“ความเหนื่อยมาเพื่อเตือนให้เรารู้ความรู้สึกในความเปลี่ยนแปลง…รับรู้ถึงความเป็นมนุษย์และความอ่อนแอของเรา แล้วพยุงมันให้ก้าวไปข้างหน้า”

เรื่องอุทาหรณ์เตือนสติเตือนใจเรื่องนี้ มันมาแดงตั้งแต่เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา เมื่อนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พา น.ส.กัญญ์วราพัชร สกุลศิลปกร อายุ 28 ปี เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.)

เพื่อขอให้ช่วยติดตามจับกุมตัว “ใบเฟิร์น” เน็ตไอดอลสาวชื่อดัง อ้างว่าได้หลอกให้นำเงินเข้าร่วมลงทุนเปิดร้านทำเล็บและแชร์ออมเงิน จนมีผู้ตกเป็นเหยื่อหลงเชื่อกว่า 40 คน สูญเงินเงินรวมกว่า 10 ล้านบาท

ผู้เสียหายบอกเล่าว่า ที่ผ่านมาเห็น “ใบเฟิร์น” โพสต์ข้อความตามสื่อสังคมออนไลน์ ชักชวนให้ร่วมลงทุนธุรกิจร้านทำเล็บ อ้างผลตอบแทนสูงร้อยละ 4 ของเงินลงทุน ประกอบกับเห็นเจ้าตัวเป็นเน็ตไอดอลชื่อดังเคยออกรายการร้องเพลง โพสต์รูปคู่ดาราและรถหรู ดูน่าเชื่อถือ จึงหลงเชื่อร่วมลงทุน 2 แสนบาท

แต่สุดท้ายก็ไม่ได้รับเงินปันผลตามที่ตกลงกันไว้ เมื่อทวงถามก็ถูกบ่ายเบี่ยง อ้างติดปัญหาต่างๆ ก่อนจะตัดขาดการติดต่อไปในที่สุด ต่อมาหลังรู้ว่าธุรกิจดังกล่าวไม่มีอยู่จริง จึงเข้าแจ้งความตำรวจไว้ที่ จ.เชียงใหม่ จนมีการออกหมายจับ

มีผู้หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อถูกหลอกลักษณะเดียวกันกว่า 40 ราย สูญเงินรวมกว่า 10 ล้านบาท ปัจจุบันเจ้าตัวยังคงใช้ชีวิตหรูหรา บินไปกลับเชียงใหม่-กรุงเทพฯ เหมือนคนทั่วไป ไม่เกรงกลัวกฎหมายว่าได้หลอกลวงอะไรใครไปบ้าง

หญิงสาวอีกราย บอกว่า ได้รับการชักชวนจาก “ใบเฟิร์น” ให้นำเงินมาร่วมเล่นแชร์ออมเงินระยะสั้น 20 วัน ให้ผลตอบแทนสูงร้อยละ 8 ของเงินลงทุน เห็นว่าเป็นเน็ตไอดอลดัง ประกอบกับมีการกล่าวอ้างถึงธุรกิจร้านทำเล็บ ทำผม ดูน่าเชื่อถือ จึงหลงเชื่อร่วมลงทุนไป 8 หมื่นบาท

แต่พอถึงกำหนดกลับไม่ได้รับเงินตามที่ตกลงกันไว้ เมื่อทวงถามก็ถูกบ่ายเบี่ยง ก่อนจะตัดขาดการติดต่อหนีหายไปในที่สุด ทั้งๆ ที่เจ้าตัวก็ทราบดีอยู่แล้วว่า เหยื่อรายนี้กำลังตั้งครรภ์ต้องใช้เงินอย่างมาก

ซึ่งพฤติกรรมของ น.ส.ใบเฟิร์น จะเห็นว่าใช้ความเป็นเน็ตไอดอล มีชื่อเสียง สร้างโปรไฟล์ให้ดูน่าเชื่อถือ ชักชวนผู้คนให้นำเงินมาร่วมลงทุน ทั้งธุรกิจร้านทำเล็บ หรือ ออมเงิน อ้างผลตอบแทนสูงเป็นแรงจูงใจ ให้คนอยากร่วมลงทุน ถือเป็นภัยต่อสังคม

กระทั่ง ตำรวจ สส.บช.น. สามารถบุกจับกุม น.ส.มณฑิรา อินทร์สุวรรณ หรือ “ใบเฟิร์น” อายุ 31 ปี ได้ที่ห้างย่านจตุจักร ในข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ” ตามหมายจับ 2 หมาย

สรุปพฤติการณ์คือ หลอกลวงให้ผู้เสียหายลงทุน “ร้านตัดผมและร้านทำเล็บ” โดยเริ่มโพสต์เชิญชวนในโซเชียลมีเดีย เสนอเป็นแพ็กเกจต่างๆ รวมถึงยอดปันผลขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่ลงทุน และเมื่อถึงกำหนดก็จะได้เงินผล โดยมีผู้ติดตามในไอจีกว่า 120,000 คน และโพสต์ภาพคู่กับรถหรูและดาราผู้มีชื่อเสียงหลายคน

เมื่อเหยื่อหลงเชื่อและตัดสินใจโอนเงินไปร่วมลงทุนแล้ว ผู้ต้องหาก็ไม่ค่อยตอบข้อความ อ้างว่างานเยอะ ติดงานต่างๆ และเมื่อถึงกำหนดจ่ายเงินปันผลก็จะบ่ายเบี่ยงไม่จ่ายเงิน จนถึงช่วงปลายเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา ก็อ้างกับเหยื่อว่า บริษัทถูกยักยอกเงิน ทำให้ไม่มีเงินมาคืนให้กับเหยื่อผู้ร่วมลงทุน และหลบหนีหายไป

เมื่อสอบสวน “ใบเฟิร์น” อ้างว่า เปิดร้านทำผมและทำเล็บอยู่ จ.เชียงใหม่ ชื่อร้านกู๊ดคัท และเห็นว่ามีรายได้ดี จึงเชิญชวนมาร่วมลงทุนร่วมกัน โดยร่วมลงทุนรายละ 50,000-1,000,000 บาท และเปิดรับลงทุนร่วมรับจำนำของและนำไปขายเพื่อนำเงินมาแบ่งกัน แต่ช่วงหลังกำไรน้อยมาก รวมถึงซื้อสินค้ามาขายไม่ค่อยได้ ทำให้ไม่ได้จ่ายดอกเบี้ยให้กับผู้ร่วมลงทุน

ส่วนเรื่องร้านทำผม ก็ไม่สามารถหาช่างทำผมได้ และลูกค้าน้อย ทำให้ไม่มีเงินจ่ายให้กับผู้ร่วมลงทุน ตอนนี้พยายามหาสินค้าแบบซื้อมาขายไป มาขาย เพื่อหวังว่าถ้ามีเงินก็จะนำไปทยอยคืนให้

นี่เป็นอีกหนึ่งคดีตัวอย่างที่ผู้ต้องหาใช้ความเป็นคนมีชื่อเสียงในโซเชียล สร้างโปรไฟล์ถ่ายรูปกับคนดังๆ รถหรูๆ ให้ดูน่าเชื่อถือจนสุดท้ายก็มีคนหลงเชื่อจริงๆ อยากย้ำเตือนว่า การร่วมลงทุนในโลกออนไลน์นั้นมีความเสี่ยง เหล่ามิจฉาชีพจะแฝงตัวอยู่ในโลกออนไลน์มากมาย

แค่ตรวจสอบความน่าเชื่อถือจากโปรไฟล์มันยังไม่เพียงพอ จะต้องศึกษาหรือปรึกษาผู้มีความรู้ทางด้านการลงทุนให้ดีก่อน เพื่อไม่ตกเป็นเหยื่อ สมัยก่อนคงเคยได้ยินว่าการลงทุนมีความเสี่ยง พอมาสมัยนี้ นอกจากการลงทุนจะมีความเสี่ยงแล้ว การเชื่อถือคนที่เราแค่เห็นในโซเชียล มันยิ่งเสี่ยงคูณสอง..เลยนะ.

ข่าวสารตำรวจ

ส่งมอบหน้าที่
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รรท.รอง ผบช.ก. ส่งมอบหน้าที่ให้กับ พ.ต.อ.คงกฤช เลิศสิทธิกุล รรท.ผบก.ทล.คนใหม่ พร้อม รอง ผบก.ทล. ผกก.1-8 บก.ทล. สว.ส.ทล. และข้าราชการตำรวจทางหลวง ร่วมพิธีส่งมอบหน้าที่ ณ ลานพิธีกองบังคับการตำรวจทางหลวง ส่งมอบแฟ้มเอกสารและธงประจำ บก.ทล. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ได้กล่าวขอบคุณตำรวจทางหลวงทุกนายที่ได้ร่วมปฏิบัติหน้าที่ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ตำรวจทางหลวงมีศักยภาพ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี และมีผลงานเป็นที่ยอมรับของประชาชน พ.ต.อ.คงกฤช เลิศสิทธิกุล รรท.ผู้การทางหลวงคนใหม่ ได้กล่าวย้ำกับตำรวจทางหลวง พร้อมที่จะทำหน้าที่ สานต่อความสำเร็จในทุกภารกิจ ทุกหน้าที่ เพื่อเดินหน้าขับเคลื่อนตำรวจทางหลวงให้เป็นที่รัก เป็นที่ยอมรับ เชื่อมั่นและศรัทธาจากพี่น้องประชาชน ส่วนตำรวจทางหลวงภาคอีสานตอนบน นำโดย พ.ต.อ.จรุงศักดิ์ จำรูญ ผกก.4 บก.ทล.ขอนแก่น พ.ต.ท.ศิวกริช ศิษย์บุญรัตน์ รอง ผกก. พร้อม สว. 5 เสือภถชาคอีสาน เดินทางไปร่วมตอนรับ ผบก.ทล. ครั้งนี้ด้วย

ปล่อยแถว
พ.ต.อ.รัตนสุข คำวงศ์ ผกก.สภ.ชุมแพ จว.ขอนแก่น ปล่อยแถวกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ จราจร และชุดอัศวิน เข้ารักษาความสงบเรียบร้อย ภายในงานมหกรรมแสดงสินค้าครั้งที่ 14 ภายในงานมีการแสดงและจำหน่ายสินคำ OTOP ผลิตภัณฑ์ชุมชน ตลาดประชารัฐคนไทย พร้อมการแสดงดนตรีจากศิลปินดัง ฟรี ทุกคืน ณ ที่ว่าการอำเภอชุมแพ

มอบประกาศนียบัตร
จ.อ.อภิชาติ แก้วโกศล สส.จังหวัดเพชรบุรี เขต 3 ในฐานะรองประธานกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมาธิการการตำรวจฯ เป็นตัวแทน มอบประกาศนียบัตรให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี ที่ปฏิบัติหน้าที่ในการจับกุมยาเสพติด (ยาบ้า) จำนวน 1,200,000 เม็ด เพื่อเป็นการยกย่องคุณงามความดีในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป โดยนายตำรวจแต่ละสถานีที่เข้ารับประกาศนียบัตรในครั้งนี้ ประกอบด้วย พ.ต.อ.กิตติ สุขสมภักดิ์ รอง ผบก.สสท. รรท.ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี พ.ต.อ.ครรชิต โขวัฒนชัย ผกก.สส.ภ.จว.เพชรบุรี พ.ต.อ.วันชัย ขาวรัมย์ ผกก.สภ.เมืองเพชรบุรี และ พ.ต.อ.โชคชัย เนียลเซ็นต์ ผกก.สภ.ท่ายาง ณ ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี

หัวโทนโมเดล
สุดยอดไอเดียเจ๋ง!! และจิตอาสา วันก่อน พ.ต.อ.กฤษณ์ มาสุข ผกก.สภ.โนนสัง ร่วมกับทีม 5 เสือประจำตำบลกุดดู่ ลงพื้นที่บ้านกุดดู่เหนือ ต.กุดดู่ อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู เพื่อตรวจเยี่ยมผู้ป่วยจิตเวช ตามโครงการหัวโทนโมเดล จากนั้นมอบเครื่องอุปโภค/บริโภค ให้เป็นขวัญและกำลังใจกับผู้ป่วยในพื้นที่ ซึ่งโครงการหัวโทนโมเดล เป็นการนำผู้ป่วยที่มีอาการทางจิตจากการเสพยาเสพติด เข้ามาสู่กระบวนการบำบัดรักษาในรูปแบบชุมชนบำบัด ซึ่งมีภาคีเครือข่าย ตำรวจ หมอ อบต. ญาติผู้ป่วย กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. ร่วมกันทำงาน โดยกลไกสำคัญคือ ญาติผู้ป่วยที่จะเป็นผู้คอยดูแลให้ยาและให้ข้อมูลสำคัญในการรักษากับหมอ เพราะมีความใกล้ชิดกับผู้ป่วยมากที่สุด และผลจากการดำเนินการ สามารถทำให้จำนวนของผู้ป่วยหมดไปภายในระยะเวลา 3 เดือน จนเป็นที่ยอมรับในระดับประเทศ….ขอปรบมือให้กับทีมงานที่มีจิตอาสาครับ

คล้ายวันเกิด
พ.ต.อ.ณรงค์ศักดิ์ วงศ์กาฬสินธุ์ ผกก.สภ.ปากพลี จ.นครนายก ธีรพงศ์ ศิริรักษ์ ส.อบจ.ชลบุรี เพิ่มสิน คณิตวานนท์ ประธานชมรมกีฬาตำบลคลองกิ่ว พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ประธานสภา สมาชิกสภา พนักงานเจ้าหน้าที่ อบต.คลองกิ่ว ร่วมมอบกระเช้าของขวัญให้กับ สมศักดิ์ สวัสดีมงคล นายก อบต.คลองกิ่ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ในโอกาสทำบุญวันคล้ายวันเกิด ที่วัดกุณฑีธาร (หัวกญแจ) เมื่อวันก่อน

*****************************************

คอลัมน์ : สน.รอตรวจ
โดย : บิ๊กสลีป