แกนหลักของ ‘Girl in the Picture’ คือเรื่องราวของเหยื่อสาวซึ่งมีชื่อจริงว่า ‘ซูซาน เซวาคิส’ และชะตาชีวิตที่น่าสะเทือนใจของเธอที่เริ่มต้นตั้งแต่ยังอยู่ในวัยเด็กเล็ก เมื่อ ‘แฟรงคลิน เดลาโน ฟลอยด์’ ลักพาตัวเธอไป เซวาคิส ต้องผ่านการโดนทำร้าย ทั้งทางร่างกายและจิตใจ ก่อนจะจบลงด้วยความตายของเธอ 

ในตอนแรก Girl in the Picture บอกเล่าเรื่องราวของเหยื่อฆาตกรรมจากคดี ‘ชนแล้วหนี’ วัย 22 ปีที่ชื่อว่า ‘ทอนยา ฮิวจ์’ แต่เมื่อการสืบสวนค่อย ๆ คลี่คลายไป จึงได้ค้นพบตัวจริงของเธอ ซึ่งก็คือ ซูซาน เซวาคิส เด็กหญิงที่โดนลักพาตัวไปตั้งแต่ยังเล็ก พร้อมกับน้องชายผู้โชคดีกว่า เพราะ ฟลอยด์ ตัดสินใจยกเด็กชายให้ครอบครัวอื่นรับอุปการะไป แต่เขาเก็บเธอไว้

ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ เซวาคิส อยู่กับ ฟลอยด์ เขาเปลี่ยนชื่อให้เธอหลายครั้ง เพื่อป้องกันการติดตามจากทางการ เนื่องจากตัวเขาเองก็อยู่ในระหว่างหลบหนีคดีอาชญากรรม ที่เขามีส่วนเกี่ยวข้องหลายคดี 

ความวิปริตทางจิตใจของ ฟลอยด์ นั้นน่าตระหนก ในตอนแรก เขาเลี้ยง เซวาคิส เหมือนลูกสาว แต่ในช่วงสุดท้ายก่อนที่เธอจะเสียชีวิต เขาแสดงตัวว่าเป็นสามีของเธอ จากการสืบสวนยังพบว่า ฟลอยด์ ทำร้ายร่างกาย เซวาคิส รวมถึงล่วงละเมิดทางเพศเธอมาตลอด เขายังมีลูกชายและลูกสาวกับเธอ 3 คน โดยคนเล็กสุดชื่อว่า ‘ไมเคิล’ 

หลังจาก เซวาคิส เสียชีวิต ไมเคิล ก็ได้ครอบครัวใหม่รับเลี้ยง ต่อมาภายหลัง ฟลอยด์ ได้กลับมาหาเขา และพยายามลักพาตัวลูกชายไปจากครอบครัวใหม่ ร่องรอยของเด็กชายหายไปหลายปี จนกระทั่งในอีกสิบกว่าปีให้หลัง เมื่อ ฟลอยด์ โดนจับกุมอีกครั้งราวปี 2558-2559 เขาก็สารภาพว่า ได้ใช้ปืนยิงเด็กชายจนเสียชีวิตตั้งแต่วันที่ลักพาตัวเขาไปแล้ว

ในตอนท้ายของภาพยนตร์ แสดงให้เห็นว่า ฟลอยด์ โดนจับกุมและรับโทษจำคุก แต่ก็ยังมีคนสงสัยว่า ในความเป็นจริง ณ ปัจจุบันนี้ เขาไปอยู่เสียที่ไหนกันแน่

เนื่องจาก ฟลอยด์ เป็นอาชญากรตัวฉกาจและมีคดีติดตัวมากมาย นอกเหนือจากการลักพาตัว ทอนยา ฮิวจ์/ซูซาน เซวาคิส แล้ว ก่อนหน้านั้น เขายังเคยลักพาตัวและล่วงละเมิดทางเพศเด็กหญิงวัย 4 ขวบ เมื่อปี ค.ศ.​1962 และต้องรับโทษจำคุก 20 ปี แต่ก็ใช้เล่ห์เหลี่ยมแอบอ้างว่าป่วย และแอบหลบหนีระหว่างการไปหาหมอ ก่อนจะบุกปล้นธนาคารในเวลาต่อมา แต่ก็โดนจับและต้องติดคุก จนกระทั่งได้รับการปล่อยตัวในปี ค.ศ. 1972 

หลังจากนั้นเขาก็ก่อคดีอาชญากรรมอีกหลายครั้ง รวมถึงคดีเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศ และตามด้วยการลักพาตัว เซวาคิส 

ในระหว่างที่ เซวาคิส ยังอยู่กับเขา ฟลอยด์ เคยลงมือฆ่า ‘เชอรีล คอมเมสโซ’ เพื่อนหญิงของเธอด้วย ซึ่งหลังจากมีการขุดพบศพของ คอมเมสโซ ฟลอยด์ ก็โดนจับกุมและตั้งข้อหาลักพาตัว/กักขังหน่วงเหนี่ยว รวมถึงฆาตกรรมหญิงผู้เคราะห์ร้าย เขาได้รับการตัดสินให้รับโทษประหารชีวิต

ปัจจุบัน ฟลอยด์ อายุได้ 79 ปีแล้ว และโดนจำคุกอยู่ในทัณฑสถานแห่งฟลอริดา และอยู่ในระหว่างรอคิวรับโทษประหารชีวิต แม้ว่าจะยังไม่มีการกำหนดวันลงไป ขณะที่คดีของ เซวาคิส นั้น กลับไม่สามารถระบุลงไปได้ว่า เขาคือฆาตกรตัวจริง แม้ว่าเขาจะเป็นผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่ง และยังคงเป็นคดีที่ปิดไม่ลงจนถึงทุกวันนี้

แหล่งข้อมูล : screenrant.com, msn.com

เครดิตภาพ : YouTube/Netflix