“บางครั้งเราก็เหมือนคนตาบอด…มีวิธีเดียวที่จะพาเรามุ่งหน้าไปได้…คือการคลำทางเดินหน้าต่อไป”

เป็นคดีเตือนภัยที่หลายคนติดตามข่าวตั้งแต่ช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้วจนมาถึงต้นสัปดาห์นี้ คดีที่พ่อคิดว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่กำลังอาละวาดอยู่ในสังคมบ้านเรา โทรฯมาหลอกให้ลูกชายตัวน้อยแอบโอนเงินของพ่อไปให้พวกมัน แต่ที่สุดแล้วกลับกลายเป็นคนละเรื่อง

เหตุการณ์อุทาหรณ์ที่กลายเป็นเรื่องโอละพ่อนี้เริ่มจาก นายเอ อายุ 49 ปี ชาว อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช พ่อค้าปุ๋ย ได้ร้องเรียนขอความช่วยเหลือ บอกว่า มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรฯเข้ามาหลอกเอาข้อมูลส่วนตัวจาก ลูกชายวัย 10 ขวบ ก่อนจะแอบทำธุรกรรมการเงินโดยที่ตนเองไม่ทราบ มีการโอนเงินไปเข้าบัญชีปลายทางถึง 65 ครั้ง ตั้งแต่วันที่ 7-25 ก.ค. 65 เป็นเงินรวม 1,206,000 บาท

โดยก่อนหน้านี้ตัวลูกมาขอใช้โทรศัพท์มือถือพ่อเพื่อเรียนออนไลน์ และเล่นเกมออนไลน์ ปรากฏว่ามีมิจฉาชีพติดต่อเข้ามาเป็นจังหวะที่ตัวลูกรับสาย อีกฝ่ายจึงพยายามตีซี้กับลูกด้วยการสอบถามว่าลูกชอบเล่นเกมอะไร อยากชนะหรือเปล่า อยากได้คะแนนมากกว่าเพื่อนหรือไม่ หากทำตามที่มิจฉาชีพบอกก็จะได้คะแนนเกมสูงกว่าคนอื่น

แต่ก็มีเงื่อนไขว่า ห้ามบอกเรื่องนี้กับพ่อเด็ดขาด ปรากฏว่าลูกหลงเชื่อ ใช้มือถือถ่ายรูปบัตรประจำตัวประชาชน ซึ่งมีข้อมูลส่วนตัวส่งไปให้มิจฉาชีพ ก่อนจะแชตไลน์คุยกันหลายครั้งหลายหน สั่งให้ทำตามที่มิจฉาชีพบอกทุกอย่าง จนสุดท้ายมีการโอนเงินจากบัญชีธนาคารของพ่อไป ก่อนที่อีกฝ่ายจะบล็อกการติดต่อทั้งหมด

ช่วงแรก ตัวพ่อรู้สึกแปลกใจเพราะปกติเมื่อมีเงินโอนเข้าโอนออกบัญชีจะมีข้อความ sms ธนาคารแจ้งให้ทราบทุกครั้ง แต่ในกรณีนี้กลับไม่มีข้อความ sms แจ้งบอกกล่าวใดๆ ปกติแม้ตัวพ่อจะทำธุรกิจจำหน่ายปุ๋ย แต่ไม่เคยโอนเงินผ่านทางออนไลน์เลย เพราะกลัวเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จนเมื่อนำสมุดบัญชีไปปรับจึงได้รู้ความจริงว่าเงินถูกโอนออกไปต่อเนื่องถึง 65 ครั้ง

คดีนี้เป็นเรื่องใหญ่โตเพราะการที่แก๊งคอลฯโทรฯมาหลอกเด็กให้ดูดเงินพ่อแม่ตัวเองนั้นยังไม่เคยมีข่าวให้เห็นมาก่อน ถึงขนาดที่ว่า นายไกรศร วิศิษฏ์วงศ์ ผวจ.นครศรีธรรมราช กับ พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ต้องเข้ามาดูแลคดีเองในส่วนที่ธนาคารปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลของชื่อและเลขบัญชีปลายทางที่มีการโอนเงินจากบัญชีของ นายเอ ผู้เสียหาย

หลังจากเป็นข่าวครึกโครมไม่กี่วัน ทางตำรวจที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีอย่างกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีก็เปิดหน้าลงพื้นที่มาช่วยไล่ล่าหาข้อเท็จจริง เพื่อจะแกะรอยตามหาแก๊งมิจฉาชีพแสบ

ปรากฏว่าเมื่อสืบค้นข้อมูลทั้งหมดแล้วกลับพบว่า เหตุการณ์นี้ไม่ใช่คดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง แต่เป็น 1.ตัวลูกชายนำโทรศัพท์มือถือพ่อไปใช้เล่นเกมออนไลน์เกมหนึ่ง แล้วมีการซื้อไอเทมในเกมด้วยการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (E-wallet) และ 2.ตัวเด็กโอนเงินไปสนับสนุนผู้ทำ Content ผ่านช่องทาง YouTube

การทำธุรกรรมแต่ละครั้ง เป็นการกระทำผ่านอุปกรณ์ 2 เครื่องด้วยกันคือ 1.อุปกรณ์ Tablet ยี่ห้อ Lenovo รุ่น Tab MB 2.โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ OPPO รุ่น A74 5G ซึ่งเป็นอุปกรณ์ของ นายเอ ที่ได้มอบให้ลูกไว้ใช้งาน และจากการตรวจสอบข้อมูลในมือถือเครื่องดังกล่าว ก็พบว่า มีการใช้งานกับกระเป๋า E-wallet และแอพพลิเคชั่น Mobile banking ซึ่งผูกบัญชีไว้ด้วยกันจริง

คดีนี้เลยกลับตาลปัตร ตำรวจไซเบอร์ต้องอธิบายให้ นายเอ รู้ว่า แท้จริงแล้วมันไม่ได้เกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงแต่อย่างใด แต่เกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของตัวลูก ในการใช้บริการอินเทอร์เน็ตและเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ ในการทำธุรกรรมผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์

จากคดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรฯหลอกลูกให้มาสูบเงินพ่อ กลับกลายเป็นตัวลูกที่อ่อนต่อโลกเอาเงินพ่อไปโอนให้กับยูทูบเบอร์เอง เป็นคดีโอละพ่อไปเลย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอย่างน้อยเหตุการณ์นี้ก็นำมาใช้เป็นอุทาหรณ์ให้กับพ่อแม่ผู้ปกครองหลายๆครอบครัวที่ให้ลูกหลานที่ยังไม่ทันต่อโลกเอาสมาร์ทโฟนไปเล่นเกม..ได้อย่างดี.

ตำรวจชุมชนสัมพันธ์

ช่วยเหลือ ปชช.
พ.ต.อ.รัตนสุข คำวงศ์ ผกก.สภ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ได้สั่งการให้ ร.ต.อ.ภานุพันธุ์ สุพันทวี รอง สวป.สภ.ชุมแพ ปฏิบัติหน้าที่ร้อยเวรงานป้องกันปราบปราม ด.ต.ไพจิตร ซุยโพธิ์น้อย ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม ปฏิบัติหน้าที่พลขับ ออกช่วยเหลือประชาชน หลังได้รับแจ้งรถยนต์แบตเตอรี่หมด สตาร์ตเครื่องยนต์ไม่ติด ก่อนเข้าให้ความช่วยเหลือด้วยการพ่วงแบต จนสามารถเดินทางต่อไปได้ พร้อมแนะนำร้านเปลี่ยน ซ่อม แบตเตอรี่เพื่อป้องกันเกิดปัญหาในอนาคต

“บิ๊กโจ๊ก” ตรวจเยี่ยม
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร.(ปป.1) ประธานกรรมการประเมินโครงการ Smart Safety Zone 4.0 พร้อมด้วย พร้อมคณะกรรมการและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเดินทางมาตรวจเยี่ยมพื้นที่ดำเนินการโครงการ Smart Safety Zone 4.0 “Krasang Smart Safety Zone 4.0” สภ.กระสัง อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นโรงพักนำร่อง 1 ใน 100 สถานีตำรวจ เฟสที่ 2 ตามโครงการนี้ ตลอดจนติดตามความคืบหน้า ในการใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือในการป้องกันอาชญากรรม เพื่อให้การป้องกันอาชญากรรมในโครงการดังกล่าวมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยมี พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์, พ.ต.อ.สุวิจักขณ์ จันทร์เยี่ยม รอง ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์, พ.ต.อ.วิษณุ อาภรณ์พงษ์ ผกก.สภ.กระสัง อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ และภาคีเครือข่ายป้องกันอาชญากรรม (Big 6) ในพื้นที่ตามโครงการ Smart Safety Zone 4.0 ให้การต้อนรับ

รวมพลังเพื่อปวงประชา
สภ.เมืองหนองบัวลำภู เป็นหนึ่งของตำรวจภูธรจังหวัดหนองบัวลำภู ที่มีความมุ่งมั่นในการบริหารการจัดการตามโครงการ Smart Safety Zone 4.0 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 และในวันเสาร์ที่ 6 ส.ค. ศกนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดให้มีพิธีมอบรางวัลสถานีชนะเลิศตามโครงการ SMART SAFETY ZONE 4.0 โดยการถ่ายทอดสดผ่านทางช่อง Police TV เพื่อเป็นการประกาศความสำเร็จของโครงการฯและมอบรางวัลแก่สถานีตำรวจที่ประสบผลสำเร็จ รวมทั้งภาคีเครือข่ายที่ให้ความร่วมมือระดับดีเยี่ยม
ในขณะที่ตำรวจภูธรจังหวัดหนองบัวลำภู พ.ต.อ.ขจรฤทธิ์ วงษ์ราช ผกก.สภ.เมืองหนองบัวลำภู บอกว่าที่ผ่านมาประสานขอความร่วมมือภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน ติดตั้งกล้องวงจรปิดตามจุดสำคัญๆภายในเขตเทศบาลเมืองหนองบัวลำภู เพื่อตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากมิจฉาชีพและเพื่อความสงบสุขของปวงประชา ทำเอางานนี้ พล.ต.ต.กิตติศักดิ์ จำรัสประเสริฐ ผบก.ภ.จว.หนองบัวลำภู บอกขอการันตี สภ.เมืองหนองบัวลำภู ต้องเป็น”หนึ่ง” ในเร็ว ๆ วันนี้

เปิดอาคารสถานีตำรวจน้ำ 4
ที่สถานีตำรวจน้ำบึงกาฬ พลตำรวจตรีสมควร พึ่งทรัพย์ ผู้บังคับการตำรวจน้ำ พร้อมด้วย คุณดรุณวรรณ พึ่งทรัพย์ ประธานชมรมแม่บ้านตำรวจน้ำ เป็นประธาน พิธีเปิดอาคารและตรวจเยี่ยม สถานีตำรวจน้ำ 4 กองกำกับการ 11 กองบังคับการตำรวจน้ำ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง


******************************
คอลัมน์ : สน.รอตรวจ
โดย : บิ๊กสลีป