เมื่อช่วงเย็นวันที่ 11 ม.ค.2567 นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง สั่งการให้ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง นำโดย นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการ ศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมาย พนักงานฝ่ายปกครอง นำกำลังบุกทลายบ่อนการพนันขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในถนนประวัติศาสตร์สายเทวราช หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า ถนนสะพานยาว ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โดยได้สนธิกำลังกับฝ่ายปกครอง จ.นครศรีธรรมราช นำโดนางศลิตา เสนา ป้องกันจังหวัดนครศรีธรรมราช และตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช นำโดย พ.ต.อ.นัษฐวุฒิ ทองทิพย์ รอง ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช พ.ต.อ.กิตติชัย ไกรนรา ผกก.สภ.เมือง พ.ต.ท.ธีระพล พุ่มชัย รอง ผกก.ป.สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช

สืบเนื่องจากนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ ว่าในตัวเมืองนครศรีธรรมราช มีบ่อนการพนันขนาดใหญ่เปิดให้นักพนันเข้ามาเสี่ยงโชคเป็นเวลานาน ในแต่ละวันจะมีนักพนันกว่า 200 คน เข้าไปเล่น มีรถยนต์กว่า 50 คันต่อวัน และหากนับรวมรถจักรยานยนต์ร่วมด้วยแล้วจะมีรถมากกว่า 100 คัน โดยบ่อนการพนันดังกล่าวจะมีการเปิดให้นักพนันเข้าเสี่ยงโชคได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยสายลับพนักงานฝ่ายปกครองลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าบ่อนการพนันแห่งนี้มีการวางระบบป้องกันการถูกจับกุมและอำพรางสายตาของเจ้าหน้าที่ไว้อย่างแน่นหนา โดยจะมีคนคอยเฝ้าต้นทางกว่า 10 จุด หากมีเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบก็จะส่งสัญญาณเข้าไปภายในบ่อนให้เจ้ามือและนักพนันได้หลบหนีไปทางช่องประตูลับทางด้านหลังบ่อน และบ่อนแห่งนี้ยังได้สร้างกำแพงสูง 2.5 เมตร ล้อมพื้นที่โดยรอบของบ่อน ซึ่งจะบดบังและอำพรางสายตาเจ้าหน้าที่ได้เป็นอย่างดี

เมื่อเข้าไปบริเวณภายในบ่อนยังพบว่ามีลานจอดรถกว้างขวาง จอดรถได้หลายร้อยคัน โดยพบรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของนักพนันจอดอยู่เรียงราย มีคนคอยจัดรถเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักพนัน ภายในพื้นที่ของบ่อนพบอาคารหลังใหญ่ ซึ่งมีการก่อสร้างขึ้นมาใหม่มีขนาดที่กว้าง สามารถจุนักพนันได้ 127 คน โดยด้านในติดเครื่องปรับอากาศ และมีร้านค้าคอยอำนวยความสะดวกให้แก่นักพนันอีกด้วย ภายในเปิดให้มีการเล่นพนันโปปั่น และไพ่สามใบ (ไพ่ 10 แต้ม) และนักพนันทั้งหมดจะกิน เล่น ครบจบภายในบ่อน แถมยังมีการตั้งโต๊ะไว้แลกเงิน วางเงินสดกองโตโชว์หรา เผยเลขบัญชีที่รับโอนแลกเงิน เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักพนันทั้งหลายให้สามารถเล่นพนันได้จนหมดเนื้อหมดตัวอย่างง่ายดาย

จากการเข้าตรวจค้นพบนักพนันและเจ้ามือ กว่า 127 คน ตรวจยึดของกลางอุปกรณ์การเล่นโปปั่นหลายชุด ไพ่กว่า 100 สำรับ นอกจากนี้ยังได้ตรวจค้นรถทุกคันอย่างละเอียด พบอาวุธปืนในรถหลายกระบอก โดยพบรถหรูคันหนึ่งไม่มีใครแสดงตัวเป็นเจ้าของ เจ้าหน้าที่จึงให้ช่างกุญแจมาไข จนเจ้าของยอมแสดงตัวในที่สุด เจ้าหน้าที่ตรวจค้นพบเงินสดกว่า 8 แสนบาท และเมื่อตรวจสอบเจ้าของรถพบว่าเป็น 1 ใน 3 ของเจ้าของและเจ้ามือบ่อนการพนันดังกล่าว

นอกจากนี้ยังพบว่ามีเงินโอนเข้า-ออกจากบัญชีของ 3 เจ้ามือหลายล้านบาท เฉลี่ยมีเงินหมุนเวียนภายในบ่อนการพนันแห่งนี้ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาทต่อวัน ฝ่ายปกครองชุดจับกุมได้ประสานพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ทำการอายัดรถยนต์ต้องสงสัยที่มีเงินสดจำนวนมากพร้อมอุปกรณ์การเล่นพนัน ซึ่งฝ่ายปกครองชุดจับกุมได้ทำการยึดไว้ตรวจสอบ และได้ยึดอาวุธปืนที่ตรวจพบไว้ทำการตรวจสอบ พร้อมอายัดบัญชี 3 เจ้ามือและจะแจ้งให้ทาง ปปง.เข้ามาตรวจสอบเส้นทางการเงิน หากพบการกระทำความผิดก็จะยึดทรัพย์ของ 3 เจ้ามือ/เจ้าของบ่อนต่อไป

โดยหลังจากปฏิบัติการเกือบ 3 ชม. ในเวลา 19.00 น. เจ้าหน้าที่นำตัวผู้ถูกจับทั้งหมด 127 คนมาทำบันทึกจับกุม ณ ที่ว่าการอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันลักลอบจัดให้มีหรือเข้าเล่น หรือเข้าพนันโดยผิดกฎหมาย ในส่วนของอาวุธปืนที่พบอยู่ในรถ ได้แจ้งข้อหากับผู้ครอบครองรถ ในข้อหาพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร นำตัวผู้ถูกจับทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จำนวนเงินที่ยึดได้จากวงโปปั่น 64,330 บาท + เจ้ามือ 50,000 บาท รวม 114,330 บาทและจำนวนเงินวงไพ่สิบแต้ม 111,755 + เจ้ามือ 52,920 บาท รวม 164,675 บาท รวมจำนวนเงิน 2 วง 279,005 บาท นอกจากนี้ยังตรวจยึดเงินในรถของ 1 ใน 3 เจ้ามืออีก 8 แสนบาท รวมเงินของกลางที่ตรวจยึดกว่า 1.1 ล้านบาท ซึ่งจะยึดไปตรวจสอบ พร้อมอายัดบัญชี 3 เจ้ามือและรายงานให้ ปปง.เข้ามาตรวจสอยเส้นทางการเงินของ 3 เจ้ามือและยึดทรัพย์ตามกฎหมายต่อไป.