ปัจจุบันมีนวัตกรรมต่าง ๆ มากมายในการดูแลสัตว์เลี้ยงของเราให้มีอายุยืนยาว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจัดการอาหาร โปรแกรมการดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยง การฉีดวัคซีน การควบคุมเห็บหมัดหรือโรคติดเชื้อที่ดียิ่งขึ้น ทำให้ในปัจจุบันอายุเฉลี่ยของสัตว์เลี้ยงนั้นมีความยืนยาวมากขึ้น ในทางสัตวแพทย์นั้นมีการใช้สารต่อต้านอนุมูลอิสระกันอย่างแพร่หลาย โดยการเสริมในอาหารสุนัขนั้นจะช่วยรักษาอาหารให้คงความสดใหม่ได้นานขึ้น และยังมีการศึกษาเกี่ยวกับคุณสมบัติอีกหลายประการ เช่น เสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยปกติเซลล์ที่ทำหน้าที่ในระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายนั้นจะมีความเปราะบางต่อสารอนุมูลอิสระค่อนข้างมาก การเสริมสารอาหารกลุ่มที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระจะทำให้เซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้นในสัตว์หลายชนิด รวมถึงสุนัขและแมวด้วย โดยสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่ใส่ในอาหารสุนัขนั้น ได้แก่ วิตามินอี วิตามินซี วิตามินเอ และกรดไขมันไม่อิ่มตัวกลุ่มโอเมก้าต่าง ๆ เป็นต้น 

วิตามินอี เป็นวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกายของสุนัข ต้องได้รับจากอาหารเท่านั้น เนื่องจากสุนัขไม่สามารถสังเคราะห์ขึ้นเองได้ในร่างกาย ในการผลิตอาหารสัตว์ National Research Council (2006) มีการกำหนดปริมาณขั้นต่ำของวิตามินอีที่สัตว์ควรได้รับต่อวันเอาไว้ โดยระดับของวิตามินอีขั้นต่ำในอาหาร ที่มาตรฐานกำหนดคือไม่น้อยกว่า 22 IU/ กิโลกรัม ของอาหารเมื่อคิดจากน้ำหนักแห้งของอาหารโดยอยู่ภายใต้เงื่อนไขว่า อาหารต้องประกอบด้วย ซีลีเนียม 0.1 ppm และมีกรดไขมันไลโนเลอิก ไม่เกิน 1% มีการศึกษาในสุนัขพันธุ์บีเกิ้ลพบว่า หากเสริมวิตามินอีในระดับสูงจะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดีขึ้น ทั้งยังมีประโยชน์ต่อผิวหนังด้วย พบว่าการเพิ่มระดับของวิตามินอีในอาหารมีความสัมพันธ์กับระดับของวิตามินอีบริเวณผิวหนังที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้กระบวนการฟื้นฟูของผิวหนังดีขึ้น มีการศึกษาในสุนัขที่มีภาวะภูมิแพ้ผิวหนัง พบว่าในสุนัขที่เป็นโรคภูมิแพ้ จะมีความเข้มข้นของวิตามินอีในกระแสเลือดต่ำกว่าสุนัขสุขภาพดีปกติ  และมีการศึกษาพบว่าการเสริมวิตามินอี จะช่วยให้อาการคันลดลง และช่วยลดการอักเสบของผิวหนังได้

สำหรับ วิตามินซี นั้นร่างกายของสุนัขสามารถสังเคราะห์ได้เองในภาวะปกติ หน้าที่ของวิตามินซีก็คือเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระเช่นเดียวกัน แต่มีบทบาทสำคัญในกระบวนการสังเคราะห์คอลลาเจนในร่างกาย และมีหลายการศึกษาที่ใช้วิตามินซีในการรักษา โดยช่วยป้องกันเซลล์เม็ดเลือดขาวการถูกทำลายด้วยอนุมูลอิสระและทำให้เม็ดเลือดขาวสามารถเก็บกินสิ่งแปลกปลอมได้ดียิ่งขึ้น  หากให้วิตามินซีในขนาดที่สูงจะสามารถช่วยต่อต้านมะเร็งได้ โดยสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งของกระเพาะอาหาร  มะเร็งช่องปาก และมะเร็งปอด

นอกจากนี้การศึกษาเกี่ยวกับสารต่อต้านอนุมูลอิสระไม่ได้มีแค่ในกลุ่มของสุนัขอายุมากเท่านั้น ในสุนัขวัยผู้ใหญ่ทั่วไปก็ได้มีการศึกษาถึงผลของการเสริมสารต่อต้านอนุมูลอิสระ โดยแบ่งสุนัขออกเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่ได้รับการเสริมสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ได้แก่ วิตามินอี และกรดอะมิโนทอรีนลงในอาหาร และสุนัขที่ได้รับอาหารปกติ โดยทำการทดลองให้อาหาร 8 สัปดาห์  หลังจากนั้นทำการฉีดวัคซีนพบว่าสุนัขกลุ่มที่ได้รับสารต่อต้านอนุมูลอิสระมีแนวโน้มการถูกทำลายของ DNA น้อยกว่าและการตอบสนองของภูมิคุ้มกันหลังได้รับวัคซีนดีกว่าอีกกลุ่มอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นอาหารสุนัขบางยี่ห้อจึงได้มีการเสริมสารต่อต้านอนุมูลอิสระเพื่อหวังให้เกิดประโยชน์ต่อสุนัขดังที่ได้กล่าวมาทั้งหมดข้างต้น

สพญ.ฐิตา เตโชฬาร สัตวแพทย์ประจำคลินิกหัวใจ คลินิกระบบขับถ่ายปัสสาวะ และคลินิกเบาหวาน โรงพยาบาลสัตว์เล็ก คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยพูดถึงการเสริมสารอาหารดังกล่าวว่า “สารต่อต้านอนุมูลอิสระในปริมาณที่เหมาะสมมีประโยชน์ต่อสุนัขในทุกช่วงวัย และมีความปลอดภัยค่อนข้างสูง ไม่ว่าจะเป็นการช่วยลดการอักเสบ การชะลอความเสื่อม และทำให้การตอบสนองของภูมิคุ้มกันดีขึ้น รวมถึงในปัจจุบันได้มีการใช้สารเหล่านี้ในการรักษาโรคหลายโรค ได้แก่โรคสมองเสื่อม โรคข้อ หรือโรคผิวหนัง ดังนั้นจึงเรียกได้ว่ามีการใช้กันอย่างแพร่หลายทั้งในสัตว์ปกติและสัตว์ที่มีโรค”

สพญ.วธุวรรณ พฤกษนันต์ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารวิชาการสัตว์เลี้ยง มาร์ส ไทยแลนด์ อิงค์ ยังกล่าวเสริมอีกว่า “สารต่อต้านอนุมูลอิสระมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะจะสามารถเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในลูกสุนัข และยังช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์และอวัยวะต่าง ๆ ในสุนัขโตและสุนัขสูงวัยอีกด้วย ด้วยเหตุนี้สัตวแพทย์ที่ร่วมคิดค้นสูตรอาหาร IAMS (ไอแอมส์) ที่เสริมสารต่อต้านอนุมูลอิสระเพื่อให้มั่นใจว่าสุนัขทุกตัวจะได้รับสารดังกล่าวอย่างเพียงพอเพื่อให้สุนัขแข็งแรง และมีสุขภาพที่ดีในทุก ๆ วัน”

แน่นอนว่ามีสารอาหารต่าง ๆ อีกมากมายหลายชนิดที่มีประโยชน์ต่อสัตว์เลี้ยงของเรา ทั้งการเสริมสารที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกายที่ได้กล่าวไปข้างต้น การเสริมพรีไบโอติก หรือวิตามินอื่น ๆ เพื่อเสริมภูมิคุ้มกันและบำรุงระบบต่าง ๆ ในร่างกายสัตว์เลี้ยง ดังนั้นการศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดในการเลือกอาหารที่เหมาะสมก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่เจ้าของสามารถทำได้ง่าย ๆ เพื่อดูแลสุขภาพของสัตว์เลี้ยง.