ข่าน ในวัย 70 ปี ผู้ชนะการเลือกตั้งซ่อมหลายครั้ง ผู้นำการประท้วงต่อต้านรัฐบาลครั้งใหญ่ และผู้รอดชีวิตจากความพยายามลอบสังหาร เรียกร้องให้รัฐบาลผสม 13 พรรค กำหนดวันเลือกตั้งล่วงหน้า ก่อนเดือน ต.ค. 2566 โดยในการเลือกตั้งซ่อมเมื่อปีที่แล้ว ข่านชนะ 6 ใน 7 ที่นั่ง ซึ่งเขาลงชิงด้วยตัวเอง นับเป็นการแสดงให้เห็นว่า คะแนนความนิยมของเขาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตรงตามผลสำรวจความคิดเห็นในเดือนนี้ สวนทางกับคะแนนความนิยมของรัฐบาลที่ร่วงลงอย่างมาก เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อพุ่งสูง และความวุ่นวายทางเศรษฐกิจที่มีมานานหลายเดือน

อย่างไรก็ดี อุปสรรคอย่างหนึ่งสำหรับข่าน คือ เขากำลังเผชิญกับคดีความในศาลหลายคดี รวมถึงคดีหนึ่งที่เขาถูกกล่าวหาว่า “ซ่อนเร้นทรัพย์สิน” ซึ่งถ้าข่านถูกตัดสินว่ามีความผิดจริง มันจะส่งผลให้เขาต้องรับโทษจำคุก หรือถูกตัดสิทธิทางการเมือง

Al Jazeera English

การที่ข่านต้องพ้นจากตำแหน่งผู้นำปากีสถาน มาจากการที่เขาชะลอการขอความช่วยเหลือ จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เมื่อปากีสถานเผชิญวิกฤติดุลการชำระเงิน ซึ่งแม้จะมีการรื้อฟื้นแผนดังกล่าวเมื่อปี 2564 แต่ไม่กี่เดือนต่อมา ข่านกลับตัดสินใจลดราคาเชื้อเพลิงและอัตราค่าไฟฟ้าภายในประเทศ เพื่อบรรเทาความโกรธเคืองของสาธารณชน ที่มีต่อค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น เท่ากับเป็นการผิดข้อตกลง และส่งผลให้โครงการของไอเอ็มเอฟตกอยู่ในอันตรายอีกครั้ง

ข่านกล่าวหาชารีฟและนักการเมืองคนอื่น ๆ ว่า สมรู้ร่วมคิดกับ พล.อ.กามาร์ จาเว็ด บัจวา ผู้บัญชาการกองทัพบกของปากีสถานในเวลานั้น เพื่อโค่นล้มรัฐบาลของเขา ด้วยเหตุผลที่ว่า เขาวิพากษ์วิจารณ์สหรัฐมากขึ้นเรื่อย ๆ และพยายามกระชับความสัมพันธ์กับรัสเซียและจีน ซึ่งทฤษฎีสมคบคิดของข่าน ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จากกลุ่มผู้สนับสนุนของเขา

อนึ่ง ข่านกล่าวว่า ความสัมพันธ์ของเขากับกองทัพปากีสถาน องค์กรซึ่งมีบทบาทและอิทธิพลเป็นพิเศษ ต่อการปกครองประเทศ ตลอดช่วงเวลา 3 ปีแรกที่เขาเป็นผู้นำนั้น อยู่ในระดับ “ดีเยี่ยม” อีกทั้งตัวเขาและ พล.อ.บัจวา “มีความคิดตรงกัน” ในทุกประเด็นด้วย ทว่าพรรคฝ่ายค้านและนักวิเคราะห์หลายคนมองต่างออกไป เพราะความสัมพันธ์นั้นแย่ลงเมื่อเดือน ต.ค. 2564 เมื่อมีการปรับเปลี่ยนโยกย้ายคนสนิทของข่านในกองทัพ ส่งผลให้เกิดความแตกแยกระหว่างข่านกับ พล.อ.บัจวา ในที่สุด

แม้ชารีฟปฏิเสธจัดการเลือกตั้งครั้งใหม่ในเวลานี้ โดยให้เหตุผลว่าเขาต้องการดำเนินโครงการของไอเอ็มเอฟให้สำเร็จ และอยู่ครบวาระการดำรงตำแหน่ง แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็สูญเสียการสนับสนุนจากประชาชน เนื่องจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งกล่าวโทษรัฐบาลผสมของชารีฟ ว่าเป็นต้นตอวิกฤติทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การที่ปากีสถานถูกปรับลดความน่าเชื่อถือเป็นระดับ “ขยะ” อันมาจากผลกระทบของอุทกภัยเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจมูลค่ามากกว่า 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1 ล้านล้านบาท) และอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์.

เลนซ์ซูม