ห่างหายไป 7 เดือนเต็ม สมรภูมิเดือดที่สามเหลี่ยมดินแดง-ถนนวิภาวดีฯ ก็หวนกลับมาอีกเมื่อ 4-5 ทุ่ม 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา เมื่อโควิดจาง รัฐบาลเปิดเมืองเต็มที่ ผับ บาร์ คาราโอเกะ เปิดได้ถึงตี 2 เลิก “ไทยแลนด์พาส” แม้แต่กัญชาก็เสรีแล้ว ม็อบไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงเริ่มกลับมา ถึงรัฐบาลจะคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินไว้เล่นงาน “ม็อบสามกีบ” ต่ออีกหลัง 31 ก.ค.นี้ โดยไม่สนบริษัทประกันที่จะไม่ขายกรมธรรม์ให้นักท่องเที่ยวในพื้นที่ที่ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อยู่ก็ตาม

อย่างที่รู้ ม็อบสามเหลี่ยมดินแดง หลัก ๆ คือกลุ่ม “ม็อบทะลุแก๊ส” มาเอง ไปเอง ไม่มีคนนำ มีแนวทางต่อสู้อิสระ แม้แต่ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำคนเสื้อแดง เคยเข้าไปขอให้ยุติการชุมนุมเพราะกลัวตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) ใช้ความรุนแรง ก็ยังถูกโห่ไล่กระเจิง จนต้องล่าถอยในที่สุด

ครั้งนั้นมีเด็กอายุ 15 ถูกยิงกระสุนฝังก้านสมองเสียชีวิต แม่ใจสลายเพราะเป็นลูกชายคนเดียว เป็นข่าวสะเทือนใจทั่วโลก แต่คงลอยนวลเช่นทุกครั้งที่ปราบหนักประชาชนตาม พ...ฉุกเฉิน

ม็อบทะลุแก๊สกลับมาอีกครั้ง ใครไม่สน เราสนและเธอคนนี้ก็สน

ผศ.ดร.กนกรัตน์ เลิศชูสกุล อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯที่เคยลงพื้นที่สัมภาษณ์เด็ก 30 กว่าคนในม็อบดินแดง บอก “บีบีซีไทย” ล่าสุด สรุปได้ว่า ตั้งแต่ม็อบทะลุแก๊สยุติไปเมื่อปลายปีที่แล้ว รบ.ไม่เคยศึกษาปัญหาว่าอะไรคือที่มาของม็อบเลย ทั้งที่พวกเขาไม่ได้มีแค่ข้อเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ออกไป หรือแก้รัฐธรรมนูญ หรือเลือกตั้งใหม่เท่านั้น แต่จบด้วยการจับกุมเด็กกว่า 400 คนอย่างค้างคาใจ “ปัญหาของม็อบทะลุแก๊ส คือ การอยู่หรือตาย พรุ่งนี้จะมีเงินจ่ายค่าเช่าบ้านมั้ย ค่ามอ’ไซค์มั้ย เศรษฐกิจที่ย่ำแย่ลง ยิ่งทำให้เยาวชนลูกหลานชนชั้นล่างในเมืองถูกทอดทิ้ง ไม่สามารถเข้าถึงโอกาสใหม่ ๆ หรือสวัสดิการเลย หลายคนเริ่มกลายเป็นคนไร้บ้าน ไม่มีงาน ถูกครอบครัวทอดทิ้งหลังถูกจับ และนี่คือการต่อสู้ส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของพวกเค้า ให้คนรู้ว่ามีตัวตน เพราะเค้าเป็นกลุ่มแรก ๆ ที่ถูกเจ้าหน้าที่รัฐละเมิดในแทบทุกมิติ หากไม่แก้ไข สมรภูมิที่ดินแดงจะสาหัสขึ้น”

ล่าสุด คฝ.จับอีก 11 คนเข้าคุก ไม่ให้ประกันตัว ตั้งข้อหาหนักตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตั้งแต่ อั้งยี่ ซ่องโจร เป็นภัยความมั่นคงและน่าจะมีผิด ม.112 ด้วย เพราะมีคนไปยกป้ายปล่อยเพื่อนเราด้วย

เคยเขียนไปว่า สมรภูมิที่ดินแดงเหมือนซีรีส์เกาหลียอดฮิตที่โด่งดังไปทั่วโลกเรื่อง “Squid Game” ที่กำลังจะมีภาค 2 ในเร็ว ๆ นี้ และทันทีที่ออกข่าว หุ้น NETFLIX ก็พุ่งทะยานโลด มันเป็นเรื่องของคนที่สิ้นไร้ไม้ตอก ไร้อนาคต ไร้ทางไป เลยไปรุมเล่น “เกมลุ้นตาย” ที่ใครรอดจะได้เงินก้อนใหญ่ ดีกว่าซังกะตายอยู่ไปวัน ๆ ช่างเหมือนที่ ดร.ผศ.กนกรัตน์ บอกไว้เป๊ะ ฉันใดก็ฉันนั้น

แต่ไอ้ที่ไม่เข้าใจสุด ๆ คือ บรรดาสื่อที่เรียกตัวเอง “สื่อแท้” ดาหน้าออกมาด่าทอผู้ว่าฯ กทม. ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ที่จะให้สำนักพัฒนาและเขตเข้าไปพุดคุยหาทางแก้ปัญหาเรื่องทำมาหากินที่ดินแดง ผิดมากมายหรือไง รวมทั้งที่ไม่อยากให้เจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรง อยากให้ม็อบชุมนุมโดยสงบ ผิดตรงไหน ฝ่ายไหนชุมนุม กทม. ก็ควรให้ “รถส้วม” ไม่ใช่หรือ หรือจะให้เป็นแบบเก่าที่ กทม. ไม่ให้รถส้วม แม้แต่เช่าเอกชนมา ก็ยังไปตามรังควานอีก จนต้อง “ขี้เยี่ยว” ตามท่อ ตามพื้นตามยถากรรม ต้องอย่างนั้นใช่มั้ย ถึงจะเป็นผู้ว่าฯ คนดีย์อ่ะ ไม่ต้องพูดถึงเมตตาธรรมหรอก

เรื่องขี้เยี่ยวนี่ มันเป็น “สิทธิมนุษยชน” พื้นฐานที่สุดแล้ว จริงมั้ย

เหนืออื่นใด เยาวชนเหล่านี้ไม่ใช่อนาคตของชาติหรือ หรือเป็นแค่ “ขยะสังคม” อย่างที่เหล่าคนดี “ตีตราบาป” ให้ แม้แต่บางเพจของตำรวจยังเอาด้วย ถึงทุบตีระดมยิงใส่ได้หน้าตาเฉย ไงเล่า?!?

ประเทศไทยที่จมปลัก ไม่ไปไหน นอกจากมีผู้นำเผด็จการที่จ้องแต่จะสืบทอดอำนาจ ยอมตายคาเก้าอี้ ไร้เมตตาธรรม ไร้ฝีมือแล้ว ก็เพราะมี “สื่อแท้” ที่อคติครอบงำหน้ามืดตามัว คุณธรรมอักเสบ เลวร้ายไม่แพ้กันนี่แหละ

—————————-
ดาวประกายพรึก