“Long Live Love! ลอง ลีฟ เลิฟว์” ภาพยนตร์ไทยที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก จากรายชื่อพระนาง “ชมพู่ อารายา เอฮาร์เก็ต” ที่มาประชันบทบาทกับ “ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์” แถมยังได้ “เบคกี้–รีเบคก้า แพทรีเซีย อาร์มสตรอง” สาวน้อยที่กำลังมาแรงที่สุดคนหนึ่งของวงการบันเทิงไทยในตอนนี้ ซึ่งโด่งดังระดับโลกกับคู่จิ้นของเธอ “ฟรีน-สโรชา” พร้อมด้วยนักแสดงสมทบมากฝีมืออย่าง “ปีเตอร์-นพชัย”, “ป๋อมแป๋ม-นิติ”, “นนท์-ศดานนท์” และ “พี่ตู้-ดิเรก” ที่มาสร้างสีสัน

นี่คือผลงานการกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกของ “มุก–ปิยะกานต์ บุตรประเสริฐ” ผู้กำกับสาวเปรี้ยวอารมณ์ดี จากซีรีส์สุดฮาในตำนาน “เนื้อคู่ประตูถัดไป” และ “เนื้อคู่อยากรู้ว่าใคร” ที่มาถ่ายทอดเรื่องราวของครอบครัว ๆ หนึ่งที่กำลังร้าวหนักหน่วงอยู่ และใกล้จะแตกสลายเต็มแก่

“เมตตา (ชมพู่ อารยา) แฟนสาวผู้กำลังหมดเมตตา เตรียมบอกลา สติ (ซันนี่) แฟนหนุ่มไร้สติ เพราะดันความจำเสื่อม และ “นะโม (เบคกี้) ลูกสาวที่แทบจะท่องนะโมให้ตัวเองวันละ 3 จบ เพราะต้องพบกับความวุ่นวายของพ่อแม่ตลอดมา นี่คือหนังรักที่ชวนทุกคนร่วมย้อนความทรงจำความรักผ่านรูปถ่าย เพื่อกลับไปพบกับจุดเริ่มต้นของความรัก หรือ เลิกรัก”

ก่อนชม “หมีเช” ไม่ได้คาดหวังอะไรมากมายกับภาพยนตร์ไทย ด้วยหน้าหนัง และเหล่านักแสดง รวมทั้งผู้กำกับ คิดว่าคงมาแนวหนังอารมณ์ดีฟีลกู๊ด GDH ขำ ๆ สบาย ๆ แทรกข้อคิด ไม่แย่แน่นอน แต่จะดีแค่ไหนต้องรอลุ้นกัน

แต่หลังชมจบ ต้องยอมรับเลยว่า “Long Live Love! ลอง ลีฟ เลิฟว์” มีความสดใหม่ ร่วมสมัย และครบเครื่องจนน่าเหลือเชื่อ เป็นหนังที่กลมกล่อมและทรงพลังเป็นอย่างมาก สำหรับ “หมีเช” รู้สึกภาคภูมิใจ และหนังไทยเรื่องนี้ก็ไม่แพ้ชาติใดในโลก ขอใช้คำว่า “The Best อยู่นะ” ขอปรบมือให้กับทีมงานและผู้กำกับ “มุก–ปิยะกานต์” รวมทั้งนักแสดงทุกคน

จุดแข็งของ Long Live Love!

พล็อตเรื่องที่สดใหม่ แปลกใหม่ อาจจะไม่ได้สดยกกล่อง เพราะมันก็มีหนังทำนองคล้าย ๆ แบบนี้อยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้เอาอยู่เหมือนเรื่องนี้ เพราะพล็อตแบบนี้ ถ้าลำดับเรื่อง เล่าเรื่องไม่ดี พังมานักต่อนักแล้ว แต่คุณมุกเอาอยู่ เล่าเรื่อง ลำดับเรื่องราวได้ The Best

ทีมนักแสดงเกือบทุกคน แสดงดีมาก ไม่ว่านักแสดงหลัก สมทบ หรือแม้แต่ตัวประกอบ โดยเฉพาะ ชมพู่ กับ ซันนี่ จะบอกว่าเป็นผลงานระดับ The Best ของทั้งคู่ ณ ปัจจุบัน ก็ไม่ได้เกินเลยแต่อย่างใด เช่นเดียวกับ ป๋อมแป๋ม ที่อาจออกตัวว่า คนอื่นเล่นดีหมด มีแค่ตัวเองที่เล่นไม่ดี ก็ขอเถียง เพราะป๋อมแป๋มคือส่วนสำคัญมาก ๆ ของภาพยนตร์เรื่องนี้ ดีระดับจะให้รางวัลนักแสดงสมทบยอดเยี่ยมสักเวทีหนึ่งก็ไม่ได้น่าเกลียดอะไร เช่นเดียวกับ เบคกี้ แม้จะเป็นหนังเรื่องแรกของน้อง แต่น้องแสดงดีมาก ถือเป็นความสดใส เป็นสีชมพูในความมืดหม่นที่แตกสลาย ก็ไม่ได้ผิดเพี้ยนแต่อย่างใด ปีเตอร์ ก็ถ่ายทอดความเป็นตัวละครของเขาออกมาได้ดีมากเช่นกัน แม้แต่ โบกี้ไลอ้อน ที่ออกมาไม่กี่ฉาย ยังเล่นได้ดี ถือว่าสอบผ่าน

เทคนิคการถ่ายทำต่าง ๆ ก็ทำออกมาได้เนียนตา ถ้าไม่จับผิด ก็ไม่มีอะไรให้บ่น

การนำเสนอเรื่องราวความรักตั้งแต่แรกเริ่มจนแตกสลาย สวยงาม เจ็บปวด ขมขื่น และมันสอนอะไรเราหลาย ๆ อย่าง ใครที่มีความรักดี ๆ อยู่ตอนนี้ ก็พยายามรักษามันเอาไว้ อะไรเสีย อะไรร้าว ก็รีบซ่อมแซมมัน อย่าปล่อยให้มันพังเสียหาย แตกร้าว จนยากจะซ่อมได้

จุดอ่อนของ Long Live Love!

เอาตรง ๆ ในสายตาของสื่อธรรมดา ๆ ไม่ได้มีความรู้ในการทำหนังอะไร ถ้าไม่ได้จับผิดแบบจริงจัง ก็หาไม่เจอนะ สำหรับการชมไปหนึ่งรอบ เพราะข้อดีมันกลบจนเรามองข้ามข้อด้อยต่าง ๆ ไปหมดเลย

5/5
เกินคาด!! สำหรับความรู้สึกส่วนตัว นี่คือภาพยนตร์ไทยที่อนาคตน่าจะถูกเอาไปขึ้นหิ้งได้ไม่ยาก ครบเครื่องต้มยำ มีครบทุกรสชาติ ตลก ซึ้ง เศร้า น้ำตาแตก ดราม่า สะเทือนอารมณ์ กระชากอารมณ์ ฟีลกู๊ด มีครบจบในเรื่องเดียว ถือเป็นอีกหนึ่งความบันเทิงชั้นดี และง่าย ๆ เลย แนะนำว่า “ต้องดู”

หมีเช