เรียนคุณหมอ ดร.โอ สุขุมวิท 51 ที่นับถือ

ผมอายุ 67 ปี ป่วยเป็นโรคหัวใจ แต่ยังมีความต้องการทางเพศสูงอยู่ ส่วนภรรยาอายุ 54 ปี มีความต้องการเช่นเดียวกัน แต่เจออุปสรรคคืออวัยวะเพศไม่ยอมแข็งตัวหรือถ้าแข็งก็แข็งไม่เต็มที่อ่อนตัวไวมาก เวลาหลั่งน้ำอสุจิก็ไม่พุ่ง เพียงแต่ไหลธรรมดา จึงอยากเข้ามารับการปรึกษากับหมอโอเกี่ยวกับสาเหตุ ต้นตอจะมาจากยาโรคหัวใจที่รับประทานอยู่หรือไม่ พอจะมีวิธีการรักษาแก้ไขให้กลับมาแข็งตัวเหมือนเดิม หรือมียาเฉพาะกิจตัวไหนที่ช่วยให้ผมกับภรรยากลับมามีความสุขทางเพศได้บ้าง

ด้วยความนับถือ
ทรนง 67

ตอบ ทรนง 67

ผู้ชายส่วนมากที่มีอาการเสื่อมสมรรถภาพไม่ว่าจะเป็นการแข็งตัวช้า แข็งตัวไม่เต็มที่ อ่อนตัวไว มักจะมีสาเหตุมาจากระบบการไหลเวียนของเลือดซึ่งเกิดจากผนังหลอดเลือดมีความยืดหยุ่นน้อยเกิดจากการแข็งตัว ทำให้การขยายตัวของผนังหลอดเลือดลดลง ส่งผลให้มีปริมาณเลือดไหลเข้าองคชาตได้ไม่เพียงพอที่จะไปปิดวาล์วของหลอดเลือดดำที่ทำหน้าที่ให้เลือดในองคชาตไหลออกเมื่อเกิดการหลั่งน้ำอสุจิ

ดังนั้นเมื่อมีเลือดไหลเข้าองคชาตไม่เต็มที่ทำให้วาล์วปิดไม่สนิทก็จะทำให้เลือดที่ไหลเข้าเกิดการไหลออกได้ง่าย การแข็งตัวก็จะเกิดขึ้นได้ช้าหรือแข็งแต่เมื่อสอดใส่ก็อ่อนตัวไวทำให้คู่ร่วมรักขาดความสุขทางเพศ ชายวัย 67 ปี ป่วยเป็นโรคหัวใจ ผู้เป็นโรคหัวใจมีอาการอีดีด้วยแล้วการฟื้นฟูอาการดังกล่าวต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการใช้ยาเฉพาะกิจในคนไข้โรคหัวใจที่มีการให้ยารักษากลุ่มไนเตรตอยู่ด้วยจึงถือเป็นข้อห้ามใช้โดยเด็ดขาด เช่นคุณก็กำลังใช้ยากลุ่มไนเตรตอยู่จึงห้ามใช้ยาเฉพาะกิจ จึงต้องเลี่ยงไปใช้ยาฉีด

ปัจจุบันมีเทคโนโลยีใหม่ที่สามารถรักษาอาการอีดีจากความผิดปกติของระบบไหลเวียนเลือดโดยใช้เครื่องมือที่มีหลักการเดียวกันกับเครื่องสลายนิ่ว ซึ่งเรียกว่า ช็อกเวฟ (Shock wave)ทำให้เกิดการไหลเวียนของเลือดในองคชาตเพิ่มขึ้น มีประสิทธิภาพสูงในการฟื้นฟูและปลอดภัยต่อผู้เข้ารับการฟื้นฟูด้วยวิธีนี้ จึงถือเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก

การฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศของผู้ชายที่มีปัญหาของโรคหัวใจและหลอดเลือดจึงแนะนำให้เข้ารับการฟื้นฟูให้เส้นเลือดงอกเพิ่มได้เช่นรากต้นไม้คู่กับการขยายตัวของกล้ามเนื้อเพศให้ใหญ่ขึ้นคู่กับสามารถแข็งตัวได้ 30 นาที โดยไม่ต้องใช้ยากินที่อาจเป็นอันตรายต่อโรคหัวใจฟื้นฟูโดยตรง ซึ่งถือเป็นวิธีที่ดีปลอดภัยโดยไม่ต้องพึ่งยาเฉพาะกิจ

————————–
ดร.โอ สุขุมวิท 51