“เหนื่อยก็จะทำ ท้อก็จะทน ด้วยหัวใจของคนที่มีหวัง…ไม่ว่าจะเจอกับเรื่องราวที่สมหวังหรือผิดหวัง ก็อย่าเพิ่งหมดหวัง”
เตือนกันทุกครั้ง เตือนกันทุกรอบ เตือนกันทุกทีที่มีโอกาส ถึงพวกแก๊งมิจฉาชีพที่สรรหาเทคนิคหรือวิธีการต่างๆ มาสร้างหลุมพรางเพื่อหลอกลวงสูบเงินจากประชาชน ถึงแม้เราจะพยายามป้องกันและระวังตัวขนาดไหน พวกมันก็ยังไม่ลดละ ยังหาทุกช่องทางมาหลอกเราอยู่ดี
อีกหนึ่งช่องทางที่มีมานานและก็ยังไม่สามารถแก้ไขหรือป้องกันได้เลย นั่นคือ “เพจเฟซบุ๊กปลอม” ซึ่งนอกจากเรื่องเดิมๆอย่างหลอกขายของขายสินค้าแล้ว ตอนนี้มันมีที่ระบาดหนักๆเลยคือการสร้าง “เพจที่พักปลอม” อันเนื่องมาจากช่วงนี้เป็นช่วงซัมเมอร์ที่มีวันหยุดเยอะ ประกอบกับบรรดาลูกๆหลานๆก็หยุดปิดเทอมยาวด้วย ยิ่งทำให้ผุ้คนยิ่งอยากพากันออกไปเที่ยว
พวกมิจฉาชีพจะสร้างเพจเฟซบุ๊กปลอม โดยลอกเลียนแบบเพจที่พักจริงในพื้นที่สำคัญต่างๆ แอบอ้างเป็นเจ้าของที่พัก หรือแอดมินเพจหลอกลวงประชาชนให้โอนเงินค่ามัดจำก่อนเดินทางเข้าพักจริงในช่วงวันหยุด โดยเฉพาะที่พักในพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ในหลายจังหวัด อาทิ ภูเก็ต ชลบุรี ระยองจันทบุรี ตราด
มันจะใช้แผนประทุษกรรมหลักอยู่ 2 วิธี คือ วิธีที่หนึ่ง สร้างเพจเฟซบุ๊กที่พักปลอมขึ้นมา หรือใช้เพจเฟซบุ๊กเดิมที่มีผู้ติดตามอยู่แล้ว ตั้งชื่อหรือเปลี่ยนชื่อเพจให้เหมือนกับเพจจริง คัดลอกภาพโปรไฟล์ ภาพหน้าปก เนื้อหา และโปรโมชั่นต่างๆ จากเพจจริงมาใช้หลอกลวงผู้เสียหาย และใช้เทคนิคในการซื้อ หรือยิงโฆษณาเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และเพื่อที่จะสามารถเข้าถึงเป้าหมายได้ง่ายขึ้น

วิธีที่สอง ใช้บัญชีเฟซบุ๊กอวตารแฝงตัวเข้าไปในกลุ่มแนะนำโรงแรม หรือที่พักต่างๆ โพสต์ข้อความในลักษณะว่ามีที่พักหลุดจองราคาดี กระทั่งผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไปแล้ว ก็จะไม่สามารถติดต่อเพจนั้น หรือบัญชีอวตารนั้นได้ หรือกรณีที่แย่ที่สุดเมื่อผู้เสียหายเดินทางไปถึงที่พักจริงแล้ว กลับได้รับแจ้งว่าไม่ได้มีการจองที่พักมาแต่อย่างใด ทำให้นอกจากจะสูญเสียทรัพย์สิน เสียเวลาแล้ว ยังจะไม่มีที่เข้าพักอีกด้วย
อย่างไรก็ตามหากไปเจอเพจที่พักแล้วต้องการจะจองที่พักให้นึกถึง 9 ข้อนี้ให้ดี อย่างน้อยก็ยังพอป้องกันการถูกหลอกลวงได้บ้าง
1.สำรองที่พักผ่านช่องทางที่เป็นทางการ หรือผ่านผู้ให้บริการสำรองที่พักออนไลน์ที่น่าเชื่อถือ เช่น Booking.com, Agoda, Traveloka หรือผ่านเว็บไซต์ของที่พักโดยตรง
2.หากต้องการที่จะเข้าสู่เพจเฟซบุ๊กใดให้พิมพ์ชื่อด้วยตนเอง และตรวจสอบให้ดีว่ามีชื่อซ้ำ หรือชื่อคล้ายกันหรือไม่ แล้วเพจใดคือเพจจริง
3.เพจเฟซบุ๊กจริงจะต้องมีเครื่องหมายยืนยันตัวตน หากไม่มีเครื่องหมายให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นเพจปลอม ต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

4.โทรศัพท์ไปสอบถามที่พักก่อนโอนเงิน ว่าเพจที่พักถูกต้องหรือไม่ เลขบัญชีถูกต้องหรือไม่
5.เพจเฟซบุ๊กจริงจะมีส่วนร่วมในการโพสต์เนื้อหา รูปภาพ หรือกิจกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีการรีวิวที่พักจากผู้เข้าพักจริง
6.เพจปลอมจะมีผู้ติดตามน้อยกว่าเพจจริง และมักจะเพิ่งสร้างขึ้นได้ไม่นาน
7.ระมัดระวังการประกาศโฆษณาที่พักราคาถูก หรือที่พักที่อ้างว่าหลุดจอง
8.ตรวจสอบความโปร่งใสของเพจ ว่ามีการเปลี่ยนชื่อเพจมาก่อนหรือไม่ ผู้จัดการเพจอยู่ในประเทศใด
9.หลีกเลี่ยงการโอนเงินไปยังบัญชีบุคคลธรรมดา บัญชีที่รับโอนควรเป็นบัญชีชื่อที่พัก หรือบัญชีชื่อบริษัท และต้องตรวจสอบหมายเลขบัญชีทุกครั้งว่ามีประวัติการหลอกลวงหรือไม่ ผ่านเว็บไซต์ Google, blacklistseller.com หรือ chaladohn.com เป็นต้น
ข่าวสารตำรวจ

วิทยากรฝึกอบรม
พ.ต.อ.รัตนสุข คำวงศ์ ผกก.สภ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น มอบหมายให้ ร.ต.อ.ประเวก พรมรอด รอง สวป.สภ.ชุมแพ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ปฏิบัติหน้าที่เป็นวิทยากร ให้ความรู้ด้าน พ.ร.บ.จราจร พ.ศ. 2522 เรื่องการขับขี่ปลอดภัย มารยาทในการขับขี่ สัญญาณจราจร เช่นสัญญาณมือ/นกหวีด พร้อมการฝึกภาคปฏิบัติ แก่พนักงานเทศบาล ลูกจ้างประจำงานป้องกันบรรเทาสาธารณภัย จำนวน 28 คน ตามโครงการฝึกอบรมพัฒนาประสิทธิภาพเจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองชุมแพ ณ ลานอเนกประสงค์เทศบาลเมืองชุมแพ จ.ขอนแก่น
เราไม่ทิ้งกัน
พล.ต.ต.ดร.ลาภ ศรีสำอางค์ ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย ดร.สุชญา ศรีสำอางค์ ประธานแม่บ้านตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ นำคณะแม่บ้านตำรวจในสังกัด ตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพล ความเป็นอยู่ของข้าราชการตำรวจในสังกัด เพื่อช่วยเหลือครอบครัวตำรวจ ตามโครงการ “ครอบครัวตำรวจ เราไม่ทิ้งกัน” โดยสบทบทุนบริจาคเงิน ครอบครัวละ 10,000 บาท ร่วมกับผู้ใจบุญที่ร่วมบริจาคเงินอีกจำนวนหนึ่ง เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่เด็กพิเศษที่เป็นบุตรของข้าราชการตำรวจ ในสังกัด ภ.จว.ศรีสะเกษ จำนวน 7 ราย รวมเป็นเงิน 70,000 บาท เพื่อแบ่งเบาภารค่าใช้จ่ายในครัวเรือนและเพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่กำลังพล ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ในการปฏิบัติหน้าที่ดูแลทุกข์สุขของพี่น้องประชาชน.
ทำงานเชิงรุก
ภายหลังเย้ายมาดำรงตำแหน่งที่นี่ไม่นาน พ.ต.อ.เกียรติภูมิ สุวรรณไตรย์ ผกก.สภ.เมืองหนองบัวลำภู นายตำรวจคนหนุ่มไฟแรงอีกคน เริ่มขยับปรับเปลี่ยนความมีระเบียบวินัยของข้าราชการตำรวจทุกสายงาน ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อพัฒนาองค์กรเป็นตำรวจมืออาชีพ ตำรวจทุกสายงานต้องทำงานเชิงรุก เพื่อความสงบสุขของปวงชน โดยเฉพาะการให้บริการประชาชน ของ สภ.เมืองหนองบัวลำภู เพื่อให้ประชาชนเกิดความพึงพอใจกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งการบริการเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว ล่าสุดประชุมร่วมกับ กต.ตร.สภ.เมืองหนองบัวลำภู ที่มี ธีรยุทธิ์ เชาวน์จิรกิตติ์ ประธาน กต.ตร.สภ.เมืองหนองบัวลำภู ด้วยการนำเสนอผลการติดตามคดีสำคัญๆ ทั้งคดีอาญาและคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ คดียาเสพติดในพื้นที่ การขับเคลื่อนชุมชนยั่งยืน รวมถึงการปรับภูมิทัศน์ พัฒนาอาคารสถานีเพื่อบริการประชาชนแบบประทับใจเมื่อก้าวขั้นบันได ไม่เว้นห้องควบคุมผู้ต้องหาไม่น่ารังเกียจ เล่นเอาประธาน กต.ตร.และคณะกรรมการ กต.ตร.สภ.เมืองหนองบัวลำภู ถึงกับทึ่งในผลงาน มิน่าละ พล.ต.ต.พงพิพัฒน์ ศิริพรวิวัฒน์ ผบก.ภ.จว.หนองบัวลำภู ถึงได้ยืนอยู่ในระดับแนวหน้า
ฝึกยุทธวิธีตำรวจพื้นฐาน
ที่ห้องประชุมชั้น 3 ภ.จว.บึงกาฬ พล.ต.ต.ตรีวิทย์ ศรีประภา ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ ประธาน พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชัยยุทธ ธรรมสุนา รอง ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ ร่วมพิธีมอบใบประกาศนียบัตรโครงการฝึกอบรมยุทธวิธีตำรวจพื้นฐานสำหรับครูฝึกยุทธวิธีประจำสถานี (ครู ข.) (Basic Police Tactic For Instructor Course) ของ ภ.จว.บึงกาฬ พ.ศ.2566
*******************************
คอลัมน์ : สน.รอตรวจ
โดย : บิ๊กสลีป