จากอาชีพรับราชการที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมายาวนานกว่า 10 ปี ร.ต.อ.ปาล เมืองกลาง หรือ ผู้กองปาล อายุ 45 ปี ปัจจุบันเป็นพนักงานสอบสวน สภ.หนองจอก อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ เกิดไอเดียทำร้านก๋วยเตี๋ยวและอาหารตามสั่ง เพื่อหารายได้จุนเจือและแบ่งเบาภาระครอบครัว รวมทั้งยังช่วยให้ประชาชนไม่ต้องเดินทางไกล ไปหาซื้ออาหารรับประทานไกลเกินไป เวลามาติดต่อราชการ

โดย ร.ต.อ.ปาล ได้ใช้เอกลักษณ์ส่วนตัวและนอกเวลาราชการเปิดร้าน เหม่งก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา โคตรกะเพรา อาหารตามสั่ง เพื่อบริการประชาชน ซึ่งแม่ครัวก็จะเป็นคนในครอบครัวช่วยกันทำ เมื่อมีเวลาว่างหลังจากออกเวร ร.ต.อ.ปาล ก็จะมาดูแลร้านและลงมือทำด้วยตัวเอง

ผู้กองปาล กล่าวว่า ตนเองมารับตำแหน่งเป็นพนักงานสอบสวนที่ สภ.หนองจอก ในช่วงเดือน เม.ย. 66 หลังจากที่ย้ายมาที่ สภ. แห่งนี้ ก็มีประชากรไม่มากเท่าไหร่ มีเพียง 3 ตำบล คือ ต.คาละแมะ ต.ตรึม และ ต.หนองบัว และงานราชการก็ไม่ค่อยจะมีประชาชนมาติดต่องานมากเท่าไหร่ จะมีแต่เพียงเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เมาสุราทะเลาะกันส่วนใหญ่ ส่วนปัญหายาเสพติดและคดีอื่นๆ ไม่ค่อยจะมี

ตนเองคิดว่าหลังจากที่เสร็จภารกิจในการทำงานแล้ว ก็ไม่มีอะไรมาก จึงได้ปรึกษากับภรรยาว่า สถานที่ราชการก็เหมาะสมกับเส้นทางผ่านสัญจรไปมา จาก อ.ศีขรภูมิ ไปยังเส้นทาง อ.สนม และ อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ ประชาชนส่วนใหญ่ในพื้นที่ก็อยู่ห่างไกลจากตัวเมือง

จึงคิดว่าถ้าหากว่าเราลงทุนขายก๋วยเตี๋ยวหรืออาหารตามสั่ง ทำร้านริมถนนตรงข้าม สภ. ในราคาที่ถูกและไม่แพง ที่จะพอบรรเทาค่าใช้จ่ายให้กับตนเองและชาวบ้านที่สัญจรไปมาได้ ก็คงจะพอมีรายได้บ้าง และประหยัดในการเดินทางของชาวบ้าน ที่จะต้องไปหากินไกลถึงตลาดในอำเภอ ซึ่งอยู่ห่างประมาณ 20 กิโลเมตร

จากนั้นได้หันมาลงมือทำโดยการซื้อเส้นก๋วยเตี๋ยว เนื้อสัตว์ต่างๆ จากที่ได้เดินทางเข้าตลาด นำมาจำหน่ายให้กับพี่น้องประชาชนที่มาติดต่อราชการและพี่น้องประชาชนที่สัญจรไปมาในระยะไกลจากตลาดคงจะดี หลังจากที่เปิดได้ประมาณ 10 วัน ก็มีบรรดาพี่น้องประชาชนบ้านใกล้เรือนเคียง ได้เดินทางมาอุดหนุนได้วันละ 20 ถึง 30 ชาม ก็พออยู่ได้ ไม่ถึงกับขายดี เพราะพี่น้องประชาชนอยู่ในสถานะแบบนี้ จะเอาเงินที่ไหนมาซื้อกิน ลำพังค่าน้ำค่าไฟก็จะตายอยู่แล้ว

“เราก็จะขายในราคาแบบบ้านๆ นอกจากจะขายก๋วยเตี๋ยวแล้ว ยังมีอาหารตามสั่ง ผัดกะเพราจานละ 30 บาท ถึง 40 บาท ถือว่าเป็นราคาที่ถูก ในยุคข้าวยากหมากแพง หลังจากที่เสร็จภารกิจจากงานแล้ว ออกมาทำมาค้าขายก็มีความสุข และพี่น้องประชาชนที่ออกมาจับจ่ายหรือมาอุดหนุนต่างก็ดีใจ”

นายตำรวจสู้ชีวิตคนนี้ ยังกล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ตนสังกัดกองบังคับการตำรวจนครบาล 7 เป็นทั้งพนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน, สน.บางพลัด, สน.บางยี่ขัน, สน.ธรรมศาลา และ สน.ศาลาแดง ก่อนจะย้ายมาเป็นพนักงานสอบสวนที่ สภ.ศีขรภูมิ เมื่อปีที่แล้ว หลังได้ย้ายกลับมาบ้านเกิด วันนี้นอกจากจะทุ่มเทให้กับงานแล้ว หลังออกเวรก็หารายได้เสริมเพื่อลดภาระรายจ่ายของครอบครัว และช่วยเหลือประชาชนลดค่าครองชีพ เพื่อให้สะดวกในการหาอาหารรับประทานช่วงที่หิวเวลามาติดต่อราชการ หรือคนในพื้นที่ไม่ต้องเดินทางไกล

“วันนี้ตนก็ภูมิใจกับการเป็นตำรวจ ที่ได้ช่วยเหลือทุกข์สุขของประชาชน และยึดหลักผดุงความยุติธรรม ยืนด้วยลำแข้งตัวเอง ซึ่งหากคนเรารู้จักพอเพียง ก็จะหาความสุขในชีวิตได้ไม่ยาก” ผู้กองปาล กล่าว

คอลัมน์ : นิยายชีวิต โดย : อสงไขย
เรื่องและภาพโดย : คำกอง กันนุฬา จ.สุรินทร์
[[คลิก]] อ่านเรื่องราว “นิยายชีวิต” ได้ที่นี่..