เมื่อวันที่ 27 เม.ย. ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองเลขาธิการพรรคก้าวไกล แถลงว่าขณะนี้มีการใช้คำสั่งจับกุมคุมขังนักกิจกรรมทางการเมือง จนสร้างความกลัวให้กับผู้เห็นต่างทางการเมือง โดยการใช้กระบวนการยุติธรรมและกำลังเจ้าหน้าที่รัฐ เช่น การถอนประกันและการไม่ให้ประกันตัวผู้เห็นต่างทางการเมือง อย่างกรณีของนายเวหา แสนชนชนะศึก น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และนายเอกชัย หงส์กังวาน ทั้งที่คนเหล่านี้ไม่ได้ฆาตกรรมใคร หรือสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ใด เมื่อเทียบกับคดีอื่นๆ ที่เป็นข่าวใหญ่หลายกรณีกลับได้รับการประกันตัว แต่ทำไมคนเหล่านี้ถูกถอนประกันและไม่ได้รับการประกันตัว จนสร้างความหวาดกลัวให้นักกิจกรรม
“อีกทั้งยังมีความพยายามไปค้นรถ ควบคุมตัว โดยไม่มีหมายค้นหรือหมายจับ ขัดขวางการทำกิจกรรม สังคมเราน่ากลัวขึ้นทุกที ทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ตนและพรรคก้าวไกลจึงอยากเรียกร้องมโนธรรมสำนึกจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หยุดสร้างความหวาดกลัวแบบนี้ได้แล้ว เพราะจะทำให้ระบบยุติธรรมขาดความน่าเชื่อถือ”
นอกจากนี้ นายรังสิมันต์ ยังกล่าวถึงกรณี พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 หัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีค้ามนุษย์โรฮิงญา ให้สัมภาษณ์แนวสารคดีประเด็นการค้ามนุษย์ ผ่านสำนักข่าวอัลจาซีรา ว่าผ่านมา 6 วัน เราเห็นปฏิกิริยาของรัฐบาลชุดนี้เพียงแค่ให้ พล.ต.ต.ปวีณ กลับมาเปิดเผยข้อมูล แต่ไม่เห็นความรับผิดชอบ ทั้งที่นายตำรวจคนนี้รับผิดชอบคดีสำคัญของประเทศ แต่กลับต้องลี้ภัยเป็นไปแรงงานทำเบาะรถยนต์ที่ประเทศออสเตรเลีย เราไม่สามารถปกป้องตำรวจที่ดีที่ทำเพื่อประเทศชาติ ทำให้คนดีต้องลี้ภัยไปต่างประเทศ รัฐบาลกลับทำอะไรไม่ได้ นอกจากให้ พล.ต.ต.ปวีณ กลับมา ถามว่าแบบนี้จะมีรัฐบาลไปทำไม จากนี้ประเทศต่างๆ จะจับตามองประเทศไทยว่า ทำไมคนแก้ไขปัญหาค้ามนุษย์ถึงต้องเป็นผู้ลี้ภัย และคำตอบของรัฐบาลยังคงเป็นสิ่งที่น่าผิดหวัง
ทั้งนี้ตนมีหลักฐานสำคัญคือในวันประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ที่มีวาระพิจารณาปรับย้ายนายตำรวจนั้น มีการโยกย้าย พล.ต.ต.ปวีณ ไป 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ เป็นประธานการประชุมด้วยตัวเอง ตนมีบันทึกการประชุม ดังนั้น พล.อ.ประวิตร ย่อมรู้อยู่แก่ใจว่ากำลังทำอะไร ทำไมจึงย้าย พล.ต.ต.ปวีณ ไปที่อันตรายถึงชีวิต แม้จะมีการอ้างว่าเจ้าตัวไม่พอใจเพราะไม่ได้ตำแหน่งที่สูงขึ้น ถามว่าต้องถึงขั้นลี้ภัยเลยหรือไม่ และที่ผ่านมากองทัพเรือไม่มีความรับผิดชอบอะไรใดๆ เลยทั้งสิ้นในประเด็นการค้ามนุษย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าผิดหวัง รัฐบาลชุดนี้สนใจแต่เรื่องตัวเอง
เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม และ พล.อ.ประวิตร ให้ พล.ต.ต.ปวีณ ติดต่อกลับมาโดยตรง นายรังสิมันต์ กล่าวว่าประเด็นไม่ใช่เรื่องการติดต่อ แต่วันนี้มีคนเกี่ยวข้องอย่างไรบ้างจนทำให้ พล.ต.ต.ปวีณ ต้องลี้ภัย ทั้งที่เป็นคนเก่ง ฉลาด มีความสามารถ การตัดสินใจลี้ภัยแสดงว่ามีเหตุอยู่ ถามว่าทำไม พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร ไม่จัดการกับกระบวนการค้ามนุษย์ ทำให้ตนไม่แน่ใจว่า พล.อ.ประวิตร เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ เพราะไม่เช่นนั้นอาจทำให้การกลับมาของ พล.ต.ต.ปวีณ เป็นไปได้ยากที่สุด อย่างไรก็ตามตนขอเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งกรรมการสอบ พล.อ.ประวิตร ถามว่ากล้าหรือไม่ที่จะสอบพี่ตัวเอง เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกันเป็นระบบ จึงควรพักงาน พล.อ.ประวิตร ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่กล้า จะแก้ไขปัญหานี้ไม่ได้ ขอให้ทำเพื่อประเทศชาติ ตนเป็นห่วงว่าอนาคตต่างชาติจะมีการแซงก์ชันเรา รัฐบาลควรทำให้มั่นใจว่าไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง เพื่อให้ลำดับการค้ามนุษย์ดีขึ้น