เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูรุ่นใหม่ไฟแรง นายจิรายุ ร่มเย็น อายุ 19 ปี สืบทอดอาชีพเลี้ยงหมูจากรุ่นพ่อสู่รุ่นลูก กับแนวคิดนำหญ้าเนเปียร์เข้ามาใช้ในการเลี้ยงหมูเพื่อลดต้นทุนค่าอาหารหมูที่ราคาพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ หลังลองผิดลองถูกมาหลายอย่าง ผ่านมากว่า 2 ปี มุ่งสู่ความสำเร็จ ประหยัดต้นทุนถึงครึ่งต่อครึ่ง ได้หมูเนื้อดีกว่าปกติเป็นความภูมิใจหวังต่อยอดขยายฟาร์มออกไปในอนาคต

ฟาร์มหมูของจิรายุ ตั้งอยู่ที่บ้านหนองโบสถ์ หมู่ที่ 20 ต.โคกกระชาย อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา เขามีหมูที่เลี้ยงไว้เกือบ 100 ตัว ทั้งพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ หมูรุ่น และหมูเพิ่งคลอด ตลอดเวลาที่ผ่านมาได้รับการแนะนำและถ่ายทอดความรู้มาจากเจ้าหน้าที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอครบุรีมาตั้งแต่รุ่นพ่อก่อนจะตกทอดมาถึงรุ่นลูก ตอนนี้เขามีหมูรุ่นที่พร้อมส่งขายกว่า 50 ตัวเลยทีเดียว

“จิรายุ” เล่าว่า พ่อของตนเป็นคนลงทุนตั้งฟาร์มเลี้ยงหมูเพื่อส่งขายให้กับพ่อค้าคนกลาง ส่วนตนก็เป็นลูกมือช่วยเลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก กระทั่งตนได้มาเป็นคนเลี้ยงอย่างเต็มตัว ตลอดระยะเวลาที่เลี้ยงหมูมากว่า 2 ปี ก็เห็นว่าอาหารหมูมีราคาพุ่งขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง เลยหันมาคิดวิธีลดต้นทุนลองผิดลองถูกมาหลายอย่าง จนได้รับการแนะนำจากสำนักงานปศุสัตว์อำเภอว่าให้ทดลองใช้รำผสมหัวอาหารและใช้หญ้าเนเปียร์มาให้ร่วมด้วย ผลปรากฎว่าลดต้นทุนค่าอาหารหมูได้เป็นเท่าตัวเลยทีเดียว

หญ้าเนเปียร์ทำให้หมูมีความแข็งแรง สร้างกล้ามเนื้อ ลดไขมัน เนื่องจากเป็นพืชที่ให้โปรตีนสูง และมีวิตามินเสริม หากเปรียบเทียบราคาต้นทุนค่าอาหารในการเลี้ยงหมูแบบปกติที่จะต้องใช้ค่าอาหารหมูต่อตัวต่อรุ่น ตลอดระยะเวลาการเลี้ยงจนถึงจับส่งขายจะต้องเสียค่าอาหารประมาณตัวละ 4,000 บาท แต่ถ้าใช้หญ้าเนเปียร์มาร่วมเลี้ยงด้วยจะสามารถลดต้นทุนค่าอาหารเหลือประมาณตัวละ 2,000 บาทเท่านั้น แต่ก็อาจจะใช้เวลาในการเลี้ยงมากกว่าปกติประมาณ 15 วัน

“จิรายุ” เล่าอีกว่า ก่อนหน้านี้ตนก็สั่งซื้อหญ้าเนเปียร์ตามท้องตลาด แต่ตอนนี้ตนได้หันมาปลูกหญ้าเนเปียร์เองแล้วในพื้นที่ 2 ไร่ เป็นพืชที่เติบโตเร็ว ให้ผลผลิตต่อไร่สูง สามารถเก็บเกี่ยวต้นมาทำอาหารสัตว์ได้ตลอดทั้งปี และเก็บเกี่ยวได้นาน 5-7 ปีเลยทีเดียว ซึ่งก็เพียงพอต่อการใช้เลี้ยงหมูภายในฟาร์มประมาณ 100 ตัว

“อย่างไรก็ตาม ตนก็ยังคงต้องเก็บเกี่ยวประสบการณ์การเลี้ยงหมูไปเรื่อยๆ และต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เพื่อพัฒนาอาชีพต่อไป เพราะไม่ว่าใครจะทำอาชีพอะไรก็ต้องศึกษาเรียนรู้อยู่เสมอและมีความเชี่ยวชาญจึงจะประสบความสำเร็จในอาชีพได้”

ด้านนายบัญชา ชุติมันตานนท์ ปศุสัตว์อำเภอครบุรี ที่เข้ามาเยี่ยมฟาร์หมูของจิรายุ กล่าวว่า หญ้าเนเปียร์นั้นถือเป็นหญ้าที่เหมาะต่อการนำมาเลี้ยงสัตว์อย่างมาก เนื่องจากเป็นหญ้าที่มีอัตราการให้โปรตีนสูงอยู่ที่ประมาณ 8 – 10 เปอร์เซ็นต์ แล้วแต่การดูแลให้น้ำและสภาพพื้นที่ในการเพาะปลูก อีกทั้งยังมีเส้นใย วิตามินต่างๆ ในปริมาณสูงสามารถลดสภาวะความเครียดให้กับสัตว์ได้เป็นอย่างดีด้วย อย่างที่ฟาร์มแห่งนี้ที่เลี้ยงมานานกว่า 2 ปีแล้ว ก็ยังไม่มีการตรวจพบว่ามีหมูป่วยตายผิดปกติแต่อย่างใด

คอลัมน์ : นิยายชีวิต โดย : อสงไขย
เรื่องและภาพโดย : รณฤทธิ์ นวนครบุรี จ.นครราชสีมา
[[คลิก]] อ่านเรื่องราว “นิยายชีวิต” ได้ที่นี่..