน บียาร์รีล ไม่แพ้ในลีก 3 นัดติด เกมล่าสุดชนะ บาเลนเซีย 2-0

เจอร์เกน คลอปป์ กุนซือลิเวอร์พูล มีสภาพทีมที่สมบูรณ์ดีมาก อาจจะขาดแค่ โรแบร์โต ฟีร์มิโน เพียงคนเดียวที่บาดเจ็บเท้า นอกนั้นมีตัวเลือกให้ใช้งานครบ คาดว่า อิบราฮิมา โกนาเต จะกลับมาเป็นตัวจริงยืนคู่กับ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ฟูลแบ๊กซ้ายขวาเป็น แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน และ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์

ตรงกลางมี จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ และ ติอาโก อัลคันทารา ขณะที่ โม ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน และ หลุยส์ ดิอาซ จะเป็น 3 ตัวรุก ปล่อยให้ ดิวอค โอริกี และ ดิโอโก โชตา ออกสตาร์ตที่ม้านั่งสำรองไปก่อน

อูไน เอเมรี กุนซือบียาร์รีล ที่เคยคว้าแชมป์ยูโรป้า ลีก 4 ครั้งกับเซบีญา 3 ครั้ง และบียาร์รีล 1 ครั้ง เกมนี้จะไม่มี อัลแบร์โต โมเรโน อดีตเด็กเก่าลิเวอร์พูลที่บาดเจ็บอยู่ก่อน ขณะที่ เคราร์ด โมเรโน กองหน้าตัวเก่งก็บาดเจ็บชวดลงเกมนี้ แต่อาจจะหายทันเกมนัด 2 และ ฟรานซิส โกเกแล็ง กองกลางจอมเก๋ากลับมาซ้อมได้แล้ว

ราอูล อัลบิโอล และ เปา ตอร์เรส เป็นคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ขณะที่ เอเตียน คาปู, โจวานนี โลเซลโซ, ดานี ปาเรโฆ, เยเรมี ปินโต และ อาร์โนต์ แดนจูมา พร้อมลงสนามทั้งหมด

ทั้งสองฝ่ายเจอกันมา 2 ครั้งในถ้วยยูโรป้า ลีก ปี 2016 บียาร์รีล เปิดบ้านชนะก่อน 1-0 แต่ ลิเวอร์พูล กลับมาเฝ้าบ้านชนะ 3-0 อย่างไรก็ตามผลงานแชมเปี้ยนส์ลีก ซีซั่นนี้ บียาร์รีล ยิงประตูนอกบ้านมาได้ 5 นัดติดต่อกัน และถ้ารวมเหย้าเยือนก็มีแค่เกมเดียวเท่านั้นที่เท้าบอดคือแพ้คาบ้านต่อ แมนฯ ยูฯ 0-2 ส่วน ลิเวอร์พูล ชนะรวดในรอบแบ่งกลุ่ม แพ้เกมเดียวต่อ อินเตอร์ มิลาน 0-1 ในรอบ 16 ทีมนัดสอง