“บ่อยครั้งเรามักเผลอเอาสายตาของคนอื่น มาเป็นเครื่องวัดคุณค่าของเรา…โลกไม่เคยบำเหน็จรางวัลให้กับนักรบที่ไม่เคยย่างกรายออกสู่สนามรบ”

ต้องยอมรับว่าตลอดทั้งปีที่ผ่านมา บรรดามิจฉาชีพและแก๊งคอลเซ็นเตอร์ต่างอาละวาดหลอกสูบเงินผู้คนอย่างนับไม่ถ้วน แล้วไม่ใช่ว่าจะใช้วิธีการแบบเดิมๆ ซ้ำซากๆ นะ เพราะอาจจะถูกเหยื่อจับได้ พวกมันจึงคิดหาวิธีการหลอกลวงแนวใหม่ๆ อยู่เรื่อยๆ โดยใช้ช่วงเวลาที่เกี่ยวพันกับสถานการณ์ช่วงนั้นมาหลอก

โดยตอนนี้ก็เป็นช่วงสถานการณ์ใหม่นั่นคือ ช่วงปิดเทอม ช่วงหน้าร้อน ช่วงค่าไฟแพง พวกมันก็เหมือนจะรู้จุดหลอก จึงเอาช่วงเวลานี้มาวางแผนให้แยบยลและแนบเนียนที่สุดในการดูดเงินจากบัญชี

ล่าสุด มีการสรุปสถิติคดีอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ ที่ประชาชนร้องเรียนผ่านแจ้งความออนไลน์ในเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา พบว่ามีจำนวนถึง 22,486 คดี ยอดความเสียหายรวมสูงกว่า 1,842 ล้านบาท โดยใช้สถานการณ์ในช่วงหน้าร้อนหลอกลวง

ซึ่ง 5 ลำดับสูงสุดในการหลอก ได้แก่ 1.หลอกซื้อขายสินค้าหรือบริการที่ไม่เป็นขบวนการ 2.หลอกให้ลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ 3.หลอกให้โอนเงินเพื่อทำงานฯ 4.ข่มขู่ทางโทรศัพท์ (Call Center) และ 5.หลอกให้กู้เงิน

  1. “หลอกขายแอร์ พัดลม เครื่องฟอกอากาศ” หลอกให้โอนเงินก่อนแต่ไม่จัดส่งสินค้า หรือส่งสินค้าแบบเก็บเงินปลายทาง แต่เป็นสินค้าปลอม ไม่ตรงปก คุณภาพต่ำ

2. “หลอกขายทัวร์ท่องเที่ยวทิพย์” หลอกลวงขายตั๋วทัวร์ในประเทศ/ต่างประเทศ ให้โอนเงินแล้วเงียบหายติดต่อไม่ได้ ไม่ได้เดินทางจริง

3. “หลอกลดหย่อนค่าไฟ, หลอกแจกตั๋วเครื่องบินฟรี” หลอกให้ดาวน์โหลดแอปดูดเงิน หลอกเอาข้อมูลส่วนตัว เลขบัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์ วันเดือนปีเกิด

4. “หลอกทำงานพิเศษช่วงปิดเทอม” หลอกให้โอนเงิน ลงทุน เพื่อทำงานพิเศษ เช่น กดรับออร์เดอร์ ทำสต๊อกสินค้า หลอกให้ลงทุน แล้วไม่ได้รับเงินคืนทั้งต้นทุนและกำไร

5. “หลอกกู้เงินออนไลน์ดอกเบี้ยต่ำ” หลอกให้โอนเงินเป็นค่าธรรมเนียม หรืออ้างทดลองโอนเงินเข้าบริษัท เพื่อแสดงว่าสามารถผ่อนชำระได้ และหลอกให้โอนเงินเพิ่มโดยใช้ข้ออ้างต่างๆ เช่น โอนเงินเกินเวลาที่กำหนด หรือทำธุรกรรมผิดพลาด จนสุดท้ายก็ไม่ได้ทั้งเงินกู้ และเงินที่โอนไป

จะสังเกตได้ว่าทั้ง 5 ลำดับที่จะถูกนำมาใช้หลอกเหยื่อนั้นเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ในช่วงนี้พอดี จึงทำให้ประชาชนมีโอกาสผิดพลาดแล้วหลงเชื่อได้ ฉะนั้นทางที่ดีที่สุดและปลอดภัยที่สุดเราต้องมีสติให้มาก และให้คิดในแง่ลบไว้ก่อนว่าอาจเป็นพวกมิจฉาชีพกำลังรอให้เราติดกับดัก.

ข่าวสารตำรวจ

ไม้ง่ามระงับเหตุฝีมืออาชีวะ
เรืออากาศโท สมพร ปานดำ รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ได้ส่งมอบ “ไม้ง่ามระงับเหตุ” ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมี พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้รับมอบ ในการนี้ ดร.นิรุตต์ บุตรแสนลี ผู้อำนวยสำนักวิจัยและพัฒนาการอาชีวศึกษา นายราตรีสวัสดิ์ ธนานันต์ ผู้อำนวยการสำนักความร่วมมือ นายทวีศักดิ์ คิ้วทอง ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคมีนบุรี ปฏิบัติหน้าที่ ผู้อำนวยการศูนย์ความปลอดภัย นายชลัท อุยถาวรยิ่ง ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคกาญจนาภิเษก มหานคร ร่วมเป็นเกียรติในพิธีดังกล่าว ณ ห้องประชุมสารสิน ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา โดยสำนักวิจัยและพัฒนาการอาชีวศึกษา และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกันพัฒนานวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ในการระงับเหตุ โดยกำหนดแนวคิดหลักในการพัฒนานวัตกรรมร่วมกันว่าต้องเป็นเครื่องมือที่ “สะดวกต่อการใช้งาน ง่ายต่อการเก็บและถอดประกอบ ใช้วัสดุภายในประเทศ และราคาไม่แพง” เพื่อเป็นเครื่องมือในการระงับเหตุประจำรถสายตรวจทุกคันอย่างเพียงพอ สำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถระงับเหตุและอำนวยความปลอดภัยให้ประชาชนได้อย่างเต็มที่ รวมทั้งลดความเสี่ยงและความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น

การพัฒนานวัตกรรมนี้ ได้รับทุนสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ในงบประมาณกองทุนส่งเสริม ววน. ปี 2565 โดยทีมนักศึกษา นักวิจัย-นักประดิษฐ์จากวิทยาลัยเทคนิคกาญจนาภิเษก มหานคร ร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานนวัตกรรม โดยเชื่อมโยงองค์ความรู้และประสบการณ์จากเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการระงับเหตุสู่การพัฒนานวัตกรรมให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งานจริง เหมาะสมกับการเข้าระงับเหตุ เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุดในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ทางหลวงอีสานพร้อมแล้ว
พ.ต.ท.ศิวกริช ดิษย์บุญรัตน์ รอง ผกก.4 บก.ทล. เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ได้ออกตรวจเยี่ยมสถานีตำรวจทางหลวงในสังกัด กก.4 บก.ทล. (อีสานเหนือ) ทั้ง 5 สถานี ร้อยเอ็ด, ขอนแก่น, อุดรธานี, เลย และสกลนคร เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการปฏิบัติหน้าที่ป้องกันอุบัติเหตุ ปรามปรามอาชญากรรมบนทางหลวง อำนวยความสะดวกด้านการจราจรและให้บริการพี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2566

พ.ต.ท.ศิวกริช กล่าวเพิ่มเติมว่า เคยดำรงตำแหน่ง สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวงอุดรธานี ซึ่งในขณะที่ดำรงตำแหน่ง ได้ฝากผลงานไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นรางวัลสถานีตำรวจดีเด่นสองปีซ้อน การปราบปรามอาชญากรรม รวมถึงการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในช่วงวิกฤตโควิด ซึ่งในปีนี้ ได้รับความไว้วางใจจากผู้บังคับบัญชาให้มาทำงานในพื้นที่ภาคอีสานตอนบนเอีกครั้งคาดการณ์ว่าจะมีรถออกจากกรุงเทพมหานครมากกว่า 1 ล้านคัน ซึ่งเทศกาลสงกรานต์ส่วนใหญ่คนจะกลับมาบ้านมารดน้ำดำหัวญาติผู้ใหญ่ ซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของคนไทย คนไปทำงานต่างที่ต่างถิ่นได้กลับมาบ้าน เป็นเทศกาลของครอบครัว ต่างจากเทศกาลปีใหม่ ที่ส่วนใหญ่คนจะไปเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เพราะฉะนั้น ตำรวจทางหลวงในภาคอีสานเหนือของเรา จะต้องพร้อมดูแลพี่น้องประชาชน 100% ต้องพร้อมทั้งร่างกาย อุปกรณ์ สถานที่ ข้อมูลต่างๆ เพื่อให้เทศกาลสงกรานต์ ซึ่งเป็นอัตลักษณ์ของชาติไทย เป็นเทศกาลแห่งความสุขและความปลอดภัยอย่างแท้จริงของพี่น้องประชาชนโดยรวม

รณรงค์ลดอุบัติเหตุ
พล.ต.ต.อมรศักดิ์ เกษมก์สิริ ผบก.ภ.จว.สุโขทัย ประธานเปิดโครงการรณรงค์ลดอุบัติเหตุขับขี่ปลอดภัย ตำรวจภูธรจังหวัดสุโขทัย ณ บริเวณหน้าอาคารที่ทำการ สภ.เมืองสุโขทัย โดยมีหน่วยงานที่เข้าร่วมกิจกรรมดังนี้ รอง ผอ.รมน.จังหวัด ส.ท.(ท.), สาธารณสุขจังหวัดสุโขทัย, หน.สถานีตำรวจในสังกัด ภ.จว.สุโขทัย ,ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สุโขทัย, ขนส่งจังหวัดสุโขทัย, บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ สาขาสุโขทัย, กต.ตร.สภ.เมืองสุโขทัย และประชาชนผู้เข้าร่วมโครงการ 180 คน รับมอบหมวกนิรภัยจากโครงการฯ เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน

มอบใบประกาศ
พ.ต.อ.รัตนสุข คำวงศ์ ผกก.สภ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น มอบประกาศเกียรติคุณ ให้กับ ร.ต.ต.สุริยา สมภูเวียง เจ้าหน้าที่สื่อสารประจำสถานีตำรวจภูธรชุมแพ หลังได้รับการคัดเลือกให้เป็นข้าราชการตำรวจดีเด่น ที่ประพฤติปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี ด้านงานป้องกันและปราบปราม มีคุณธรรม จริยธรรม ปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชน บำบัดทุกข์ บำรุงสุข อย่างแท้จริง

แสดงความยินดี
สมศักดิ์ จุฑาวงศ์กุล นายอำเภอบ้านบึง จ.ชลบุรี เป็นประธานในการประชุมประจำเดือนกำนันผู้ใหญ่บ้าน ณ ศาลาประชาคมอำเภอบ้านบึง พร้อมให้เกียรติประดับขีดเครื่องหมายและแสดงความยินดีกับ ชัยสิทธิ์ ลดารุ่งโรจน์ ที่ได้เป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.มาบไผ่ โดยไม่มีคู่แข่งขัน ซึ่งมี พ.ต.อ.สมชาย ทิวงษา ผกก.สภ.บ้านบึง พ.ต.อ.กฤศ ธิติทัศนะ ผกก.สภ.คลองกิ่ว กำนันจิรวัฒน์ ลออรุ่งเรืองกิจ ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน อ.บ้านบึง ร่วมยินดีด้วย

ตำรวจหนองบัวปิ๊งไอเดีย
ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ทุกปีทุกภาคส่วนรณรงค์ให้ผู้ขับขี่รถยนต์และผู้เล่นน้ำให้มีวินัย เพื่อความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน ขณะที่จังหวัดหนองบัวลำภู พล.ต.ต.พงพิพัฒน์ ศิริพรวิวัฒน์ ผบก.ภ.จว.หนองบัวลำภู กำชับ หน.สถานีในสังกัดเพิ่มทุกมาตรการเพื่อบังคับการใช้กฏหมายอย่างจริงและเมื่อวันก่อนร่วมกับ พ.ต.อ.เกียรติภูมิ สุวรรณไตรย์ ผกก.สภ.เมืองหนองบัวลำภู และเครือข่ายองค์กรงดเหล้าจังหวัดหนองบัวลำภู นิมนต์พระบิณฑบาตให้สวมหมวกกันนิรภัย ประพรมน้ำพุทธมนต์ ป้องกันสมองไหล ปลอดภัยในการในการเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์วิถีไทย ปลอดเหล้า ปลอดภัยใช้น้ำน้อย บริเวณถนนสาย 228 ตรงข้ามทางเข้าสถานีขนส่งผู้โดยสารหนองบัวลำภู อำเภอเมืองหนองบัวลำภู ในขณะที่ สภ.โนนสัง พ.ต.อ.กฤษณ์ มาสุข ผกก.สภ.โนนสัง พร้อม พ.ต.ท.อิทธิวัตร มูลขุนทด รอง ผกก.ป.สภ.โนนสัง และ พ.ต.ท.สมคิด ชื่นชม สวป. เร่งประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจให้กับชาวบ้านในพื้นที่ด้วยความห่วงใยในการเดินทาง พ.ต.อ.กฤษณ์ มาสุข ผกก.ฯ ยังได้มอบหมวกกันน็อกฟรีถึง 200 ใบ หลังพระคุณเจ้าขอบิณฑบาต พร้อมมอบผ้าเย็นและน้ำดื่มไว้คลายร้อน ให้กับประชาชนที่ได้สัญจรไปมา ณ หน้าวัดศรีสว่าง ต.กุดดู่ อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู

ชุมชนยั่งยืน
ภายใต้การอำนวยของ พล.ต.ต.ปิติ นฤขัตรพิชัย ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี,พ.ต.อ.กานต์ ธรรมเกษม รอง ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี พ.ต.อ.สมเกียรติ โฉมฉาย ผกก.สภ.ชะอำ สั่งการให้พ.ต.ท.อภิรักษ์ เพิ่มชัยรอง ผกก.ป.สภ.ชะอำ พ.ต.ต.กฤษฎา ยอดเมฆ สวป.สภ.ชะอำ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการชุมชนยั่งยืนฯ สภ.ชะอำ พร้อมด้วย นายทัศนัย พวงบุบผา ปลัดอำเภอชะอำ เจ้าหน้าที่ อส.และภาคีเครือข่าย กำนัน สารวัตรกำนัน จนท.สาธารณสุข/อสม.ลงพื้นที่หมู่บ้านเป้าหมาย บ้านดอนขุนห้วย หมู่ 5 ซอย 4 เหนือ ต.ดอนขุนห้วย อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี โดยได้ดำเนินการตรวจแบบ X-ray ผู้ใช้สารเสพติด แบบ 100 % ทุกคนที่มีอายุระหว่าง 12-65 ปี และขอความร่วมมือ ลงนามบันทึก MOU ว่าจะไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดตามโครงการชุมชนยั่งยืน.

**************************************
คอลัมน์ : สน.รอตรวจ
โดย : บิ๊กสลีป