คริสตินา บาวากัน อดีตนักโทษการเมืองและนักเคลื่อนไหว วัย 67 ปี ยังคงมีชุดที่เธอสวมใส่ในวันที่ถูกจับกุม ทรมาน และล่วงละเมิดทางเพศโดยทหาร ในช่วงยุคกฎอัยการศึกอันโหดร้ายของ อดีตประธานาธิบดี เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส ผู้นำเผด็จการของฟิลิปปินส์ซึ่งล่วงลับไปนานแล้ว

คริสตินา บาวากัน ให้ผู้สื่อข่าวดูชุดเดรสที่เธอสวมใส่ เมื่อถูกจับกุมในยุครัฐบาลมาร์กอส

บาวากันกล่าวว่า ความน่ากลัวจากการปกครองของมาร์กอสจะลดลงบ้าง หากบุตรชายของเขาชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ในวันที่ 9 พ.ค.นี้ ชัยชนะที่จะจำกัดการสู้กลับทางการเมืองกว่า 3 ทศวรรษ สำหรับครอบครัวที่ถูกขับไล่ในการปฏิวัติ “พลังประชาชน” เมื่อปี 2529

นายเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ หรือที่รู้จักในชื่อ “บองบอง” ได้ประโยชน์จากสิ่งที่นักวิเคราะห์การเมืองบางคนเรียกว่าเป็น ความพยายามในการประชาสัมพันธ์นานหลายทศวรรษ เพื่อเปลี่ยนความเข้าใจที่มีต่อครอบครัวของเขา ซึ่งถูกกล่าวหาใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟือยในตำแหน่งผู้ปกครองของ 1 ในโจราธิปไตยที่ฉาวโฉ่มากที่สุดในเอเชีย

Reuters

กลุ่มคู่ปรับของครอบครัวมาร์กอส กล่าวว่า การลงเลือกตั้งประธานาธิบดีคือความพยายามที่จะเขียนประวัติศาสตร์ขึ้นใหม่ และเปลี่ยนการบรรยายถึงการทุจริตคอร์รัปชั่นและอำนาจนิยมที่เกี่ยวข้องกับยุคบิดาของเขา

“การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ใช่แค่การต่อสู้เพื่อตำแหน่ง แต่มันเป็นการต่อสู้กับข้อมูลเท็จ, ข่าวปลอม และการแก้ไขประวัติศาสตร์ใหม่อีกด้วย” นางเลนี โรเบรโด รองประธานาธิบดีคนปัจจุบัน ซึ่งเป็นคู่แข่งคนสำคัญของมาร์กอส จูเนียร์ บอกกับเหล่าผู้สนับสนุนเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ มาร์กอส จูเนียร์ ผู้เรียกบิดาผู้ล่วงลับของเขาว่าเป็น “อัจฉริยะทางการเมือง” ปฏิเสธข้อกล่าวหาการกระจายข้อมูลเท็จ และโฆษกของเขากล่าวว่า มาร์กอส จูเนียร์ ไม่ได้มีส่วนร่วมในการรณรงค์เลือกตั้งทางลบ

ข่าวการจับกุมคริสตินา บาวากัน บนหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง

บาวากันกล่าวว่า เหยื่อของกฎอัยการศึกหลายคนเช่นเธอ จำเป็นต้องแบ่งปันเรื่องราวเพื่อตอบโต้การพรรณนาระบอบการปกครองของมาร์กอส ว่าเป็นยุคทองอันสงบสุขสำหรับฟิลิปปินส์

มาร์กอสผู้พ่อปกครองประเทศนาน 2 ทศวรรษ จากปี 2508 ที่เกือบครึ่งหนึ่งของช่วงเวลานั้นอยู่ภายใต้กฎอัยการศึก มีผู้ถูกคุมขังราว 70,000 คน, ถูกทรมานราว 34,000 คน และถูกสังหารอีก 3,240 คน ตามข้อมูลตัวเลขจากองค์การนิรโทษกรรมสากล ซึ่งมาร์กอส จูเนียร์ ตั้งข้อสงสัยถึงตัวเลขเหล่านั้นในบทสัมภาษณ์เดือน ม.ค.ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม เหยื่อความโหดร้ายของรัฐในช่วงกฎอัยการศึกมากกว่า 11,000 คน ได้รับค่าทำขวัญด้วยเงินหลายล้านจากบัญชีเงินฝากธนาคารสวิสของมาร์กอส ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเงินหลายพันล้านที่ครอบครัวดึงออกจากเงินกองทุนของประเทศ และกู้คืนโดยรัฐบาลฟิลิปปินส์ หนึ่งในนั้นคือ เฟลิกซ์ ดาลีเซ ที่ถูกคุมขังเมื่อเดือน ส.ค. 2516 นานร่วม 17 เดือน หลังจากที่เขาถูกทำร้ายร่างกายและทรมาน โดยทหารที่พยายามบังคับให้เขาบอกข้อมูลนักเคลื่อนไหวคนอื่น ส่งผลให้เขาสูญเสียการได้ยิน

เฟลิกซ์ ดาลีเซ ให้สัมภาษณ์ที่บ้านพัก ในกรุงมะนิลา

การกลับมาของตระกูลมาร์กอส เป็นเรื่องที่ดาลีเซ ที่อายุจะครบ 70 ปี ในเดือนนี้ ไม่สามารถจินตนาการได้

“พวกเราโกรธมากกับความคิดนั้น” ดาลีเซ กล่าว “มาร์กอสผู้พ่อประกาศกฎอัยการศึก และบอกว่าจะไม่มีใครถูกจับและทรมาน? เรากำลังพูดถึงเรื่องนั้นโดยที่ยังมีชีวิตอยู่ในตอนนี้”.

เลนซ์ซูม

เครดิตภาพ : REUTERS