เมื่อวันที่ 19 ก.ค. ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีลงนามในคำสั่งแต่งตั้ง “คณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อบริหารสถานการณ์วิกฤติเศรษฐกิจ” โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม เป็นประธานกรรมการ

ขณะที่รองนายกรัฐมนตรี 5 คน เป็นรองประธานกรรมการ และกรรมการประกอบด้วย รมว.คลัง รมว.เกษตรฯ รมว.คมนาคม รมว.มหาดไทย รมว.อุตสาหกรรม ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ปลัดกระทรวงเกษตรฯ ปลัดกระทรวงคมนาคม ปลัดกระทรวงพลังงาน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เลขาธิการสภาพัฒน์ ผอ.สำนักงบประมาณ ผู้ว่าการแบงก์ชาติ ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นกรรมการและเลขานุการ

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะประธานกรรมการเฉพาะกิจเพื่อบริหารสถานการณ์วิกฤติเศรษฐกิจ ยังแต่งตั้ง “คณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์วิกฤติเศรษฐกิจ” โดยมีปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธานอนุกรรมการร่วมกับคณะ คือ รองเลขาธิการสภาพัฒน์ รองเลขาธิการ สมช. ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ-คมนาคม-พลังงาน-พาณิชย์-มหาดไทย-อุตสาหกรรม และผู้แทนสำนักงบประมาณ

“พยัคฆ์น้อย” ไม่รู้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จำได้หรือเปล่า? ว่าตัวเองเป็น “หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ” เป็น “ประธานกรรมการ” ปาเข้าไปกี่คณะแล้ว? และเป็นการ “ซื้อเวลา” ใช่หรือไม่ เพราะโดยปกติมีการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) อยู่แล้วไม่ใช่หรือ?

พล.อ.ประยุทธ์ เซ็นแต่งตั้งอะไรกัน? ในวันที่ฝ่ายค้านเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯและรัฐมนตรีรวม 11 คน โดยมีรายการ “ยำใหญ่” พล.อ.ประยุทธ์ นานที่สุด 30 ชั่วโมง เนื่องจากเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งสุดท้ายของรัฐบาลชุดนี้

ดังนั้นฝ่ายค้านจึงต้องใช้เวลานาน ๆ กับ พล.อ.ประยุทธ์ ตลอดห้วง 8 ปีที่เข้ามาเป็นนายกฯ เนื่องจากมี “นั่งร้าน” ประกอบด้วย 1.รัฐธรรมนูญปี 60 และ ส.ว.แต่งตั้ง 250 คน ไว้เป็นเครื่องมือสืบทอดอำนาจ 2.วางเครือข่ายไว้ในองค์กรอิสระเยอะแยะไปหมด ชนิดที่ว่าต้องเกรงใจ พล.อ.ประยุทธ์ ก็แล้วกัน 3.มีพรรคร่วมรัฐบาล 2 พรรคใหญ่ ช่วยเป็นตัวประกอบ

บิ๊กตู่'อ้อนไม่ใจร้าย!หวานควง'เสี่ยหนู-อู๊ดด้า'ร้องเพลง | เดลินิวส์ | LINE  TODAY

ทั้งนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ยอม “เสียสัตย์” ตอนหาเสียงเลือกตั้งปี 62 ว่าจะไม่ร่วมกับ ส.ว.ลากตั้ง ไม่ร่วมกับทหาร แต่กลับไปร่วมหัวจมท้ายกับ พล.อ.ประยุทธ์

พล.อ.ประยุทธ์ บริหารประเทศอย่างต่อเนื่อง 8 ปี มีอำนาจมาก ๆ มีโอกาสทุกอย่าง แต่กลับทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศยังคิดถึงคนชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร” อยู่! หรือแม้แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ก็อย่าปฏิเสธเลยว่าก้าวพ้น “ทักษิณ” ไปแล้ว! เนื่องจากไม่ว่าจะมีการอภิปรายกี่ครั้งก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ ยังวนเวียนอยู่กับ “ทักษิณ”

ถามว่าเพราะอะไร เพราะปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของพี่น้องประชาชน ที่รัฐบาล คสช. และรัฐบาลปัจจุบัน แก้ปัญหาให้คนส่วนใหญ่ไม่ได้ ยิ่งอยู่นานคุณภาพชีวิตยิ่งแย่ ข้าวของแพง หนี้พุ่งสูง ทั้งหนี้สาธารณะและหนี้ครัวเรือน

พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ในตำแหน่งนาน ๆ ไม่ได้ทำให้เพื่อนบ้านเกรงใจนะ! ไม่เช่นนั้นคงไม่มีเครื่องบินรบ “ตีวงเลี้ยว” เข้ามาในน่านฟ้าไทย

ดังนั้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเที่ยวนี้ จึงไม่ได้มีแค่การยกมือในสภาเท่านั้น แต่นอกสภาทั้งประชาชนและนักวิชาการก็เปิดให้มีการโหวตไล่รัฐบาลด้วย

ก็มีอย่างที่ไหน เมื่อมีการสำรวจประเทศในอาเซียนที่ “ยิ้มแย้ม” ให้ผู้คนมากที่สุดคือ อินโดนีเซีย ส่วนประเทศไทย เจ้าของสมญานาม “สยามเมืองยิ้ม” ร่วงไปอยู่อันดับที่ 9 เพราะคนไทยส่วนใหญ่ยิ้มไม่ออกกันมา 8 ปีแล้ว!!

———————
พยัคฆ์น้อย