แต่จะได้กินร้านนี้ต้องมีแต้มบุญด้วยเพราะไม่รับ walk-in ต้องส่ง inbox จองให้ได้ก่อนถึงจะได้กิน รุ่นน้องเก่งบวกเฮงจองได้สำเร็จ ทุกคนต่างเฝ้ารอไปพิสูจน์ว่าร้านนี้จะดีเด็ดขนาดไหน

จองวันนี้ ได้กินเดือนหน้าและมีกฎระเบียบมากมายให้ศึกษา เช่น ร้านแคบ เล็ก และมีแมวเยอะ (20 ตัว) อยู่ตามที่ต่าง ๆ ใครแพ้ขนแมว ไม่ชอบแมว ไม่ควรเสี่ยงมา / ถ้าไปถึงก่อนเวลา ยังให้เข้าร้านไม่ได้และไม่มีที่ให้นั่งรอ / ร้านมีพนักงานน้อย อาจจะบริการไม่ทั่วถึง / ห้ามนำอาหารและเครื่องดื่มเข้ามารับประทานในร้าน / ไม่มีที่จอดรถ ต้องไปหาที่จอดเอง อย่าจอดขวางหน้าบ้านคนอื่น / จองแล้ว เลื่อนคิวหรือเปลี่ยนวันไม่ได้ / จองแล้วยกเลิกได้แต่ต้องแจ้งล่วงหน้า 3 วัน / ปรับเปลี่ยนจำนวนคนต้องแจ้งล่วงหน้าเช่นกัน / หากมาไม่ครบ โดนปรับ / หากมาเกิน ไม่รับคนที่เกิน / ถ้ามาสายก็นั่งตามรอบเวลาที่เหลือ / ถ้ามาไม่ทัน 20 นาทีก่อนหมดเวลารอบ ริบเงินมัดจำและไม่ทำกลับบ้านให้ …ถ้าท่านรับเงื่อนไขได้ทั้งหมด ไปกันต่อครับ

เมื่อวันที่รอคอยมาถึง สมาชิก 8 คนที่ลงชื่อไว้ไม่มีใครเบี้ยวเลย (ตั้งใจมากินกันจริงจัง) เราออกจากออฟฟิศตอนเย็น ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ถนนแจ้งวัฒนะรถติดสาหัส จะเดินก็ไกลเกินไป เรียกรถก็ไม่มีใครมารับ เราจับวินไปคนละคันถึงก่อนเวลา ผ่านทางเข้าหมู่บ้านการบินไทย ผมแปลกใจเล็กน้อยเมื่อไปถึง ไม่มีป้ายชื่อร้าน แถมมีเครื่องซักผ้าตั้งอยู่ด้านหน้า นี่ถ้าไม่ได้ google maps นำทางมาคงงง แต่ก็เป็นร้านเดียวในละแวกนั้นที่เปิดไฟ มองเข้าไปใช่แน่ มีคนนั่งกินกันอยู่

ลูกค้ารอบเก่าทยอยกันออกมา แต่ยังไม่ถึงเวลานัดก็ยังเข้าไปไม่ได้ เพราะพนักงานต้องเคลียร์โต๊ะ ทำความสะอาด และจัดเซตใหม่ที่เราสั่งไว้ล่วงหน้า เมื่อถึงเวลา พนักงานเชิญเข้าร้าน โต๊ะในร้านมีแค่ 3-4 โต๊ะเท่านั้น ผมอ่านป้ายในร้านบอกว่า “ร้านเจ๊มีพ่อครัวคนเดียวค่ะ สั่งเยอะทำไม่ทันจ้า รบกวนสั่งพอดีทานนะคะ…เจ๊หมวย”

เมนูที่เราสั่งวางรอไว้อยู่แล้ว “เฮียป้อม” เจ้าของร้าน (พ่อครัวคนเดียว) ยกน้ำซุปมาวางให้ ตั้งไฟอุ่นให้ร้อนก็ลุยได้เลย เนื้อที่มาเสิร์ฟ มีเนื้อดาวกระจายและเนื้อน่องลาย จุ่มแค่ 5 วิแล้วเอาขึ้นเลย หลายคนชอบเนื้อน่องลายเพราะนุ่ม แต่ส่วนตัวผมกลับชอบเนื้อดาวกระจายมากกว่า เพราะสไลซ์แผ่นใหญ่ มี texture เคี้ยวมันดีครับ ผมถามเจ๊หมวยว่า สั่งเนื้อวัวมาจากไหน ดีมาก ๆ เจ๊หมวยบอกว่า “วิลล่ามาร์เกต เพิ่งมาส่งเมื่อเช้าเลยค่ะ” ว้าว…ใช้เนื้ออย่างดี น้ำซุปก็ดีมาก (ผมสั่งเผ็ดกลาง) แต่ทีเด็ดคือน้ำจิ้ม มีน้ำจิ้มรสหวานและน้ำจิ้มแจ่วรสเปรี้ยวเค็มพอดี จิ้มอะไรก็อร่อย เลิฟมาก ผักให้มาหนึ่งตะกร้าใหญ่มีวุ้นเส้นให้ด้วย ผมรู้สึกว่า “แจ่วฮ้อน” นี่แหละ ชาบูสไตล์ไทย ๆ น้ำซุปเลิศ เนื้อสไลซ์คุณภาพดี น้ำจิ้มมีรสชาติ ใช่เลยครับ

นอกจากแจ่วฮ้อนที่ยอดเยี่ยมแล้ว เมนูเป็นจาน ๆ ทำเอาผมเพ้อ เมนูย่างขอเอาใจสายเนื้อ แนะนำ “เนื้อย่าง” ย่างมาแบบ Medium Rare แล่ให้เห็นเนื้อแดง ๆ ฉ่ำ ๆ เหมือนสเต็ก แต่กินแล้วจะหอมกลิ่นแม็กกี้ เค็ม ๆ แบบไทยอร่อยดี “ลิ้นวัวย่าง” คือ The Best ครับ หั่นหนาขนาดพอดีคำ นุ่มเด้ง โรยเกลือชมพูและพริกไทยได้รสชาติเนื้อเต็ม ๆ ผมไม่เคยกินลิ้นวัวย่างร้านไหนอร่อยเท่านี้…บอกเลย จานเดียวไม่พอครับ ถ้าใครชอบเนื้อติดมัน แนะนำ “เสือร้องไห้” สำหรับคนไม่กินเนื้อ มี “คอหมูย่าง” จะหวานหน่อย เอาไว้แก้เผ็ดได้อย่างดี

พวกส้มตำ รสนัวได้มาตรฐาน แต่อยากแนะนำ “ยำหมู/เนื้อญวน” ใส่กะปิหอมอร่อยเลยครับ มะเขือสดมาก นุ่มเคี้ยวเพลิน และเมนูสุดท้าย “กุ้งแช่น้ำปลา” โต๊ะผม 8 คน สั่งเมนูนี้ไป 7 จาน กุ้งสดตัวโต แกะเปลือกให้เรียบร้อย น้ำยำแซ่บมากสะใจ ไม่ผิดหวังเลยครับ

ผมถามเจ๊หมวยว่าเริ่มต้นทำร้านแจ่วฮ้อนได้อย่างไร เจ๊เล่าให้ฟังว่า เจ๊หมวยและเฮียป้อมเป็นคนอำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม ทั้งคู่ย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ วันหนึ่งเจ๊หมวยอยากกินแจ่วฮ้อน จึงให้เฮียป้อมพาไปกิน เฮียป้อมบอกว่าทำเป็นและมีสูตรเฉพาะของตัวเอง แล้วเฮียก็ทำให้เจ๊หมวยกิน ปรากฏว่าอร่อย จึงทำขายเลย แล้วก็ทำต่อเนื่องมา 30 กว่าปีแล้ว ผมชวนทั้งคู่ไปออกร้าน เฮียป้อมและเจ๊หมวยบอกว่า เอาแค่นี้พอแล้ว วันธรรมดารับแค่ 3 รอบ (12.00/17.00/19.15) วันเสาร์-อาทิตย์รับ 4 รอบ (12.00/14.15/17.00/19.15) หยุดทุกวันจันทร์ ส่วนวันอังคารเป็น private

ใครอ่านถึงตรงนี้ แล้วอยากอร่อยแบบมีลุ้น ร้านจะเปิดให้จองในวันที่ 29 ธันวาคม เริ่ม 8 โมงเช้าสำหรับคิวเดือนมกราคม 2566 เซตปฏิทินและตั้งเวลาเตรียมส่งข้อความไปจองกันได้เลยครับ เพราะเจ๊หมวยบอกว่า ถ้าช้าแค่ 5 นาทีก็เต็มแล้ว (นี่ขายบัตรคอนเสิร์ตเกาหลีหรืออย่างไร???) …ผมได้กินแล้ว บอกเลยครับ เตรียมจองรอบต่อไปเช่นกัน ช่างคุ้มค่ากับการรอคอยยิ่งนัก www.facebook.com/JMjimjum

………………………………………..
คอลัมน์ : ก้อนเมฆเล่าเรื่อง
โดย “น้าเมฆ”
https://facebook.com/cloudbookfanpage