
ผู้ว่าฯ อยุธยา ร่วมประชุมคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ และที่ปรึกษาคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ครั้งที่ 1/2566
ช่วงบ่ายของวันที่ 13 มีนาคม ณ ห้องประชุม โรงแรมกรุงศรีริเวอร์ นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจและที่ปรึกษาคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ครั้งที่ 1/2566 โดยมี พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พร้อมคณะกรรมการตรวจสอบ และติดตามการบริหารงานตำรวจเข้าร่วมประชุม
นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร เปิดเผยว่า ตนเองได้เสนอแนวทางให้กับ กต.ตร. ที่มาร่วมให้พิจารณาถึงหน้าที่การทำงานของ กต.ตร. ว่า สามารถดำเนินการกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กรตำรวจรวมถึงฝากทาง กต.ตร. ให้ผลักดันกิจกรรมในด้านสวัสดิการและการส่งเสริมชีวิตความเป็นอยู่ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย
สำหรับคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ จัดตั้งขึ้นจากเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 (มาตรา 76) ที่มุ่งส่งเสริมให้ประชาชนมีบทบาทและภารกิจในการตรวจสอบการใช้อำนาจของรัฐ ดังนั้นเพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบติดตามการบริหารงานของตำรวจในทุกระดับ ตลอดจนให้ข้อเสนอแนะในการกำหนดนโยบายการพัฒนาและบริหารงานรัฐบาล เพื่อปรับปรุงกิจการตำรวจให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น มีการกระจายอำนาจและเปิดโอกาสให้สังคมได้มีส่วนร่วมในการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ และให้ข้อเสนอแนะ และมีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้ 1.รับแนวทางและนโยบายการพัฒนาและการบริหารงานตำรวจ จาก กต.ตร. ไปปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้เกิดผลตามนโยบาย 2.ให้คำปรึกษาและข้อเสนอแนะการปฏิบัติงานของสถานีตำรวจให้เป็นไปตามนโยบายการพัฒนาและการบริหารงานตำรวจ 3. ประสานการตรวจสอบและการติดตามการปฏิบัติงานของสถานีตำรวจ 4.รับคำร้องเรียนของประชาชนเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจในสถานีตำรวจนครบาล รวมถึงให้ข้อมูลข่าวสารและเสนอปัญหาความเดือดร้อนและความต้องการของประชาชนในเขตพื้นที่ต่อไป
ทั้งนี้ นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้มอบช่อดอกไม้แสดงความยินดีกับ พ.ต.อ.ธวัฒชัย เกิดโภคทรัพย์ รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เลื่อนยศ เนื่องจากเกษียณอายุราชการ เป็น พล.ต.ต.ธวัฒชัย เกิดโภคทรัพย์ รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา (เผอิญ – วุฒิภัทร ไทยสม / อยุธยา)

ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ชมโครงการนำร่องการแก้ไขปัญหาทางด้านการเกษตรโดยน้อมนำแนวพระราชดำริ อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี
นางเพชรรัตน์ เลิศรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ให้การต้อนรับ นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะผู้บริหาร ที่เยี่ยมชมโครงการนำร่องการแก้ไขปัญหาทางด้านการเกษตร โดยน้อมนำแนวพระราชดำริมาปรับใช้ในพื้นที่ตำบลพุคา อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี เพื่อน้อมนำแนวพระราชดำริใช้ในการแก้ไขปัญหาทางการเกษตร และพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น ให้เกษตรกรสามารถปรับตัว และได้รับการบรรเทาความเดือดร้อนจากผลกระทบปัญหาอุทกภัย รวมทั้งสามารถสร้างความมั่นคงทางอาหารให้กับเกษตรกรได้อย่างเพียงพอและยั่งยืน และเป็นการขยายผลการเรียนรู้เกี่ยวกับแนวพระราชดำริ และพระราชกรณียกิจด้านการพัฒนา ผ่านโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ต่าง ๆ แก่เกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ซึ่งจะได้เรียนรู้ทั้งภาคทฤษฎีและฝึกการปฏิบัติ (กฤษณพงศ์ อยู่รอด – ธนพล อาภรณ์พงษ์ / ลพบุรี)

จังหวัดอุทัยธานี แถลงข่าวจัดงาน “มะม่วงหลากชนิด มะยงชิดหวานอร่อย และของดีอำเภอลานสัก” ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 18-19 มีนาคม 2566
ช่วงเย็นของวันที่ 10 มี.ค. 2566 ที่ ลานอเนกประสงค์หน้าหุบป่าตาด ตำบลทุ่งนางาม อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี นายอลงกต วรกี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี นายเกรียงศักดิ์ มิตรประกอบโชค นายอำเภอลานสัก นางดวงเดือน ชโลธร นายกองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งนางาม นายสัมพันธ์ สุภาภักดี ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานอุทัยธานี ร่วมกันแถลงข่าวการจัดงาน “มะม่วงหลากชนิด มะยงชิดหวานอร่อย และของดีอำเภอลานสัก” โดยมี ส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน เกษตรกร และประชาชน เข้าร่วมงาน
องค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งนางาม ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุทัยธานี และกลุ่มวิสาหกิจชุมชนไม้ผลตำบลทุ่งนางาม และหน่วยงานในพื้นที่ ได้กำหนดจัดงานประเพณี “มะม่วงหลากชนิด มะยงชิดหวานอร่อย และของดีอำเภอลานสัก ประจำปี 2566” ในระหว่างวันที่ 18-19 มีนาคม 2566 ณ ลานอเนกประสงค์หน้าหุบป่าตาด ตำบลทุ่งนางาม อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี เพื่อให้เกษตรกรในพื้นที่ตำบลทุ่งนางาม และผู้จำหน่ายสินค้า OTOP ของดีอำเภอลานสัก และอำเภอใกล้เคียง ได้มีแหล่งกระจายสินค้าไปสู่ผู้บริโภคโดยตรงทั้งยังประชาสัมพันธ์ แหล่งท่องเที่ยวหุบป่าตาด เขาปลาร้า จุดชมวิวบ้านชายเขา และสวนเกษตรในพื้นที่ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น รวมทั้งกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้กับประชาชนในตำบลทุ่งนางาม และตำบลใกล้เคียง ของอำเภอลานสัก ซึ่งภายในงานนอกจากมะม่วง มะยงชิด สินค้าทางการเกษตร และสินค้าเด่นของอำเภอลานสัก ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจอีกมายมาก เช่น การประกวดหนูน้อยชาวสวน ประกวดธิดาจำแลง การแข่งขันกินข้าวเหนียวมะม่วง การแข่งขันมะม่วงตำลีลา การแข่งทำอาหารจากมะม่วง และมีบริการนั่งรถรางนั่งชมทัศนียภาพ และสวนผลไม้ในพื้นที่
อีกทั้ง ททท.สำนักงานอุทัยธานี ยังได้มีการจัดกิจกรรมกระตุ้นเพื่อให้เกิดการซื้อขายภายงาน โดยผู้เข้าร่วมงานที่ซื้อสินค้าในงาน ครบ 500 บาท รับกระเป๋าผ้าสุดเก๋ ชื้อครบ 1,000 บาท รับเสื้อสุดเท่ และสามารถโพสต์ภาพ ที่งานแล้วติด # ที่ ททท. กำหนด จะได้รับ welcome drink สุดพิเศษจาก ททท. ( ฟรี)
จึงขอเชิญนักท่องเที่ยวที่สนใจ สามารถเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวได้ตามวันเวลาดังกล่าวข้างต้น สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ททท.สำนักงานอุทัยธานี โทร. 0-5651-4651-2 , 08-2486-2004 , และ Facebook ททท.สำนักงานอุทัยธานี, องค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งนางาม โทร. 0-5651-0981 (ชนม์สวัสดิ์ ทองโพธิ์งาม / อุทัยธานี)

ตรวจติดตามโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่ แก้ไขปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริพื้นที่อำเภอพัฒนานิคม ลพบุรี
นายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี พร้อมด้วย นายปรัชญา เปปะตัง รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี นายรัฐพล ธุระพันธ์ นายอำเภอพัฒนานิคม พร้อมด้วย นางสาวทัศนีย์ เนตรทัศน์ ผู้อำนวยการทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 3 (สระบุรี) ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่ตรวจติดตามความเรียบร้อยโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่ แก้ไขปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ณ โครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่ แก้ไขปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริพื้นที่บ้านสามเเสน หมู่ 5 ต.พัฒนานิคม อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี
ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม รับโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่ แก้ปัญหาภัยแล้ง ระยะที่ 2 ไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2565 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชน จากภาวะวิกฤติภัยแล้ง เนื่องจากที่ผ่านมา ประเทศไทยประสบปัญหาภัยแล้งเป็นระยะเวลายาวนานต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้สนองพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงสืบสาน รักษา ต่อยอด โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยได้ดำเนินโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ระยะที่ 2 เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อน ในพื้นที่ ตำบลเขาพระยาเดินธง และตำบลพัฒนานิคม เจาะบ่อน้ำบาดาลเพื่อใช้เป็นน้ำต้นทุน แล้วเสร็จ จำนวน 6 บ่อ สามารถพัฒนาน้ำบาดาลขึ้นมาใช้ได้ มากถึง 420,000 ลูกบาศก์เมตรต่อปี รวมทั้งออกแบบก่อสร้างระบบประปาบาดาล ขนาดใหญ่ ประกอบด้วยถังเหล็กเก็บน้ำความจุ 1,000 ลูกบาศก์เมตร จำนวน 2 ถัง หอถังเหล็กเก็บน้ำชนิดรักษาแรงดันขนาดความจุ 300 ลูกบาศก์เมตร จำนวน 1 ถัง ถังกรองสนิมเหล็ก จุดจ่ายน้ำถาวร และอาคารศูนย์เรียนรู้ด้านน้ำบาดาลพร้อมระบบปรับปรุงคุณภาพน้ำดื่ม เพื่อส่งน้ำผ่านระบบท่อกระจายน้ำระยะไกล ให้ครอบคลุมพื้นที่ตำบลเขาพระยาเดินธง จำนวน 14 หมู่บ้าน 4,744 ครัวเรือน 10,868 คน และพื้นที่ข้างเคียง ได้รับการแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยั่งยืน มีแหล่งน้ำที่มีความมั่นคง ยกระดับชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้นจากการมีน้ำสะอาดอุปโภคบริโภค (กฤษณพงศ์ อยู่รอด – ธนพล อาภรณ์พงษ์ / ลพบุรี)

นายกเทศมนตรีเมืองชัยนาท ประธานสันนิบาตเทศบาลจังหวัดฯ บูรณาการความร่วมมือกับเทศบาลตำบลทุกแห่งในจังหวัดชัยนาท ในการพัฒนาพร้อมยกระดับ 39 เทศบาลเป็นเมืองอัจฉริยะ (Smart City)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ ห้องประชุมบุญทัน สำนักงานเทศบาลเมืองชัยนาท อำเภอเมืองชัยนาท จังหวัดชัยนาท นายเจษฎา สี่พี่น้อง นายกเทศมนตรีเมืองชัยนาท ในฐานะประธานสันนิบาตเทศบาลจังหวัดชัยนาท ได้จัดให้มีการประชุมสันนิบาตเทศบาลจังหวัดชัยนาท หัวข้อเรื่อง “การเตรียมความพร้อมในการจัดทำเเผนพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City)” โดยมีผู้แทนจาก 8 เทศบาลตำบล และ 1 เทศบาลเมือง ร่วมประชุมกัน เพื่อร่วมมือกันผลักดันการยกระดับพื้นที่เทศบาลเป็นพื้นที่พัฒนาและขับเคลื่อนอัจฉริยะ เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล แผนยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม แห่งชาติ ฉบับที่ 13 แผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัลของประเทศไทย และนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
โดยการจัดประชุมในครั้งนี้ สันนิบาตเทศบาลจังหวัดชัยนาทได้เชิญ นายกสมาคมสถาบันพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลในภาคประชาชน ว่าที่ ร.ต.สรายุทธ์ บุญเลิศกุล ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล (Digital Transform) ให้แก่หน่วยงานภาครัฐ ประเด็นการเตรียมความพร้อมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่อการเปลี่ยนแปลงทางด้านดิจิทัล เพื่อรองรับการเข้าสู่ระบบการบริหารงานและการให้บริการภาครัฐผ่านระบบดิจิทัลภายใต้การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City) สู่การปฏิบัติที่ต้องใช้กระบวนการทางนโยบาย กฎหมาย การบริหารราชการแผ่นดิน เทคโนโลยี และนวัตกรรมเข้ามาสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้กฎหมายการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือชุดกฎหมายดิจิทัล ที่เกี่ยวข้อง ที่ต้องสร้างความตระหนักรู้ สร้างความเข้าใจจากมุมมองของหน่วยงานภายนอกต่อการให้คำแนะนำหน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
นอกจากนี้ ในส่วนของกระบวนการเตรียมความพร้อมเข้าสู่การเสนอขอรับการพิจารณาความเป็นเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ได้เชิญผู้แทนจากสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือดีป้า (DPA) โดยมีนายพรชัย หอมชื่น ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล มาให้คำแนะนำและให้คำปรึกษาแก่ทีมทำงานของเทศบาลที่จะต้องจัดเตรียมคุณสมบัติ และข้อเสนอโครงการต่าง ๆ ก่อนเสนอขอรับพิจารณา
นายเจษฎา กล่าวว่า การยกระดับพื้นที่เทศบาลในจังหวัดชัยนาทเข้าสู่การเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาเป็นเมืองอัจฉริยะ (Smart City) เป็นความท้าทายขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพราะต้องใช้กระบวนการบูรณาการความร่วมมือ ต้องมีแนวทางการทำงานแบบหุ้นส่วนพัฒนา การจะต้องตอบโจทย์ตัวขี้วัดเมื่อมีการประเมินผลนั้น สิ่งที่จะทำจะต้องเกิดประโยชน์ต่อประขาชน สร้างความยั่งยืนให้กับชุมชนโดยเฉพาะในเรื่องของ “สิ่งแวดล้อมอัจฉริยะ (Smart Environment)” เป็นประเด็นที่มีความสำคัญ ที่เกื้อหนุนต่อการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจของประเทศ (สุรพล บำรุงศรี – วรชล ฟักขาว / ชัยนาท)

จังหวัดสระบุรีจัดประชุมเตรียมความพร้อมในการจัดการแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เจริญพระชนมายุ ๖๘ พรรษา
วันที่ 13 มีนาคม 2566 ณ ห้องประชุมตะแบกนาชั้น 2 ศูนย์ราชการจังหวัดสระบุรี จังหวัดสระบุรี นายพลวรรธน์ เทียนชัยมงคล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมในการจัดการแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เจริญพระชนมายุ ๖๘ พรรษา “The Princess Maha Chakri Sirindhorn’s Cup Tour of Thailand 2023”
ด้วยจังหวัดสระบุรี ร่วมกับสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้กำหนดจัดการแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี “The Princess Maha Chaki Sirindhorn’s Cup Tour of Thailand 2023” ระหว่างวันที่ 1-10 เมษายน2566 เส้นทางเริ่มต้นจากจังหวัดกาญจนบุรี-ผ่านจังหวัดสุพรรณบุรี-อ่างทอง-พระนครศรีอยุธยา-ลพบุรี-สระบุรี-นครราชสีมา-ปราจีนบุรี-สระแก้ว-จันทบุรี-ระยอง ซึ่งใช้เส้นทางผ่านจังหวัดสระบุรี ในวันที่ 3 เมษายน 2566 มีนักกีฬาจาก 25 ชาติ เข้าร่วมแข่งขัน การประชุมดังกล่าว ได้มีการมอบหมายภารกิจในการเตรียมความพร้อมของจังหวัดสระบุรีในการแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติฯ เส้นทางการแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติฯ ผ่านจังหวัดสระบุรี การจัดรูปแบบขบวนรถนำและติดตาม จากการสำรวจเส้นทางการจัดการแช่งขันจักรยานทางไกลฯ ในพื้นที่จังหวัดสระบุรี พบว่ามีเส้นทางผ่านเขต พื้นที่เทศบาลตำบลคำพราน ตำบลมวกเหล็ก ตำบลมิตรภาพ โดยรับช่วงจากจังหวัดลพบุรี บริเวณสันเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เข้าสู่อำเภอวังม่วง ตำบลคำพราน ผ่านตำบลแสลงพัน ตำบลมวกเหล็ก และตำบลมิตรภาพ และเข้าสู่จังหวัดนครราชสีมา ที่ตำบลพญาเย็น ในวันดังกล่าวขอเชิญชวนชาวสระบุรี ร่วมต้อนรับขบวนนักกีฬา โดยใส่ชุดโทนม่วง หรือชุดประจำถิ่นโดยพร้อมเพรียงกัน (สมนึก สุขีรัตน์ / สระบุรี)

ตำรวจภูธรจังหวัดชัยนาท จัดโครงการฝึกอบรมวิทยากรต้นแบบชุมชนยั่งยืน เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจร ตามยุทธศาสตร์ชาติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ ห้องประชุมสถานีตำรวจภูธรเมืองชัยนาท ชั้น 4 นายนที มนตริวัต ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท เป็นประธานพิธีเปิดโครงการฝึกอบรมวิทยากรต้นแบบชุมชนยั่งยืน เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจร ตามยุทธศาสตร์ชาติ ตำรวจภูธรจังหวัดชัยนาท (ครู ข) พร้อมด้วย พลตำรวจตรี ธีร์ธวัต ธุระกิจ ผู้บังคับการรตำรวจภูธรจังหวัดชัยนาท และรองผู้บังคับการกองแผนงานความมั่นคง สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ ปฏิบัติราชการตำรวจภูธรจังหวัดชัยนาท โดยมีหัวหน้าชุดปฏิบัติการชุมชนยั่งยืน ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และผู้นำชุมชน เข้าร่วมกับการอบรมฯ
ทั้งนี้ ก่อนเข้ารับการอบรม พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานในพิธีเปิด ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ หรือการประชุมทางไกลผ่านทางจอภาพ พร้อมบรรยายพิเศษผ่านระบบจอภาพ ให้กับผู้เข้ารับการอบรมทั่วประเทศ
โดยตำรวจภูธรจังหวัดชัยนาท ได้ดำเนินโครงการฝึกอบรมวิทยากรต้นแบบชุมชนยั่งยืน เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติด แบบครบวงจร ตามยุทธศาสตร์ชาติ (ครู ข) ให้แก่ข้าราชการตำรวจในสังกัด ตำรวจภูธรจังหวัดชัยนาท และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรม สามารถนำความรู้ที่ได้รับไปบูรณการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความร่วมมือ และความเข้มแข็งให้กับคนในชุมชน/หมู่บ้าน ในการป้องกัน แก้ไข และเฝ้าระวังปัญหายาเสพติด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อฝึกฝนวิทยากร ครู ข เพื่อร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สร้างความร่วมมือและความเข้มแข็งให้กับคนในชุมชน/หมู่บ้าน เพื่อเรียนรู้ทบทวนกระบวนการชุมชนยั่งยืนให้เป็นผู้มีความรู้ความชำนาญ เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ เป็นตัวแทนของโครงการสามารถให้คำปรึกษาได้อย่างถูกต้อง และสามารถปฏิบัติงานและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ตามวัตถุประสงค์ของโครงการชุมชนยั่งยืน ได้ถูกต้องครบถ้วนอย่างมืออาชีพ โดยการฝึกอบรมในวันนี้ มีผู้เข้ารับการฝึกอบรม จำนวน 98 นาย โดยมีวิทยากรต้นแบบ (ครู ก) ที่มีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ในการทำงานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (สุรพล บำรุงศรี – วรชล ฟักขาว / ชัยนาท)

เทศบาลนครนนทบุรี พร้อมแกนนำ 150 ชีวิต ศึกษาดูงาน อบต.รางจรเข้ อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เทศบาลนครนนทบุรี นำประธานชุมชนและแกนนำชุมชน 150 คน ศึกษาดูงานนวัตกรรมตำบลร่มเย็นของ อบต.รางจรเข้ ครั้งที่1 โดยมี ดร.พงศกร มงคลหมู่ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลรางจรเข้ นายวลงค์กร ไวพ่อค้า ปลัดอำเภอเสนา นายเกียรติศักดิ์ ชั้วทอง สาธารณสุขอำเภอเสนา ร้อยตำรวจโทศักดิ์ชาย ศรีสันต์ รอง สวป.สภ.เสนา นางสาวบุญนิษา สุวรรณทรัพย์ ผอ.รพ.สต.รางจรเข้ และนายนพพร หล่อเหลี่ยม ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 7 ตำบลรางจรเข้ ร่วมเป็นวิทยากร ที่อาคารอเนกประสงค์ องค์การบริหารส่วนตำบล รางจรเข้ (ศูนย์ข่าวภาคกลาง)

ป.ป.ช.อยุธยา ลงพื้นที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เฝ้าระวังและป้องกันการทุจริต นม/อาหารกลางวัน
เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา ป.ป.ช.ประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมกับ ชมรม STRONG -จิตพอเพียงด้านทุจริตจังหวัดฯ ลงพื้นที่ที่พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลเมืองอโยธยา ประกอบด้วยศูนย์พัฒนาเด็กเล็กหมู่ 4 วัดประดู่ทรงธรรม และศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก หมู่ 5 วัดพระญาติการาม เพื่อสังเกตการณ์โครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน และอาหารกลางวัน ตามกิจกรรมการจับตามองและแจ้งเบาะแส
นายพงศกร มงคลหมู่ ประธานชมรมฯ ต้านทุจริตจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ป.ป.ช.อยุธยา ได้จัดกิจกรรมสังเกตโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียนและอาหารกลางวัน หลังจากมีการปรับค่าอาหารกลางวันเด็กนักเรียนตามมติคณะรัฐมนตรี ซึ่งพบว่าการดำเนินการของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก หมู่ 4 วัดประดู่ทรงธรรม มีนักเรียน 42 คน ได้จัดซื้อนมยูเอชทีแบบกล่อง โดยจัดเก็บนมที่เหมาะสม มีการจัดทำทะเบียนคุม รับ-จ่าย ให้กับเด็กนักเรียน รวมถึง มีคณะกรรมการตรวจรับนมโรงเรียน มีสัญญาการขายนมโรงเรียนกับผู้ประกอบการ ขณะที่อาหารกลางวัน ได้จัดการอาหารกลางวันให้ได้รับอาหารที่มีโภชนาการ เช่นเดียวกับศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก หมู่ 5 วัดพระญาติการาม ซึ่งมีนักเรียน 58 คน ก็เป็นไปตามขั้นตอนเช่นกัน (วุฒิภัทร ไทยสม / อยุธยา)

มทร.สุวรรณภูมิ ขอเชิญนักวิจัย นักวิชาการ และนักศึกษา ส่งผลงานเข้าร่วมประชุมวิชาการระดับชาติ มทร.สุวรรณภูมิ ครั้งที่ 6
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ เป็นเจ้าภาพจัดประชุมวิชาการระดับชาติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ครั้งที่ 6 การขับเคลื่อนงานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อสร้างสรรค์โมเดลเศรษฐกิจ สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ เผยแพร่ผลงานวิจัยและนวัตกรรม ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และด้านสังคมศาสตร์ การพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรมในสาขาวิชาต่าง ๆ และสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการและวิจัยระหว่างคณาจารย์ นักวิจัย นักวิชาการ นักศึกษา และผู้สนใจทั่วไป ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 27-28 เมษายน พ.ศ. 2566 ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ศูนย์พระนครศรีอยุธยา หันตรา
สำหรับผู้ที่สนใจลงทะเบียนส่งผลงานเข้าร่วมงานสามารถสอบถามหรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ดร.สุรัตน์ วังพิกุล โทรศัพท์ 09-7270-8866 หรือที่ https://ruscon.rmutsb.ac.th/ (ศูนย์ข่าวภาคกลาง)

ชาวทับกวางแก่งคอยสระบุรีกว่า 1 พันคน รวมตัวค้านโรงงานกำจัดขยะอุตสาหกรรม
ชาวบ้านในตำบลทับกวาง รวมตัวกันกว่า 1,200 คน ประท้วงผู้บริหารเทศบาล เอื้อประโยชน์นายทุน ปรับปรุงผังเมืองใหม่ เร่งทำประชาพิจารณ์ อนุญาตให้นายทุนจีนร่วมหุ้นคนไทยทุ่มเงินนับร้อยล้านบาท ก่อสร้างโรงงาน “กำจัดขยะอุตสาหกรรม” หวั่นสร้างมลพิษให้กับชุมน โรงเรียน วัด ส่งต่อคณะทำงานรับเรื่องราวร้องทุกข์ด้านกฎหมายของประชาชน ในคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน (วุฒิสภา) หาทางช่วยเหลือ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบ และนอกเครื่องแบบของ สภ.แก่งคอย และตำรวจสันติบาลจังหวัดสระบุรี มาคอยดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย
ช่วงเย็น วันที่ 12 มีนาคม 2566 ที่บริเวณใต้ทางด่วนมอเตอร์เวย์ บางปะอิน-โคราช (กำลังก่อสร้าง) ในเขตตำบลทับกวาง อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ได้มีชาวบ้านจาก หมู่ 1/3/6/9 และ หมู่ 10 จำนวนกว่า 1,200 คน พากันมารวมตัวถือป้าย ประท้วงคัดค้านการก่อสร้าง “โรงงานกำจัดขยะอุตสาหกรรม” ที่จะมาก่อตั้งดำเนินกิจการในพื้นที่หมู่ 3 ของตำบลทับกวาง ซึ่งชาวบ้านเกรงว่าจะนำมลพิษ ด้านฝุ่นละออง กลิ่น น้ำ ระบบขนส่ง ยานพาหนะที่จะวิ่งนำขยะเข้าสู่โรงงาน ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ให้กับชุมชนที่มีประชาชนเกือบ 5,000 คน และสถานที่ตั้งโรงงานยังอยู่ใกล้โรงเรียน และวัด ที่มีทั้งเด็ก และพระสงฆ์
โดย นายปู แตงอ่อน ส.ท.เมืองทับกวาง ชี้แจงกับชาวบ้าน อย่างเหลือความอดทนว่า ตนเป็นเพียงคนเดียวในสภาที่คัดค้าน (เทศบาล) ขั้นตอนการดำเนินการขออกใบอนุญาตก่อตั้งโรงงาน อยู่ในพื้นที่เทศบาล มีความผิดปกติตั้งแต่ต้น การทำประชาพิจารณ์ไม่เคยมีจริงในเทศบาลทับกวาง เดือนตุลาคม ปี 2565 ปรับเปลี่ยนผังเมืองใหม่ การทำประชาพิจารณ์มีรับฟังความคิดเห็น-ประชุมสภาเทศบาล ประกาศบังคับใช้ในราชกิจจาฯ เป็นไปอย่างรวบรัด และสุดท้าย ผู้บริหาร ลงนามอนุญาตให้โรงงานก่อสร้างโรงงาน แบบ (106) เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2566 และเป็นที่น่าสังเกตว่า การปรับเปลี่ยนผังเมืองใหม่ เพื่อรองรับการก่อสร้างโรงงานหรือไม่ ผู้รับผิดชอบที่เห็นแก่ผลประโยชน์จากนายทุน
เพราะฉะนั้น พวกเราจะทำอย่างไร ไม่ให้มีการปรับผังเมืองใหม่ และตามที่โรงงานจะมาชี้แจง ข้อปัญหาที่พวกเราชาวบ้านหวั่นผลกระทบจะเกิดขึ้นกับชุมชน ภายในสิ้นเดือนมีนาคมนี้ จะทำอย่างไร ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ ไม่เห็นด้วย และปฏิเสธไม่ให้มีการก่อสร้างโรงงานกำจัดขยะอุตสาหกรรมขึ้นในพื้นที่ตำบลทับกวาง และจะมีมาตรการคัดค้านกันอีกต่อไป จากนั้น มีนางนิตยา ปัตตะแวว คณะทำงานรับเรื่องราวร้องทุกข์ด้านกฎหมายของประชาชนในคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน (วุฒิสภา) ประจำจังหวัดสระบุรี เดินทางมารับเรื่องร้องทุกข์จากชาวบ้านเพื่อหาทางช่วยเหลือแก้ไขความเดือดร้อนให้กับประชาชนต่อไป ยุติการชุมนุม ชาวบ้านแยกย้ายกันเดินทางกลับโดยไม่มีเหตุการณ์ใดๆ เกิดขึ้นแต่อย่างใด (วิรัตน์ เดชะวราฤทธิ์ / สระบุรี)

จังหวัดสิงห์บุรี จัดกิจกรรมสภากาแฟ พบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกัน
วันพุธที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2566 เวลา 07.00 น. นายสุพจน์ ยศสิงห์คำ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี จัดกิจกรรมสภากาแฟ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ในการปฏิบัติราชการเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐ และประโยชน์สุขของประชาชน ในรูปแบบไม่เป็นทางการ ณ สำนักงานกาชาดจังหวัดสิงห์บุรี โดยมีนายสัมฤทธิ์ กองเงิน พร้อมนายสมชาย ลีหล้าน้อย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี หัวหน้าส่วนราชการ รองนายกเหล่ากาชาด ข้าราชการ พนักงานราชการและภาคเอกชน เนื่องจากผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี อยากให้ส่วนราชการได้พบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารในการทำงาน เพื่อประโยชน์ในการประสานงานราชการของจังหวัด จึงจัดให้มีกิจกรรมสภากาแฟขึ้นเป็นประจำทุกเดือน ภายในงานจัดร้านกาแฟแบบย้อนยุค บรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเอง ซึ่งกิจกรรมครั้งนี้มีสาระสำคัญคือจังหวดสิงห์บุรี เตรียมจัดงานสมโภชศาลหลักเมือง ในวันที่ 7-9 เมษายน 2566, แนวทางแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 การแสดงความยินดีและต้อนรับหัวหน้าส่วนราชการที่ย้ายมารับตำแหน่งใหม่ และแสดงความคิดเห็นแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกันให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น (อำนาจ สุขเย็น / สิงห์บุรี)

อยุธยาเปิดงานสัมมนาวิชาการด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัย ปี 66
นายสุทธิ สุโกศล ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงแรงงาน ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงานสัมมนาวิชาการด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัยส่วนภูมิภาค ประจำปี 2566 จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-9 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา ณ The Hall B และห้อง Meeting Room 3 ศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้พาร์ค โดยมี นายธีรศักดิ์ โฉมศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายวรานนท์ ปีติวรรณ ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (องค์การมหาชน) (สสปท.) พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หน่วยงานภาครัฐ เอกชน สถานศึกษา และเครือข่ายด้านความปลอดภัย ร่วมให้การต้อนรับ ณ The Hall ศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้พาร์ค (วุฒิภัทร ไทยสม / อยุธยา)

เรือนจำสระบุรี จัดอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพผู้ต้องขังเรือนจำจังหวัด เพื่อปฏิบัติงานอาสาสมัครสาธารณสุข (อสรจ.) ปี 2566
วันที่ 13 มีนาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เรือนจำจังหวัดสระบุรี นายแพทย์สมชาติ สุจริตรังษี รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระบุรี เป็นประธานในพิธีเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพผู้ต้องขังเรือนจำจังหวัดสระบุรี เพื่อปฏิบัติงานอาสาสมัครสาธารณสุขเรือนจำ ปี 2566 มีนายอนันต์ กมลเนตร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสระบุรี นำเจ้าเหน้าที่เรือนจำ อาสาสมัครสาธารณสุข เข้าร่วมพิธีเปิด ในปี 2563 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้มีการจัดตั้งโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์เพื่อมุ่งเน้นในด้านการส่งเสริมทางด้านเครื่องมือแพทย์ และการบริการทางการแพทย์การพยาบาล โดยพัฒนาองค์ความรู้ต้านสุขภาพอนามัยที่จำเป็นแก่ผู้ต้องขัง และองค์ความรู้ด้านสุขภาพในเรือนจำแก่อาสาสมัครสาธารณสุขเรือนจำ
กระทรวงสาธารณสุข ได้ขับเคลื่อนนโยบายการดำเนินงานการพัฒนาระบบบริการสาธารณสุข สำหรับผู้ต้องขังในเรือนจำตามโครงการราชทัณฑ์ปันสุขฯ โดยบูรณาการการทำงานร่วมกับกรมราชทัณฑ์กระทรวงยุติธรรม มาอย่างต่อเนื่อง หลักสูตรการฝึกอบรมนี้ เป็นการฝึกอบรมอาสาสมัครสาธารณสุขเรือนจำ ให้มีความรู้ ความเข้าใจ เฝ้าระวัง คัดกรองสุขภาพเบื้องต้น ดูแลช่วยเหลือ และถ่ายทอดความรู้ เพื่อส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค ตลอดจนดูแล สิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อสุขภาพและสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพที่เหมาะสม ในกลุ่มผู้ต้องขังในเรือนจำในการจัดการอบรมครั้งนี้ มีผู้ต้องขังสมัครเข้าร่วมอบรม จำนวนทั้งสิ้น 80 คน แบ่งเป็นผู้ต้องขังชายจำนวน 70 คน ผู้ต้องขังหญิง 10 คน มีระยะเวลาในการจัดอบรม 5วัน ตั้งแต่วันที่ 13 ถึงวันที่ 17 มีนาคม 2566 ณ เรือนจำจังหวัดสระบุรี
ซึ่งเป็นความร่วมมือกันระหว่างสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระบุรี โรงพยาบาลสระบุรี และเรือนจำจังหวัดสระบุรี โดยได้รับสนับสนุนวิทยากรจากสำนักงานสาธารสุขจังหวัดสระบุรี สถานพยาบาลเรือนจำจังหวัดสระบุรี โรงพยาบาลสระบุรี โรงพยาบาลหนองแค โรงพยาบาลแก่งคอย โรงพยาบาลวิหารแดง และโรงพยาบาลเสาไห้ บรรยายในหัวข้อต่าง ๆ ทั้งหมด 8 หมวดวิชา ตามหลักสูตรของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข (สมนึก สุขีรัตน์ / สระบุรี)

สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสกลนคร เชิญนักช้อป ผลิตภัณฑ์ และเที่ยวงาน “Isan GI Market” ที่ศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้พาร์ค
ศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้พาร์ค ร่วมกับ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสกลนคร ขอเชิญเที่ยวงาน “Isan GI Market” ที่สุดแห่งสินค้า GI คุณภาพ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภายในงานพบกับการแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สินค้า GI ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้ง 20 จังหวัด จำนวน 100 บูธ กิจกรรมความบันเทิงบันเทิงโดยนักร้องคุณภาพ และกิจกรรมส่งเสริมการขาย และของรางวัลมากมาย ช้อป สินค้า GI ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สินค้าอัตลักษณ์ภาคอีสาน
ชม : มินิคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง วันที่ 17 มี.ค. 2566 พบกับ นุช วิลาวัลย์ และ เก๋ กรกต วันที่ 18 มี.ค. พบกับ กานต์ ทศน วันที่ 19 มี.ค. พบกับ ตรี ชัยณรงค์ วันที่ 20 มี.ค. พบกับ ปาร์ค ภัทรพงศ์ และวันที่ 21 มี.ค. พบกับ ธัญญา อาร์สยาม พร้อมเจรจากับธุรกิจการค้า วันที่ 17-21 มีนาคม 2566 ณ ชั้น 1 แกรนด์ฮอลล์ ศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้พาร์ค (เผอิญ – วุฒิภัทร ไทยสม / อยุธยา)

จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เตรียมจัดงาน “ศิลปะการต่อสู้และไหว้ครูมวยไทยนายขนมต้ม” อย่างยิ่งใหญ่ เพื่อรำลึกถึงนายขนมต้มบรมครูมวยไทย และส่งเสริมการท่องเที่ยว
ดร.ชาญณรงค์ สุหงษา นายกสมาคมสถาบันศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวแบบไทย เปิดเผยว่า ในวันที่ 17 มีนาคมนี้ ที่สนามกีฬากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กำหนดจัดงาน “วันไห้วครูมวยไทยโลก” ครั้งที่ 16 โดยความร่วมมือของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา องค์การบริหารส่วนจังหวัดฯ สำนักงานการท่องเที่ยวจังหวัดฯ สหพันธ์สมาคมมวยไทยนานาชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ เพื่อเชิดชูบรรพบุรุษมวยไทยนายขนมต้มคนไทย ที่ชกชนะนักมวยพม่าถึง 10 คน ซึ่งตรงกับวันที่ 17 มีนาคม 2317 และในฐานะนายขนมต้มเป็นคนบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงถือว่านายขนมต้มเป็นนักมวยเอกคนแรกของไทย ที่ประกาศศักดาแห่งมวยไทยไปถึงต่างประเทศ แม้กระทั่งประวัติศาสตร์พม่าก็ยังจารึกไว้เสมอว่า ไทยมีพิษสงอยู่ทั่วตัว ใช้มือเปล่าๆ ไม่มีอาวุธ ยังสามารถเอาชนะได้หลายคน ฝีมือมวยแสนวิเศษ
ดังนั้น ประชาชนชาวไทยที่รักในศิลปะป้องกันตัว จึงกำหนดให้วันที่ 17 มีนาคมของทุกปี เป็นวันไห้วครูมวยไทยโลก พร้อมย้ำ การจัดงานทุกปี จะมีชาวต่างชาติเดินทางมาร่วมกิจกรรมจำนวนมากเป็นประจำทุกปี จนเป็นที่ยอมรับของคนที่ชื่นชอบมวยไทยไปทั่วโลก อย่างไรก็ตาม การจัดกิจกรรมดังกล่าว นอกจากเป็นการเชิดชูเกียรตินายขนมต้มแล้ว ยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวให้กับจังหวัดพระนครศรีอยุธยาอีกด้วย (ชาญ ชูกลิ่น / อยุธยา)