เมื่อวันที่ 28 พ.ย. ที่ สภ.หินซ้อน (สภ.ย่อยแก่งคอย) จ.สระบุรี นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการปองกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) นำโดยนายธนวัฒน์ สนิทศักดิ์ดี ผู้อำนวยการ ป.ป.ท.เขต 1 นำหนังสือร้องเรียนและเอกสารต่างๆ ที่ได้รับมาจากประชาชน เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.สัมพันธ์ หมื่นพินิจ รอง สว.(สอบสวน) สภ.หินซ้อน เพื่อให้ดำเนินคดีกับ นายยืนยง โอภากุล หรือ แอ๊ด คาราบาว นักร้องเพื่อชีวิตคนดัง โดยกล่าวหาว่า ครอบครองที่ดิน น.ส.3 ก รวม 35 ไร่ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าทับกวาง-มวกเหล็ก จ.สระบุรี แปลงที่ 1 รวม 2 ข้อหาด้วยกันคือ ออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบ/และบุกรุกครอบครองพื้นที่ป่าไม้ถาวร พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ มีความผิดตาม พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507/พ.ร.บ.ป่าไม้ 2485 และ แจ้งความกล่าวโทษ เจ้าพนักงานป่าไม้ฐานละเว้น (157)
นายวีระ สมความคิด กล่าวว่า ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านตั้งแต่เมื่อเดือน ต.ค. 2565 ให้มาตรวจสอบการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าทับกวาง-มวกเหล็ก เพราะชาวบ้านไม่สามารถใช้พื้นที่ได้ เนื่องจากมีการสร้างประตูรั้วเหล็กกั้นไม่ให้เข้า-ออก และอ้างว่าเป็นที่ดินส่วนบุคคล จึงประสาน ป.ป.ท. มาตรวจสอบ พบว่ามีการออกใบจอง น.ส21 เมื่อ 7 ส.ค. 2534 และ ออก น.ส.3 ก เมื่อ 6 มี.ค. 2535 ซึ่งถือว่าผิดปกติ เพราะกระบวนการเร็วเกินไป เดิมมีการออกเอกสารสิทธิ 16 ไร่ และพบงอกเป็น 34 ไร่ จึงเชื่อว่าน่าจะออกโฉนดโดยมิชอบ ในกระบวนการนี้จึงตั้งข้อสังเกตว่า ขั้นตอนการออกนี้ อาจมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาเกี่ยวข้องหลายหน่วยงาน หากสาวถึงใครก็จะเอาผิดได้ เพราะคดีบุกรุกที่ดินของรัฐไม่มีหมดอายุความ
นายวีระ กล่าวอีกว่า บริเวณพื้นที่ดังกล่าว มีการใช้ชื่อเชิงธุรกิจท่องเที่ยวว่า “น้ำ ผา ป่าใหญ่” และจากการตรวจสอบชื่อใน น.ส.3 เป็นชื่อของ นายยืนยง โอภากุล และมิได้ทำการเกษตรแต่อย่างใด และจากการตรวจสอบอย่างไม่เป็นทางการพบว่า เป็นพื้นที่ป่าไม้ถาวร บางส่วนเป็นป่าสงวนแห่งชาติ อีกทั้งยังพบว่ามีการะเบิดเขา เปิดเส้นทางขึ้นภูเขาระยะทางประมาณ 500 เมตร เป็นพื้นที่มีความลาดชัน มีต้นไม้ปกคลุม ล้อมรอบด้วยภูเขาหินปูนและแม่น้ำป่าสัก เบื้องต้นมีรายงานว่า นักร้องดังคนดังกล่าวได้ทำเรื่องการท่องเที่ยวแบบแอดเวนเจอร์ ซึ่งก่อนหน้านี้ เคยมีการแจ้งความคนขับรถแบ๊กโฮที่เคยมาระเบิดภูเขาหินปูนมาแล้ว แต่ทำไมกรมป่าไม้จึงไม่เข้ามาสำรวจ ปล่อยให้ มีการเทคอนกรีต สร้างรั้วเหล็ก ทั้งที่มีหน้าที่คืนสภาพป่าบุกรุกให้กลับคืนสภาพดังเดิม ซึ่งกรณีนี้ ตนจะติดตามการดำเนินการของเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิดต่อไป.
