ใครที่เคยดูหนังแฟรนไชส์พรีเดเตอร์ หรืออสูรกายจากต่างดาวที่ชื่นชอบการล่าและการต่อสู้เป็นชีวิตจิตใจมา 4 ภาค ก็คงจะไม่พลาดที่จะชมภาพยนตร์ความยาว 90 กว่านาทีเรื่อง Prey ที่ลงสตรีมให้ชมกันทางช่อง Disney+ Hotstar เมื่อต้นเดือนสิงหาคม 65 และด้วยความความสนุกที่เป็นหนังแนวสัตว์ประหลาดออกไล่สังหารผู้คน จนต้องลุ้นกันว่านางเอกในเรื่องจะรอดไปได้หรือไม่ “ดูหนังกับหมี” จึงขอเสนอข้อมูลอีกแง่มุมหนึ่งเพื่อให้ท่านผู้ชมได้ดูหนังเรื่องนี้อย่างสนุกมากกว่าเดิม โดยเราจะมาทำความรู้จักเจ้า “พรีเดเตอร์” กันก่อนนะครับ

สำหรับ “พรีเดเตอร์” เดิมเป็นมนุษย์ต่างดาวที่เรียกกันว่า “ย้วดจา” พวกมันมีชีวิตเพื่อการล่าตั้งแต่เกิดยันตาย โดยกลุ่มของพวกมันจะตระเวนไปตามดวงดาวต่าง ๆ เพื่อจัดการไล่ล่าสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดราวกับตัวเองอยู่บนชั้นบนสุดของห่วงโซ่อาหาร พวกมันมีเทคโนโลยีก้าวหน้ากว่ามนุษย์โลก สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งของการออกล่า ก็คือ ยิ่งการล่าประสบความสำเร็จ มันก็จะยิ่งแข็งแกร่งและเป็นที่ยอมรับในกลุ่มของพวกมันเอง โดยลำดับชั้นยศจะเริ่มจาก

  1. “อันบลัด” ยศเด็ก ๆ ประมาณนักเรียนฝึกหัด ที่ยังไม่มีฝีมืออะไรมาก อาศัยเพียงร่างกายแข็งแกร่งเท่านั้น
  2. “ยังบลัด” ยศที่ฝึกฝนการต่อสู้ต่าง ๆ มาพอสมควร แต่ก็ยังไม่ได้รับการยอมรับ เพราะต้องไปลงสนามต่อสู้กับ “ซีโนมอฟ” หรือตัวเอเลี่ยนที่มีเลือดเป็นกรดให้ชนะเสียก่อน โดยเราจะพบเห็นได้จากในภาพยนตร์เรื่อง เอเลี่ยน VS พรีเดเตอร์ ภาค 1 (2014) ที่โผล่มาด้วยกัน 3 ตัว ได้แก่ พี่ใหญ่ “เคลติก”, น้องรอง “ชอปเปอร์” และ น้องเล็กสุด “สกา” ซึ่งแม้ตอนจบเขาจะตายแต่ก็ยังได้เลื่อนยศเป็น “บลัด” เพราะสามารถสังหารควีนเอเลี่ยนได้สำเร็จ
  1. “บลัด” ยศที่ผ่านการต่อสู้กับฝูงเอเลี่ยนมฤตยูมาได้แล้ว ปรากฏในหนังต่าง ๆ มากมาย ได้แก่ “เดอะจังเกิ้ล ฮันเตอร์” ใน พรีเดเตอร์ ภาค 1 (1987), “เดอะซิตี้ ฮันเตอร์” พรีเดเตอร์ ภาค 2 (1997)
  2. “คลาสสิก” เป็นยศที่ผ่านการต่อสู้มาแบบหฤโหด รวมทั้งที่ต่อสู้กับพรีเดเตอร์ด้วยกันเอง ปรากฏในหนังเรื่อง พรีเดเตอร์ ภาค 3 (2010) เป็นตัวที่โดนจับมัดในเรื่อง ที่ตอนสุดท้ายพระเอกไปแก้มัดให้ออกมาบู๊กับคู่อริ
  1. “อีลิท” เป็นยศที่เรียกว่าเก่งกาจ เพราะได้รับการพิสูจน์ทั้งในด้านทักษะการต่อสู้ การใช้ปัญญาในการจัดการศัตรูจำนวนมาก เรียกว่าตัวเดียวฆ่าล้างบาง “ซีโนมอฟ” ได้เป็นฝูง ๆ ปรากฏตัวใน เอเลี่ยน VS พรีเดเตอร์ ภาค 2 (2007) มีชื่อว่า “วูฟ”
  1. “เอลเดอร์” และ “เอนเชี่ยน” เป็นยศของผู้อาวุโส มากไปด้วยความเก่าประสบการณ์ ออกล่าตั้งแต่หนุ่มยันแก่ จนกระทั่งเลิกล่าและหันมาให้คำแนะนำพรีเดเตอร์ฝึกหัด เพื่อให้การล่ามีประสิทธิภาพมากที่สุด ปรากฏตัวในหนัง พรีเดเตอร์ ภาค 2 (1997) ตัวที่ยื่นปืนให้ตัวเอกตอนจบ และ เอเลี่ยน VS พรีเดเตอร์ ภาค 1 (2014) ตัวที่ยื่นหอกให้แก่ตัวเอกในตอนจบเช่นกัน

เมื่อมีพวกที่ทำตามกฎเกณฑ์ของการอัพยศแล้ว ก็ย่อมต้องมีพวกที่ชอบทำตามใจตัวเองโดยไม่สนกฎเกณฑ์แต่อย่างใด พวกมันฆ่าสิ่งมีชีวิตทั้งหมดเพื่อความสนุก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข่นฆ่าพวกเดียวกันเอง พวกนี้ถูกจัดไว้ในประเภท “แบดบลัด” เป็นพวกที่มีพลังมหาศาล ตัวใหญ่กว่าปกติ บางคนก็เรียกว่าเป็นพวก “ซูเปอร์พรีเดเตอร์” ปรากฏตัวออกมาในหนังเรื่อง พรีเดเตอร์ ภาค 3 (2010) นำโดยหัวหน้าจอมโหดและแข็งแกร่งที่สุดมีชื่อว่า “เบอร์เซอเกอร์” ตามมาด้วย “ฟาคอนเนอร์” เป็นแบดบลัดสายหาข่าวบังคับเครื่องบินโดรนดูว่าเหยื่ออยู่ที่ไหน และสุดท้าย “แทรกเกอร์” แบดบลัดสายคุมหมาต่างดาวไว้คอยไล่ล่าเหยื่อที่หลงอยู่ในป่า

“แบดบลัด” อีกตัวที่เรียกว่าโหดที่สุดนั้น ปรากฏในเรื่อง “เดอะ เพรดเดเทอร์ 2018 ” หรือ พรีเดเตอร์ ภาค 4 ตัวนี้มีหลายชื่อ ตั้งแต่ แอสซาซิน, อัลติเมท แต่ไม่ว่าจะชื่ออะไรมันก็เป็นพวกชอบตัดแต่งพันธุกรรมตัวเองหรือพวก “อัพเกรด” ผิวหนังของมันแข็งแรงมาก เสมือนเป็นเกราะกันกระสุน ยิงฟันไม่เข้า พลังแขนสามารถกระชากหัวพรีเดเตอร์ธรรมดาให้หลุดออกมาได้อย่างสบาย ๆ


อสูรกายจำพวก พรีเดเตอร์ ไม่ใช่แค่เก่งในการต่อสู้เพียงอย่างเดียว แต่เพราะด้วยวิวัฒนาการของเทคโนโลยีที่ไปไกลเกินกว่าที่มนุษย์ ยิ่งทำให้พวกมันอันตรายสุด ๆ ตั้งแต่หัวจดเท้า ซึ่งในหนังแต่ละภาคก็จะโชว์อาวุธของเหล่านักล่าที่ไม่เหมือนกันเริ่มจาก “หน้ากาก” ที่เอาไว้ใช้กันแก๊สพิษ ปิดบังอำพรางใบหน้า สามารถใช้ค้นหารอยเท้า ความร้อน คลื่นเสียง ทั้งยังใช้เอกซเรย์เหยื่อที่มันเล่นงานได้อีกด้วย และที่เรียกว่าเป็นไม้ตายเด็ดสุด ๆ ก็คือ “ปืนติดหัวไหล่” หรือ “พลาสมาคลัสเตอร์” ยิงทีเดียวเอเลี่ยนตายหมู่ การใช้ปืนจะแม่นยำมากขึ้นหากได้ใช้ควบคู่ไปกับ เซ็นเซอร์จากหน้ากากที่คอยล็อกเป้าหมาย

ส่วนอาวุธหลักคู่กายที่เหล่า “พรีเดเตอร์” ทุกตัวต้องมีเริ่มจาก ใบมีดคู่ หรือ “วิส เบรด” เสมือนเป็นดาวเอาไว้ฟันเฉือนและแทงศัตรู บางช่วงบางตอนก็สามารถยิงเป็นอาวุธบินได้ด้วย แต่หากอยากจะใช้มีดบินจริง ๆ ก็ต้อง “ชูริเคน” เป็นอาวุธสุดอันตรายใบมีด 6 แฉกปาไปแล้วกลับมาเหมือนบูมเมอแรง เช่นเดียวกับ “สมาร์ทดิส” ที่ปล่อยออกไปตัดศัตรูได้ ทั้งยังเป็นใบมีดติดกับแขนเอาไว้ใช้เฉือนศัตรูระยะประชิด

พรีเดเตอร์แทบทุกตัวจะมีความถนัดในอาวุธ “หอก” เพราะต้องเอาไปใช้สู้กับฝูง “เอเลี่ยน หรือ “ซีโนมอฟ” ซึ่งคมหอกจะมีความแข็งแกร่งกว่าหอกทั่วไปเพราะสามารถทนเลือดกรดจากพวกได้สบาย ๆ และชิ้นสุดท้ายที่มักจะเจอแทบทุกภาคก็คือ ปลอกแขนอเนกประสงค์ มีไว้ใช้ควบคุมอุปกรณ์ต่าง ๆ ตั้งแต่เรียกยานอวกาศ ระเบิดยานอวกาศ เปิดตัวหาพิกัดตำแหน่งศัตรู ไปจนถึงปรับให้กลายเป็นระเบิดเวลาฆ่าตัวตาย นอกจากนี้ยังมีอาวุธมีดบางประเภท รวมทั้งแส้ที่เอาไว้ใช้ฟาดแล้วรัดศัตรูก่อนจะทำให้ร่างแยกขาดจากกัน เรียกว่าโหดดิบเถื่อนไม่แพ้อาวุธอื่น ๆ แน่นอน.

เรื่องย่อ “Prey” (พรีเดเตอร์ ภาค 5)
เรื่องราวเกิดขึ้นใน 1719 ยุคที่สหรัฐอเมริกายังคงเป็นโลกของเหล่านักล่าอาณานิคม “นารู” (รับบทโดย แอมเบอร์ มิดธันเดอร์) หญิงสาวในชนเผ่าโคแมนชี เธอต้องการจะพิสูจน์ตัวเองในฐานะนักล่าของชนเผ่า ที่ไม่ใช่แค่แม่บ้านที่คอยดูแลที่พักอาศัย หรือทำยาไว้รอคอยรักษาบาดแผลฝ่ายชายเท่านั้น “นารู” มีความเป็นนักล่าและเก่งกาจเกินกว่าผู้ชายในเผ่าหลาย ๆ คน ด้วยความสามารถที่หลากหลาย แต่ทว่าเธอกลับถูกมองว่าเป็นคนที่อ่อนแอในกลุ่มอยู่เสมอ จนกระทั่งวันหนึ่งเธอพบว่า มีบางสิ่งบางอย่างที่ฆ่าหมีกริซลีขนาดยักษ์ลงได้อย่างง่ายดาย มันอำพรางร่างกายตัวเองได้ มีโล่ป้องกันกระสุนปืน มีพละกำลังมากกว่าคนทั่วไปหลายเท่า “นารู” จะรอดจากอสูรกายตัวนี้ได้หรือไม่ ติดตามได้ทาง Disney+ Hotstar เท่านั้น

จุดแข็งของ Prey
ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ “แดน แทรชเทนเบิร์ก” มารับหน้าที่ผู้กำกับคอยกุมบังเหียน เลือกฉากการถ่ายทำในพื้นที่ตอนเหนือของสหรัฐ ท่ามกลางป่าเขาที่สวยงาม โปรดักชั่นภาพจะเน้นความเขียวขจี ก่อนจะเปิดฉากไล่ล่ากันเลือดสาดกระจายตามแบบฉบับแฟรนไชส์พรีเดเตอร์ ที่ลุ้นว่าใครจะโดนสังหารไปบ้าง และจะหาแนวทางต่อสู้กับอสูรกายตัวนี้ได้อย่างไร ขณะที่บทตัวเอกอย่าง “นารู” นั้น “แอมเบอร์ มิดธันเดอร์” ตีบทแตกสุด ๆ ยอมลงทุนดำน้ำโคลนจริง ๆ วิ่งลงน้ำ มุดลงพุ่มไม้หลบหมี สารพัดจะผญจภัย ยิ่งมีน้องหมา “โคโค” ที่มารับบทเป็น “ซารี” (สุนัขสายพันธุ์ อเมริกันดิงโก้) ยิ่งทำให้โดดเด่นเข้าไปใหญ่ การเป็นคู่หูลักษณะนี้ ผู้กำกับ “แดน แทรชเทนเบิร์ก” เผยในสื่อบันเทิงต่างประเทศว่า เขาได้แรงบันดาลใจมากจากหนังเรื่อง Mad Max 2 The Road Warrior (1981) ซึ่งไม่ว่าตัวเอกจะไปไหนต้องมีน้องหมาร่วมเดินทางผญจภัยไปด้วยกัน

ความสนุกไม่ใช่แค่หยุดตรงที่ดูหนังจบ เพราะเนื้อหาของเรื่องยังได้ใส่มุมมองทางสังคมไว้มากมาย ตั้งแต่การยอมรับในความสามรถของเพศหญิง และการเคารพในความเป็นผู้นำกลุ่ม ในส่วนของ “อิสเตอร์เอ็ก” ก็ยังทำแฝงเอาไว้เพียบ ยกตัวอย่าง เช่น การให้ “นารู” ใช้โคลนมาช่วยต่อสู้ ก็เหมือนกับใน พรีเดเตอร์ภาค 1 ที่ “อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์” ผู้รับบท “ดัชท์” ใช้โคลนช่วยพลางร่างกายเช่นกัน หรือแม้แต่ ประโยคที่ “อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์” เคยพูดไว้ว่า “ถ้าเลือดมันไหลได้ เราก็ฆ่ามันได้” ก็ยังมาปรากฏในหนังพรีเดเตอร์ภาคนี้ด้วย

จุดอ่อนของ Prey
การปูเรื่องราวของตัวเอก ค่อนข้างจะยาวนาน ทำให้หนังดูเนือย ประกอบกับ CG บางช่วงบางตอนดูลอย ๆ ยังไม่ค่อยเต็มที่เท่าไหร่ เช่นเดียวกับบทแอ๊คชั่นดูจะเชื่องช้า ทำให้จังหวะการต่อสู้ดูขาด ๆ เกิน ๆ ไปบางช่วงบางตอน ยิ่งในช่วงท้ายดูเหมือนจะเกิดความไม่สมเหตุสมผลนัก โดยเฉพาะประเด็นการยัดบทให้ตัวละครเจ๋ง ๆ ตายแบบง่าย ๆ ทั้งที่ดูเทพและแกร่งกว่า “พรีเดเตอร์”

5/5 สำหรับความสนุกที่ดูได้ในทุกๆ ที่ มุมภาพสวยมาก เพลินไปกับบรรยากาศธรรมชาติ พร้อมผญจภัยไปกับน้องหมาแสนรู้ ลุ้นไปกับฉากแอ๊คชั่นสุดเดือดเลือดท่วมว่าตัวเอกจะรอดตายหรือไม่

—————————————-

คอลัมน์ : ดูหนังกับหมี
โดย : แพนด้าอ้วน
ขอบคุณข้อมูล ภาพ จากเว็บไซต์ Youtube และ 20th Century Studios