เมื่อวันที่ 27 เม.ย. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.3 บก.ป. แถลงผลจับกุม เจ๊ญา อายุ 53 ปี, หม่อมแฟรงค์ อายุ 53 ปี และเจ๊โหน่ง อายุ 59 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 1 ที่ 3-5/65 ตามลำดับ ลง 23 เม.ย.65 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง และร่วมกันเรียกรับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นฯ” พร้อมของกลาง โทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง แท็บเล็ตสีขาว 1 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคาร 2 เล่ม และบัตรกดเงินสด 1 ใบ โดยจับกุม หม่อมแฟรงค์ ได้ริมถนนราชพฤกษ์ ต.คลองข่อย อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี และจับกุม เจ๊โหน่ง ได้ที่ซอยยิ่งลักษณ์ แยกบ้านนาดอกไม้ ต.บ้านฝาก อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น ส่วน เจ๊ญา เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กองปราบปราม

พล.ต.ต.มนตรี เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้มีผู้เสียหายเป็นนายตำรวจยศ พ.ต.ท. รับราชการในตำแหน่ง รอง ผกก.พื้นที่ จ.อุดรธานี เข้าร้องทุกข์กับ บก.ป. เดือน ต.ค.64 ว่า ได้มีคนแนะนำให้รู้จักกับ เจ๊โหน่ง ก่อนอ้างว่าสามารถช่วยให้ขึ้นตำแหน่ง ผกก.ได้ แต่ต้องจ่ายเงินค่าวิ่งเต้น 2 แสนบาท เป็นการช่วยทำบุญ จากนั้นจึงพาผู้เสียหายไปพบเจ๊ญา และหม่อมแฟรงค์ ที่ร้านส้มตำเจ๊ญา เมืองทอง ในพื้นที่ จ.นนทบุรี เมื่อไปถึงกลุ่มผู้ต้องหาก็เริ่มพูดจาอวดอ้างว่ารู้จักกับนักการเมืองระดับประเทศ รวมถึงข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายคน พร้อมชี้ให้ดูรูปภาพเจ๊ญา เจ้าของร้านที่เคยถ่ายรูปคู่กับผู้หลักผู้ใหญ่หลายคนที่ใส่กรอบแขวนโชว์ไว้ ผู้เสียหายจึงหลงเชื่อโอนเงินให้กลุ่มผู้ต้องหาอีกหลายครั้งรวม 5.75 ล้านบาท แต่เมื่อการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจเสร็จสิ้น กลับไม่มีชื่อผู้เสียหายได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็น ผกก. และไม่สามารถติดต่อกลุ่มผู้ต้องหาได้ ถึงรู้ตัวว่าถูกหลอก ก่อนเข้าร้องทุกข์ดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลดังกล่าวที่ สภ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี ต่อมาเกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงทำเรื่องขอโอนคดีมายัง บก.ป.

พ.ต.อ.วิวัฒน์ กล่าวว่า หลังรับเรื่องได้จัดกำลังลงพื้นที่สืบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริงจนทราบว่า กลุ่มผู้ต้องหาแบ่งหน้าที่กันทำเป็นขบวนการ โดยเริ่มตั้งแต่บุคคลที่มีหน้าที่หาเหยื่อ บุคคลที่แอบอ้างว่าสามารถวิ่งเต้นตำแหน่งได้ และบุคคลที่มีหน้าที่สร้างความน่าเชื่อถือ โดยให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญชีที่กลุ่มผู้ต้องหาเตรียมไว้ ก่อนที่จะมีการโอนเงินต่อให้กับคนในขบวนการ จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับดังกล่าว

“จากการตรวจสอบประวัติผู้ร่วมขบวนการพบว่ามีประวัติการกระทำความผิดอื่นรวมกว่า 13 คดี และยังพบบัญชีเงินฝากของเจ๊ญา มีเงินหมุนเวียนกว่า 600 ล้านบาท ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหลอกซื้อขายโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาลอีกด้วย” พ.ต.อ.วิวัฒน์กล่าว

อย่างไรก็ตามในชั้นจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ จึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป. ดำเนินคดีต่อไป.