จากกรณี “กัน จอมพลัง” พาผู้เสียหายซึ่งเป็นทหารหญิงเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองราชบุรี ถูกเจ้านายอ้างว่าเป็นภรรยาสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) และยังเป็นตำรวจยศสิบตำรวจเอกหญิง กองบัญชาการสันติบาล กักขังหน่วงเหนี่ยว ทำร้ายร่างกายทารุณ ซึ่งต่อมากองบัญชาการตำรวจสันติบาล ออกหนังสือข่าวประชาสัมพันธ์ชี้แจงว่า กรณีดังกล่าว ผู้ถูกกล่าวหาคือ ส.ต.ท.หญิงกรศศิร์ บัวแย้ม ตำแหน่ง ผบ.หมู่ กก.4 บก.ส.1 ปัจจุบันช่วยราชการ กอ.รมน.ภาค 4 (ส่วนหน้า) ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 19 พ.ย. ที่ห้องประชุมชั้น 3 สำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี พล.ต.ต.ปิติ นฤขัตรพิชัย ผบก.ภ.จว.ราชบุรี ได้เรียกประชุมผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดีเพื่อติดตามความคืบหน้า ภายหลังเปิดเผยว่า เบื้องต้นต้องมีการดำเนินคดีฐานทำร้ายร่างกาย แต่ต้องรอผลตรวจร่างกายจากทางแพทย์ก่อนว่า เป็นการทำร้ายร่างกายสาหัสหรือไม่ ตอนนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อหา เพียงแต่พิจารณาและทางผู้เสียหายได้เดินทางเข้ามาเมื่อ 17.00 น. และได้มีการสอบปากคำไป 4 คน จนถึงเวลา 02.00 น. ก็ยังสอบปากคำไม่แล้วเสร็จ จึงได้นัดมาสอบปากคำอีกครั้งในวันนี้

“….จากการสอบปากคำเบื้องต้น เข้าข่ายกระทำความผิดแรก คือ การทำร้ายร่างกายผู้อื่น เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจเพียงข้อหาเดียว รอความเห็นแพทย์ถ้าลงความเห็นว่าอาการสาหัส ก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ส่วนการตรวจสอบที่เกิดเหตุและอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำร้าย เนื่องจากวันนี้มีการสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงทั้งหมด จึงสามารถพิจารณาความผิดสิ่งที่เกิดขึ้นนอกจากประมวลกฎหมายอาญา และผิดตามพระราชบัญญัติ ในเรื่องของการค้ามนุษย์ ซึ่งตอนนี้ทาง ส.ต.ท.หญิง ยังไม่มีการติดต่อเข้าในทุกช่องทาง ยืนยันว่าจะดำเนินการตรงไปตรงมา ไม่ว่าจะเป็นใคร เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะถูกคดีทางวินัยอีกส่วนหนึ่งด้วย เรื่องหลบหนีไม่กังวลเรารอกระบวนการเบื้องต้นให้แล้วเสร็จก็จะดำเนินการ ถ้าเมื่อไหร่ที่สอบสวนเสร็จแล้ว ก็จะสามารถออกหมายเรียกได้เลย นอกจากการสอบปากคำและผลแพทย์ก็ยังมีพยานหลักฐานอื่น ๆ หลายส่วน ส่วนกรณีคลิปทำร้ายร่างกายที่เปิดเผยไปนั้น จะนำมาประกอบการพิจารณา และพยายามเร่งรัดคดีให้แล้วเสร็จในวันนี้…” พล.ต.ต.ปิติ กล่าว