ประเทศเข้าสู่ยุคเทคโนโลยี กำลังก้าวล้ำไปถึงไหนแล้ว ไม่น่าเชื่อ ’อนาคตของชาติ“ บางกลุ่ม ยังลุ่มหลงค่านิยมผิดเพี้ยน ถูกปลูกฝังถ่ายทอดกันมา แทนที่จะให้มุ่งมั่น ตั้งใจเรียน นำความรู้วิชาชีพ ไม่ว่าจะเป็นด้านก่อสร้างหรือช่างกล จบปริญญามาจะได้ไปทำงานหาเลี้ยงชีวิตครอบครัว อีกทั้งยังนำความรู้ความสามารถไปเป็นส่วนหนึ่งพัฒนาชาติบ้านเมือง
หลายคนแทนที่จะมีโอกาสได้เล่าเรียนเหมือนเพื่อนวัยเดียวกัน สุดท้ายต้องมาสูญเสียจบชีวิตก่อนวัยอันควร พลัดพรากจากพ่อแม่ครอบครัว หากไม่เสียชีวิต บาดเจ็บพิการ ถูกตำรวจจับกุมดำเนินคดีหมดอนาคตไปชดใช้กรรมอยู่ในคุกกับสิ่งที่ก่อขึ้น เพียงแค่ต่างสถาบัน ต่างสีเสื้อ ยังตามห้ำหั่น เข่นฆ่า ล้างแค้นกันแบบไม่จบสิ้น!!
นอกจากครอบครัวของผู้สูญเสียทั้ง 2 สถาบัน ต่างต้องมาเศร้าโศกเสียใจต่อลูกหลานที่มาจากไปแล้ว สังคมก็สลดหดหู่ไม่แพ้กัน ยิ่งเหตุการณ์สลดใจครั้งล่าสุดใจกลางกรุง ทำให้ ครูสาว โรงเรียนเอกชนต้องมาตกเป็นเหยื่อจบชีวิตแบบไม่คาดฝัน ขณะกำลังยืนกดเงินจากตู้เอทีเอ็ม ริมถนนสุนทรโกษา เขตคลองเตย จากคมกระสุนของ กลุ่มนักศึกษา 2 สถาบัน ไล่ล่ายิงกันไม่ยำเกรงกฎหมาย
วงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุ บันทึกภาพของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนกลางวันแสก ๆ เสี้ยววินาทีชีวิตตั้งแต่มือปืนขี่ จยย.ประกบเหยื่อแล้วจอด จยย.เดินไล่ตามกลุ่มนักศึกษาต่างสถาบัน ก่อนจะชักปืนสั้นกระหน่ำยิงทางด้านหลังแบบไม่สนใจว่าจะมีประชาชนยืนอยู่จำนวนมาก กระสุนจึงพลาดไปถูกครูสาว สิ้นใจแบบน่าสงสาร
แม้เหยื่อกระสุนจะล้มลงไปกองอยู่กับพื้นแล้ว คนขี่ จยย.ตะโกนเสียงดัง ’ยิงให้ตาย“ มือปืนจึงแสดงความเหี้ยมอำมหิตเลือดเย็นเกินวัย ตามไปจ่อยิงเหยื่อต่างสถาบัน แบบเผาขนอีกหลายนัด ก่อนจะวิ่งไปซ้อน จยย.หนีไปแบบรวดเร็ว
ปัญหาระหว่าง 2 สถาบัน แต่ครูสาวไม่เกี่ยวข้องต้องพลอยมารับเคราะห์ตามไปด้วย ยิ่งทำให้สังคมที่รับรู้ข่าวต่างเศร้าใจขึ้นอีก เมื่อทางโรงเรียนเปิดประวัติ อาลัยเหยื่อกระสุน ระบุเป็นเสาหลักของครอบครัว นอกจากมีภาระดูแลพ่อแม่ที่มีอายุมากอยู่ต่างจังหวัด ยังส่งเสียดูแลค่าเล่าเรียนให้หลาน ๆ ที่เป็นกำพร้าด้วย ทำให้โรงเรียนต้องเปิดรับบริจาคให้ร่วมทำบุญเพื่อนำเงินส่งมอบให้ครอบครัวครู
ส่วนนักศึกษาถูกจ่อยิง อาการสาหัสเป็นตายเท่ากัน มารดาเฝ้าลูกชายใน รพ. ด้วยความเศร้า กล่าวกับสื่อน้ำเสียงสั่นเครือว่า เป็นลูกคนโตขยันเรียนตั้งแต่เด็ก ๆ จนได้โควตาทุนเรียนดี เข้าเรียนชั้นปี 1 มหาวิทยาลัยแห่งนี้ เคยคุยกับแม่ไว้ ’ถ้าหากเรียนจบจะได้มีอนาคต มีเงินเยอะ ๆ แม่จะได้ไม่ต้องเหนื่อย“ วันเกิดเหตุขอไปสถาบัน ช่วยทำซุ้มรับปริญญาให้รุ่นพี่
จากใจหัวอกของผู้เป็นแม่ ฝากถามไปถึงผู้ก่อเหตุว่า ’ลูกชายไปทำอะไรให้ ทำไมไม่ต่างคนต่างเรียนเพื่ออนาคต“ ขณะที่พ่อแม่และครอบครัวครู ร่ำไห้ปานจะขาดใจ ระหว่างประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้าน จ.สุพรรณบุรี ส่วนนักศึกษามือปืนที่ก่อเหตุคงทำให้หัวอกผู้เป็นแม่บอบช้ำไม่แพ้กัน เมื่อลูกชายไปฆ่าคนตายก็ต้องถูกตำรวจตามจับเข้าคุกชดใช้กรรมที่ก่อไว้
นับเป็นปัญหาที่ไม่มีทางออกของทั้ง ’2 สถาบัน“ ถ้ายังปล่อยให้ยึดติดค่านิยมผิดเพี้ยน!! ในมุมกลับกันหากจริงใจช่วยกันปลูกฝัง ค่อย ๆ ปรับแนวคิด ดึงพลังวัยหนุ่มสาวให้ได้ไปลุยพิสูจน์ฝีมือ ตามแนวถนัดด้านก่อสร้างหรือช่างกลที่กำลังเรียน จัดส่งไปร่วมแข่งขัน ผลงานวิชาการกับนานาชาติเหมือนมหาวิทยาลัยอื่น ยังมีโอกาสได้ ’สร้างชื่อเสียง“ ให้ประเทศ
แต่หากคิดแบบเดิม ๆ คงได้ “สร้างชื่อเสีย” และความเจ็บทุกข์ระทมใจของมารดาผู้สูญเสีย ทุก ๆ ปี ไม่จบสิ้น!!
———————–
เชิงผา