ยกให้เป็นอีกซีรี่ส์รักโรแมนติกที่ตกหัวใจแฟน ๆ ได้อยู่หมัด สำหรับ “ดูนา ไอดอลสาวข้างบ้าน (Doona!)” ทาง “เน็ตฟลิกซ์ (Netflix)” ที่สร้างจากเว็บตูนดังในชื่อเดียวกัน ถ่ายทอดความสัมพันธ์ระหว่างอดีตเคป็อปไอดอลที่มีอดีต ลึกลับ กับนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมดาๆ  ที่ให้ความสำคัญกับอนาคตของตนเองมากกว่าจะเฝ้าฝันถึงไอดอล  ฝีมือผู้กำกับ  อีจองฮโย ที่เคยสร้างความประทับใจในซีรี่ส์ดัง “ปักหมุดรักฉุกเฉิน (Crash Landing On You)” มาแล้ว โดยครั้งนี้ ได้คว้าพระนางฝีมือดี อย่าง แบซูจี  ไอดอลตัวจริง อดีตสมาชิกวง “Miss A” ประกบคู่หนุ่มหล่อ ยังเซจง  ที่หวนรับงานแสดงซีรี่ส์ในรอบ 4 ปี ซึ่งต้องเลยว่าไม่ผิดหวัง ทั้งคู่โชว์เคมีได้ดีสุด ๆ ทำเอาแฟน ๆ พากันฟิน ทั้งที่ต้องมารับที่สวนทางกับอายุของตัวเอง เพราะในเรื่องพระเอกต้องหลงรักสาวรุ่นพี่ แต่ในความเป็นจริง เซจง อายุเยอะกว่า ซูจี นั่นเอง

สำหรับ “ดูนา ไอดอลสาวข้างบ้าน (Doona!)”  เล่าถึงช่วงชีวิตวัยรุ่นและก้าวแรกสู่การเป็นผู้ใหญ่ ซึ่งมักเต็มไปด้วยช่วงเวลาแห่งความประหม่า สับสน ทว่าก็อบอุ่นใจไปพร้อมกัน โดยมีฉากหลังเป็นบ้านเช่ารวมสำหรับนักศึกษาในย่านมหาวิทยาลัย  โดยจะพาผู้ชมไปสำรวจเรื่องราวความรักสุดงดงามที่เบ่งบานระหว่างคนหนุ่มสาวในช่วงวัย 20 บอกเล่าผ่านความสัมพันธ์ระหว่าง “วอนจุน” (เซจง) นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมดาๆ และ “ดูนา” (ซูจี) อดีตไอดอลเคป็อปที่มาพบกันในบ้านพักรวมสำหรับนักศึกษา ความรักของทั้งคู่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้น พร้อมกับการเผยปริศนาที่ “ดูนา” ซ่อนไว้เบื้องหลัง

ที่พิเศษสุด “ฮาอึน” มีโอกาสได้เข้าร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัวซีรีส์เรื่องนี้ พร้อมพูดคุยกับ ซูจี  และ เซจง   รวมทั้ง ผู้กำกับ อีจองฮโย ถึงความเป็นมากว่าจะเป็นซีรี่ส์ “Doona!” ลงลึกถึงตัวตน จิตใจ และการถ่ายทอดตัวละคร ที่ทั้งสองพระนางต้องทำการบ้านอย่างหนัก อีกทั้งไม่พลาดเปิดเหตุผลที่ทั้งคู่ตัดสินใจมารับซีรี่ส์เรื่องนี้ด้วย

Q: ซีรีส์ “ดูนา ไอดอลสาวข้างบ้าน (Doona!)” เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร?

ซูจี : ซีรีส์ ‘ดูนา ไอดอลสาวข้างบ้าน’ เป็นเรื่องราวความรักโรแมนติกเกี่ยวกับไอดอลสาว ผู้เคยประสบความสำเร็จที่เลือกหลีกหนีโลกที่เธอเคยอยู่ จนมาเจอกับ ‘วอนจุน’ นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมดาๆ คนหนึ่ง ในบ้านพักรวมสำหรับนักศึกษา เป็นเรื่องราวที่ถ่ายทอดถึงการช่วยรักษาบาดแผลในใจซึ่งกันและกัน พร้อมกับความสัมพันธ์ของทั้งสองคนที่ค่อยๆ พัฒนาขึ้นค่ะ

Q : อยากให้ช่วยอธิบายถึงการตีความซีรีส์เรื่องนี้ในฐานะผู้กำกับ และสิ่งที่ให้ความสนใจพิเศษในการทำงาน

ผู้กำกับ อีจองฮโย : สำหรับผม ‘ดูนา ไอดอลสาวข้างบ้าน’  เป็นเรื่องของคนสองคนที่อาศัยอยู่ในโลกที่แตกต่างกัน แต่ได้มาเจอกัน และค่อยๆ เรียนรู้โลกของอีกฝ่ายพร้อมทั้งปรับตัวเข้าหากัน ผมจึงเน้นการแสดงกระบวนการในการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน และบรรยากาศของวัยหนุ่มสาวในช่วงอายุ 20 ต้นๆ ที่แต่ละคนจะยังมีความใสซื่อบริสุทธิ์ ไร้เดียงสาต่อความรักและความรู้สึกระหว่างกันอยู่ด้วยครับ

Q : เหตุผลที่คุณตัดสินใจรับบทในซีรีส์เรื่องนี้?

ซูจี : หลังจากที่ได้รับบทมาพิจารณา ฉันก็ตามไปอ่านเว็บตูนต้นฉบับเลยค่ะ เพราะอยากเห็นภาพก่อนว่าในเว็บตูนถ่ายทอดออกมาอย่างไร ซึ่งตัวละคร ‘ดูนา’ เองก็มีเสน่ห์และให้ความรู้สึกที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้เนื้อเรื่องน่าสนใจมากๆ เลยค่ะ นอกจากนี้ยังมีบางส่วนที่ฉันรู้สึกสงสารตัวละครดูนา และมีบางส่วนที่ทำให้ฉันอยากจะรู้เรื่องที่เกิดขึ้นต่อๆ ไป ตอนที่กลับมาอ่านบท ก็เลยมีช่วงที่ฉันหลุดกรี๊ดหรือหวีดตามออกมาด้วยเลยค่ะ ดังนั้น ฉันจึงคิดว่าน่าจะสามารถถ่ายทอดตัวละครนี้ออกมาได้อย่างดี และเหมาะสมกับช่วงอายุของตัวเองในปัจจุบันด้วยค่ะ

ยางเซจง : ช่วงแรกที่อ่านบท ผมรู้สึกตื่นเต้น หัวใจเต้นแรงมากครับ และเพราะนี่คงเป็นโอกาสสุดท้ายที่ผมจะสามารถเล่นเป็นตัวละครที่มีอายุ 20 ต้นๆ อย่างวอนจุนได้ เมื่อคำนึงถึงอายุจริงตอนนี้ ผมก็เลยตกลงรับบทนี้ครับ

Q : ช่วยแนะนำตัวละคร “ดูนา” ให้ได้รู้จักหน่อย?

ซูจี : สำหรับ ‘ดูนา’ เป็นสมาชิกวงไอดอลชื่อดังที่มีชื่อว่า ‘Dream Sweet’ และเป็น Main Vocal  ของวงค่ะ แต่มีเหตุผลบางอย่างทำให้เธอตัดสินใจหนีจากโลกที่เธอเคยอยู่ มาเก็บตัวอยู่ที่บ้านเช่ารวมสำหรับนักศึกษา เธอเป็นคนที่เต็มไปด้วยความหวาดระแวงและบาดแผลในใจ ไม่สามารถรู้ได้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ แต่ถ้าได้ทำความรู้จักกันแล้วจะพบว่าจริงๆ เธอเป็นคนที่ชอบอยู่กับผู้คนและโหยหาความรัก เป็นคนที่เจอแล้วอยากจะเข้าไปโอบกอดเธอค่ะ

Q : คุณ “ซูจี” เคยบอกว่า “อีดูนา” เป็นตัวละครที่น่ารัก มีทั้งภาพลักษณ์น่ารักๆ  ของทั้งแมวและหมาอยู่ในตัวอยากทราบว่าคุณมีการเตรียมตัวอย่างไร เพื่อสื่อถึงความน่ารักทั้งสองแบบออกมาพร้อมๆ กัน?

ซูจี : ฉันมองว่าถึง ‘ดูนา’ จะเป็นคนที่ดูเข้าใจยากแต่ก็ยังอยากจะโอบกอดเธอไว้ค่ะ ฉันเคยคุยกับผู้กำกับว่าในช่วงแรกของเรื่องจะต้องมีหลายคนที่เข้าใจผิดในตัวเธอแน่ๆ และเมื่อได้ดูต่อไปแล้ว ถึงจะเริ่มเข้าใจเธอมากขึ้น ดังนั้นฉันจึงอยากถ่ายทอดตัวละครนี้ในมุมมองที่สร้างความสับสนหรือโอกาสในการเข้าใจผิดในตัวเธอให้ได้มากที่สุดในช่วงแรกของเรื่อง เพื่อสื่อถึงสถานการณ์ของเธอให้ได้ตรงที่สุด เธอจึงอาจจะดูแข็งกร้าว ไม่แคร์ความรู้สึกของคนอื่นไปบ้าง แต่นี่ก็เป็นอีกมุมของดูนาที่อยากให้ผู้ชมได้เห็นค่ะ

Q : มีหลายคนบอกว่า “คุณซูจี” เหมาะกับบทดูนามาก ราวกับเป็น “ดูนา” จริงๆ   รู้สึกอย่างไรบ้างกับการตอบรับเช่นนี้

ซูจี : ความจริงแล้ว ‘ดูนา’ ในเว็บตูนจะดูเป็นคนเย็นชาอยู่บ้าง ซึ่งฉันก็มีมุมนั้นเหมือนกัน แต่ว่าคนอาจจะยังไม่ค่อยได้เห็น โดยส่วนตัวแล้วจึงอยากจะถ่ายทอดด้านนี้ให้ได้ดีที่สุดผ่านตัวละครดูนาเช่นกันค่ะ ถ้าได้ดูแล้ว ผู้ชมก็คงคิดว่าฉันกับดูนาเหมือนกันมากๆ เลยค่ะ

Q : ทรงผมแบบฮิเมะคัต ที่เห็นกันในซีรีส์เรื่องนี้เหมาะกับ “คุณซูจี” มาก ทราบมาว่านี่ไม่ใช่ทรงผมจริงในต้นฉบับ แต่เป็นไอเดียจากคุณซูจีเอง นอกจากทรงผมแล้ว ยังมีการแสดงถึงตัวตนของ “ดูนา” ผ่านจุดใดอีกบ้าง?

ซูจี : ในต้นฉบับ ‘ดูนา’ มีผมด้านข้างเพียงเล็กน้อยและดัดผมเป็นลอนค่อนข้างเยอะค่ะ จริงๆแล้วผมทรงนั้นเป็นทรงที่ฉันทำบ่อยตอนมีถ่ายแบบหรือตอนแสดงในเรื่องอื่นๆ ฉันก็เลยต้องการภาพลักษณ์ที่ดูเป็นอีดูนาที่เป็นไอดอลมากกว่านี้ และเพราะอีดูนาเป็นคนที่มักจะทำอะไรที่คนคาดไม่ถึงและมีความมั่นใจในการกระทำของตัวเอง ฉันจึงคิดว่า ‘งั้นลองใส่สิ่งที่คิดว่าพิเศษกว่านี้เข้าไปอีกหน่อยดีมั้ย?’ ก็เลยกลายเป็นทรงผมนี้ค่ะ ซึ่งก็ดูเข้ากันดีเลยค่ะ

ผู้กำกับอีจองฮโย : ในเรื่องมีกล่าวถึงถุงเท้าแยกนิ้ว ถ้าได้ดูซีรีส์ทั้งหมดแล้วผู้ชมจะรู้ว่า ถุงเท้าแยกนิ้วมีความหมายอย่างไรต่อ ‘ดูนา’ และแสดงถึงทัศนคติของเธออย่างไร ดูนาบอกว่าเธอชอบสิ่งธรรมดาๆ แต่ในขณะเดียวกันเธอก็อยากเป็นคนพิเศษด้วย ดังนั้นจึงเหมือนมีความขัดแย้งภายในตัวเธอ ในแต่ละช่วงเวลา องค์ประกอบฉากเหล่านี้จะแสดงให้เห็นว่าเธอมีความรู้สึกแบบไหนและกำลังคิดอะไรอยู่ นอกจากนี้ เรายังนำเสนอฉากกลางแจ้ง ทางเดิน และบ้านที่อาศัยร่วมกันด้วย ผมต้องการสื่อความหมายที่หลากหลายผ่านการจัดองค์ประกอบฉากและอุปกรณ์ประกอบฉาก ผู้ชมอาจจะลองวิเคราะห์ความหมายของสิ่งต่างๆ ระหว่างการชมซีรีส์เรื่องนี้ไปด้วยก็ได้นะครับ

Q : ทราบมาว่าผู้กำกับเลือกสถานที่ถ่ายทำที่เป็นที่จดจำที่สุดคือฉากคอนเสิร์ต KCON ซึ่งเป็นฉากการแสดงของวง “Dream Sweet” ของ “อีดูนา” และฉากนี้ถ่ายทำบนเวที KCON 2022 ที่ญี่ปุ่นจริงๆ ด้วย?

ผู้กำกับอีจองฮโย : เนื่องจากเป็นภาพที่ผมไม่มีโอกาสเห็นมาก่อน จึงรู้สึกประทับใจมากครับ คุณซูจีและสมาชิก Dream Sweet ทั้ง 4 คนต้องฝึกซ้อมร้องเพลง อัดเสียง และยังต้องคิดท่าเต้นเองด้วย แล้วจึงไปถ่ายทำที่ญี่ปุ่น ตอนนั้นเราไม่ได้แสดงบนเวทีหลัก และมีโอกาสแสดงแค่สองครั้ง ผมจึงต้องเตรียมตัวค่อนข้างเยอะ พอได้เห็นการแสดงตั้งแต่ต้นจนจบ ผมรู้สึกตื้นตันใจมากครับ  เหมือนกับว่าผมมีส่วนทำให้พวกเขาเดบิวต์ขึ้นมาจริงๆ รู้สึกประทับใจมากเลยครับ

Q : ในการถ่ายทำฉากดังกล่าวนี้ คุณ “ซูจี” มีโอกาสแสดงบนเวที KCON กับเมมเบอร์คนอื่นในนามของวง “Dream Sweet” จากประสบการณ์จริงที่ผ่านมาคงทำให้มีความรู้สึกที่แตกต่างออกไป ไม่ทราบว่ามีการซ้อมท่าเต้นแยกหรือไม่?

ซูจี: ระหว่างถ่ายทำก็ซ้อมเต้นด้วยกันตลอดเลยค่ะ ฉันเองก็ไม่ได้ซ้อมร่วมกับคนอื่นๆ มานาน และสมาชิกของวงก็เป็นคนที่เพิ่งรู้จักกันใหม่ๆ ด้วย จึงรู้สึกว่าเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่ค่ะ ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยคุ้นเคยกันเท่าไรในช่วงแรก แต่พอเริ่มสนิทกันแล้ว ทุกอย่างก็ดูเข้าที่เข้าทาง ช่วงแรกยากเลยค่ะ แต่หลังๆ เราเข้ากันได้และแสดงได้ดีเหมือนเป็นวงเดียวกันจริงๆ รู้สึกพอใจกับผลลัพธ์ที่ออกมาค่ะ

Q : สำหรับผู้กำกับ หลังจากได้ร่วมงานกันแล้ว “คุณซูจี”ในกองถ่ายเป็นอย่างไรบ้าง?

ผู้กำกับอีจองฮโย : ด้วยเนื้อเรื่อง นักแสดงจึงต้องทั้งร้องเพลง ทั้งเต้น และต้องแสดงด้วย มีสิ่งที่ต้องทำเยอะมากเลยครับ หากเทียบกับโปรเจกต์อื่นๆ แล้ว เรื่องนี้น่าจะมีสิ่งที่ต้องทำมากกว่าเยอะ จึงเป็นธรรมดาที่จะรู้สึกเหนื่อย แต่คุณซูจีไม่เคยแสดงให้เห็นเลยครับว่าเหนื่อย คุณซูจีทำให้ผมเห็นว่าเธอเป็นนักแสดงที่มีความสามารถและสุดยอดมาก ในขั้นตอนการคัดเลือกนักแสดงสำหรับบทดูนา คนที่ผมนึกถึงขึ้นมาเลยก็คือคุณซูจี ตอนที่ติดต่อไป ผมจึงบอกตรงๆ ว่าอยากให้มาแสดงเรื่องนี้จริงๆ ซึ่งเธอก็ตอบตกลงมาทันที ผมดีใจมากเลยครับ และตอนที่เจอกันก็ยิ่งเป็นการยืนยันว่าผมตัดสินใจไม่ผิดจริงๆ ครับ

Q : อยากทราบถึงตัวละคร “วอนจุน”ที่รับบทโดยคุณ “ยางเซจง” บ้าง?

ยางเซจง : สำหรับ ‘วอนจุน’ เป็นเด็กปีหนึ่งธรรมดาๆ คนนึงครับ เขาอายุ 20 ต้นๆ และมีความรับผิดชอบของตัวเองอยู่ เขาได้เจอกับ ‘ดูนา’ ตอนที่ย้ายเข้าไปในบ้านเช่ารวมสำหรับนักศึกษา  เนื่องจากดูนาเป็นคนที่ทำให้เขาสับสนอยู่เสมอ เขาจึงพยายามไม่เข้าใกล้หรือสนิทด้วยในตอนแรก แต่ต่อมา ณ จุดๆ หนึ่ง เขาก็กลมกลืนเข้าไปในโลกของดูนา วอนจุนเองก็ไม่รู้ตัวเหมือนกันว่าอยากเป็นที่พึ่งให้กับดูนา เขาจึงได้สัมผัสความรู้สึกใหม่ๆ เมื่อได้ใกล้ชิดกับดูนาครับ

Q : ทันทีที่ได้ยินว่าคุณ “ยางเซจง” ปลดประจำการแล้ว “ผู้กำกับอีจองฮโย” ก็เสนอทันทีว่าต้องเป็นคุณ “ยางเซจง”ที่จะมารับบท “วอนจุน”?

ผู้กำกับ อีจองฮโย : ผมจำได้ว่าเคยเห็นคุณเซจงในซีรีส์จึงได้เสนอไปครับ จริงๆ แล้วตัว ‘วอนจุน’ ในเว็บตูนจะดูธรรมดาๆ แต่สิ่งที่เขามีคือความเป็นเด็กและความไร้เดียงสา ตอนที่ผมเจอคุณเซจงครั้งแรก ผมรู้สึกว่าเขาจะต้องเหมาะกับบทนี้แน่ๆ เลยเสนอให้ลองมาแคสติ้ง พอถ่ายทำจริงก็มีโอกาสได้คุยกันเยอะมาก วอนจุนเป็นคาแรกเตอร์ที่ต้องแสดงออกถึงอารมณ์ที่หลากหลาย จึงต้องควบคุมการสื่อถึงความรู้สึกเหล่านั้นให้ดี เลยยิ่งต้องมีการสื่อสารกันมากกับคุณเซจงครับ ระหว่างที่คุยกัน ผมก็คิดว่า ‘คนนี้นี่แหละคือวอนจุนจริงๆ’ ความรู้สึกหรือเรื่องราวที่เขาอธิบายให้ผมฟัง ฟังแล้วสัมผัสได้ถึงความไร้เดียงสา มันทำให้ผมรู้สึกดีมากๆ และคิดว่า ‘เลือกคนมาได้ดีจริงๆ’  เลยล่ะครับ

Q : คิดว่าตัวเองมีนิสัยเหมือนกับตัวละคร “วอนจุน” อย่างไรบ้าง?

ยางเซจง : ผมเป็นคนคิดมากเหมือน ‘วอนจุน’ ครับ ส่วนเรื่องความไร้เดียงสา วอนจุนดูใสซื่อกว่าผมนะครับ เทียบกันแล้วน่าจะประมาณนี้ครับ

Q: คุณ “ยางเซจง” คิดว่าจะต้องแสดงอย่างไร เพื่อให้สื่อความเป็น วอนจุนออกมา?

ยางเซจง : แทนที่จะบอกว่าจะต้องแสดงอย่างไร ผมคิดว่าผมโฟกัสกับตัว ‘ดูนา’ มากกว่าครับ เพราะหลักๆ แล้วนี่คือเรื่องที่ว่าด้วยความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนแปลงไประหว่างวอนจุนกับดูนา ผมจึงคิดว่าต้องโฟกัสไปที่ดูนา เพื่อจะสามารถสื่อถึงความรู้สึกของวอนจุนได้ตรงที่สุดครับ 

Q : ถ้าเหตุการณ์ในเรื่องเกิดขึ้นกับคุณ “เซจง” ในชีวิตจริง คุณจะทำยังไง?

ยางเซจง : ผมไม่คิดว่าผมจะกล้ามองเขานะ น่าจะรีบยอมแพ้ไปเลยครับ

Q : ซึ่งต่างจาก “วอนจุน”?

ยางเซจง : ใช่ครับ ผมจึงมองว่าวอนจุนมีความไร้เดียงสามากกว่าผมครับ นี่เป็นสิ่งที่เราแตกต่างกัน ตัวผมจะค่อนข้างเด็ดขาดมากกว่า ถ้าเป็นตัวผมจริงๆ ก็คงจบเรื่องให้เร็วที่สุด ไม่สนใจไปเลยครับ

DOONA! (L to R) Yang Se-jong as Lee Won-jun, Bae Suzy as Lee Doona in DOONA! Cr. Kim Seung-wan/Netflix © 2023

Q: ทุกคนบอกว่าในการถ่ายทำมีการสื่อสารพูดคุยกันเยอะมาก ส่วนใหญ่คุยกันเรื่องอะไรบ้าง และในกองถ่ายคุณ “เซจง” เป็นยังไง?

ผู้กำกับอีจองฮโย: ในเรื่องนี้จะมี ‘วอนจุน’ และตัวละครผู้หญิงที่เกี่ยวข้องกับเขาอยู่ 3 คน ดังนั้น วอนจุนจึงมีการเปลี่ยนแปลงอารมณ์มากที่สุด เพื่อไม่ให้สับสน เราจึงมีการพูดคุยกันตลอด และคอยเช็กการถ่ายทอดความรู้สึกของตัวละคร ผมมักจะคุยกับคุณเซจงเพื่อดูว่าเราเข้าใจตรงกันอยู่ ผมชอบช่วงที่เราคุยกันมากเลยครับ เพราะเขามักจะเตรียมตัวมาอย่างดีเสมอ และเมื่อผมถามอะไรไป เขาก็มักจะพูดในสิ่งที่ผมคิดว่าวอนจุนจะต้องทำแบบนี้แน่ๆ เลยอยู่ตลอดเลยครับ คุณเซจงเป็นคนขยัน ซื่อสัตย์ และตรงไปตรงมา เขามีความพยายามมากในการสื่อถึงตัวละครที่ได้รับบท ผมชอบการทำงานกับเขามากเลยครับ อยากให้เขาประสบความสำเร็จยิ่งขึ้นกว่านี้ไปอีกด้วยครับ

ยางเซจง : ระหว่างที่ถ่ายทำ เราพยายามทำงานกันอย่างละเอียดในทุกๆ ส่วน แต่ผู้กำกับเองก็ยังสามารถจับประเด็นรายละเอียดบางส่วนที่ผมพลาดไปมาแนะนำได้ตลอดเลยครับ ดังนั้นเราจึงต้องสื่อสารกันตลอดครับ

Q : ส่วนที่คิดว่าสำคัญที่สุดในการสร้างซีรีส์โรแมนติกคืออะไร และมีจุดไหนที่เน้นเป็นพิเศษในเรื่อง “ดูนา ไอดอลสาวข้างบ้าน”?

ผู้กำกับอีจองฮโย : สำหรับซีรีส์โรแมนติก เคมีระหว่างพระเอกกับนางเอกจะสำคัญที่สุดครับ ผมจึงพยายามฟังความเห็นของนักแสดงทั้งสองคนมากที่สุด การสร้างซีรีส์แบบนี้ ผมมักจะรู้สึกได้ว่า ‘มันจะมีอะไรที่มากกว่าที่เห็นในบทนะ’ สิ่งเหล่านี้เกิดจากเคมีของนักแสดงนำทั้งสองคน เพราะฉะนั้น ผมจึงถามความเห็นและเปิดโอกาสให้ทั้งสองคนพูดคุยกันจนสนิทกัน โดยเฉพาะช่วงแรกๆ มีการสื่อสารกันเยอะจริงๆ ครับ

Q : ตอนไหนคือช่วงเวลาที่ตัวละครของตนเองรู้สึกใจเต้นกับอีกฝ่าย?

ซูจี: ช่วงแรกที่ดูนายังมีความหวาดระแวงและคอยระวังตัวเสมอ มีวันหนึ่งที่เธอจะเป็นลมและต้องไปโรงพยาบาล ‘วอนจุน’ เข้ามาช่วยและบอกว่าตนเป็นผู้ปกครองของเธออย่างบริสุทธิ์ใจ น่าจะเป็นตอนนั้นค่ะ ที่ ‘ดูนา’ รู้สึกได้ว่าคนคนนี้ไม่มีอันตรายจริงๆ และเริ่มสนใจในตัวของวอนจุนค่ะ

ยางเซจง : ผมแบ่ง ‘ดูนา’ ออกเป็นสามช่วงครับ คือช่วงต้น – กลาง – ท้ายเรื่อง ผมคิดว่า ‘วอนจุน’ คงหวั่นไหวตั้งแต่ช่วงแรกๆ แต่เขาแสดงออกในรูปแบบที่แตกต่างกัน คือช่วงแรกเขาพยายามที่จะหลีกเลี่ยงเธอ ปฏิเสธเธอ จนเข้าสู่ช่วงกลาง และมาถึงช่วงท้ายของเรื่อง จริงๆ แล้ววอนจุนเองน่าจะใจเต้นทุกครั้งที่เขาเห็นดูนา ถึงจะมีช่วงที่เสียใจ แต่วอนจุนเองก็มีการเติบโตขึ้น ถึงจะมีอะไรเกิดขึ้นแต่ความหวั่นไหวในใจที่เกิดขึ้นก็น่าจะไม่เลือนรางหายไปครับ ดังนั้นพอมองดูดีๆ แล้ว ผมว่าวอนจุนคงใจเต้นกับดูนาตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันเลยครับ

Q: เคมีในการถ่ายทำฉากที่นักแสดงทั้งสองคนเล่นด้วยกันมันดีมาก โดยเฉพาะตอนที่ถ่ายฉากแกล้ง “วอนจุน” คุณ “ซูจี” ดูสนุกจริงๆ ?

ซูจี : คงจะเพราะอินในตัว ‘ดูนา’ มากค่ะ ฉันพยายามแกล้งอยู่ตลอดตั้งแต่ช่วงแรกๆ ของการถ่ายทำเลยค่ะ คือพอดูนาเห็นปฏิกิริยางงๆ ของ ‘วอนจุน’ เวลาโดนแกล้งก็จะยิ่งแกล้งหนักขึ้นไปอีก ฉันเองก็เลยแกล้งคุณเซจงจริงๆ ด้วย เพื่อรักษาบรรยากาศแบบนั้นในกองถ่ายไว้ค่ะ

Q: ผลงานก่อนหน้านี้ของคุณ “ซูจี” ได้รับความสนใจและชื่นชมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องการแสดง ในขณะที่คุณ “เซจง” เองก็กลับมารับงานแสดงเป็นครั้งแรกหลังปลดประจำการ ไม่ทราบว่าทั้งสองรู้สึกกดดันกับการแสดงครั้งนี้มั้ย?

ซูจี: ฉันไม่รู้สึกกดดันเลยค่ะ เนื่องจากเป็นตัวละครที่ไม่เหมือนกันเลย จึงรู้สึกตื่นเต้นมากกว่าที่จะได้แสดงให้เห็นความแตกต่างและความแปลกใหม่นี้ คิดว่าฉันคงรู้สึกตื่นเต้นมากจนไม่รู้สึกกดดันไปเลยค่ะ

ยางเซจง : ผมเองก็ไม่มีความรู้สึกกดดันในการกลับมารับงานนะครับ กลับรู้สึกอยากที่จะอ่านบทและเริ่มงานเร็วๆ ผมคิดว่านอกจากตอนถ่ายทำแล้ว ผมตื่นเต้นกับงานแถลงข่าวในวันนี้มากที่สุดเลยครับ ไม่รู้ว่าทำไม แต่โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่าน่าจะทำได้ดีกว่าช่วงก่อนเข้ากรมนะครับ

Q : บท “วอนจุน” อยู่ในช่วงอายุ 20 ต้นๆ ซึ่งอายุน้อยกว่าอายุจริงของคุณ “ยางเซจง” ประมาณ 10 ปี และมีอายุน้อยกว่าบทของคุณ “ซูจี” อยากทราบว่ามีการเตรียมตัวอย่างไรในการแสดงในครั้งนี้ และสำหรับ “ซูจี” ในความเป็นจริงก็เป็นหนึ่งในไอดอลที่ประสบความสำเร็จ แต่ได้ให้สัมภาษณ์ถึงดูนาว่า อยากโอบกอดเธอไว้มีส่วนไหนของเรื่องที่ทำให้รู้สึกแบบนั้น?

ยางเซจง : ผมตั้งใจอ่านบทมากๆ ครับ สำหรับเรื่องรูปลักษณ์ภายนอกในครั้งนี้ผมโกนหนวดด้วยเลเซอร์ด้วย มันเจ็บมากเลยครับ นอกจากนี้ยังแช่น้ำครึ่งตัวแล้วก็มาสก์หน้าบ่อยๆ แล้วก็ช่วยระบุเรื่องนี้ลงในข่าวที่เขียนถึงผมด้วยนะครับ ตอนนี้ผมน้ำหนักขึ้นมา 3 กิโลกรัมเมื่อเทียบกับตอนถ่ายทำครับ เพราะฉะนั้นในเรื่องจะไม่เจอคนอวบๆ แบบนี้แน่นอนครับ สรุปคือผมพยายามปรับรูปลักษณ์ภายนอกให้ตรงกับบทมากที่สุดครับ

ซูจี : ตอนที่แสดงเป็น ‘ดูนา’ เป็นโอกาสให้ฉันนึกถึงตอนที่เป็นไอดอล จริงๆ แล้วเหมือนฉันไม่รู้ว่าตอนนั้นเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากค่ะ ช่วงเวลาที่ฉันต้องพยายามทำตัวให้สดใสก็มีมาก เมื่อเทียบกับดูนาที่ยอมให้ตัวเองเหนื่อยและแสดงออกอย่างเต็มที่ ดูนาแสดงออกถึงความรู้สึกเหนื่อยหรือสิ่งต่างๆ ที่ตัวฉันเองเคยพยายามมองข้าม ไม่สนใจ อีกทั้งยังยอมให้ตัวเองรู้สึกเจ็บปวดบ้างตามสิ่งที่ได้เจอ ฉันจึงรู้สึกทั้งสงสารและอิจฉาเธอไปพร้อมๆ กันค่ะ พอรู้สึกเข้าใจในตัวเธอมากขึ้นก็เลยอยากที่จะโอบกอดปลอบใจเธอบ้างค่ะ

Q: จากที่ผู้กำกับได้กล่าวว่า ในผลงานครั้งนี้ “คุณซูจี” ต้องแสดงในสิ่งที่หลากหลายกว่าที่เคย หนึ่งในสิ่งที่สังเกตได้คือมีฉากสูบบุหรี่เยอะมาก และยังมีฉากใต้น้ำด้วย อยากทราบเบื้องหลังการถ่ายทำฉากเหล่านั้น รวมถึงฉากที่วอนจุนกับดูนาเจอกันครั้งแรก มีคำแนะนำอะไรจากผู้กำกับถึงฉากนี้บ้างมั้ย?

ซูจี : เรียกว่าเป็นความท้าทายมากกว่าค่ะ ‘ดูนา’ มีฉากสูบบุหรี่เยอะมากในเว็บตูน ซึ่งผู้กำกับเองก็กังวลเรื่องนี้ตั้งแต่ตอนเจอกันครั้งแรก แต่สำหรับฉันแล้ว ฉันมองว่า บุหรี่ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่แสดงถึงตัวตนของดูนา จึงได้พยายามอย่างเต็มที่ค่ะ ส่วนฉากใต้น้ำ ความจริงแล้วฉันกลัวน้ำนิดหน่อย แต่พอเริ่มถ่ายทำก็โอเคขึ้นค่ะ นี่เป็นฉากสำคัญเพื่อที่จะสื่อภาพของดูนาที่แสดงอยู่บนเวที ฉันจึงไม่มีปัญหาที่จะต้องกระโดดลงไปในน้ำค่ะ ส่วนฉากที่ดูนากับวอนจุนเจอกันครั้งแรก จำได้ว่าถ่ายฉากนั้นสองครั้งนะคะ เพราะเป็นฉากสำคัญ เลยตั้งใจกันมากในการถ่ายทำทั้งสองครั้ง ฉันเน้นการแสดงความหวาดระแวงของดูนา ที่ทำให้ดูระมัดระวังตัวต่อวอนจุน และก็ต้องพยายามแสดงถึงตัวดูนาที่มีเสน่ห์น่าประทับใจสำหรับวอนจุน ให้สมกับการพบเจอกันครั้งแรกด้วยค่ะ

ผู้กำกับอีจองฮโย : ฉากที่เจอกันครั้งแรกนั้น ทางนักเขียนได้ลงรายละเอียดต่างๆ ไว้หมดแล้ว แต่ด้วยปัจจัยของบรรยากาศ ภาพที่ได้ในแต่ละฤดูจะต่างกันออกไป เนื่องจากระยะเวลาการถ่ายทำค่อนข้างนาน ทำให้เราได้ภาพจากทั้งฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว ตอนที่จัดถ่ายอีกครั้งเพื่อปรับบรรยากาศตามฤดูกาล จึงเป็นการทำงานที่ไม่ลำบาก ทุกคนเข้าใจในตัวละครกันอยู่แล้ว แค่แสดงออกให้เห็นชัดเจนกว่าเดิมก็พอครับ

Q: ผลงานนี้ได้รับการกล่าวถึงว่าเป็นเหมือนอีกหนึ่ง ผลงานถ่ายแบบของซูจีซึ่งหลายคนให้ความสนใจและคาดหวังกันมาก คิดอย่างไรกับคำกล่าวนี้บ้าง?

ซูจี : ระหว่างการถ่ายทำ ทั้งผู้กำกับ ผู้กำกับภาพ ผู้กำกับไฟ และทีมงานทุกคน ทำงานกันอย่างหนัก เนื่องจากเราทุกคนอยากจะสร้างและเก็บภาพของดูนาให้ออกมาสวยงามให้ได้มากที่สุด เราพยายามกันอย่างหนักเพื่อสร้างดูนาให้ทุกคนตกหลุมรักค่ะ (หัวเราะ) และเห็นด้วยเลยค่ะว่านี่คือผลงานถ่ายแบบชิ้นหนึ่งได้เลยค่ะ

Q: ผลงานนี้น่าจะเป็นโอกาสในการกลับมาใช้ชีวิตในช่วงอายุ 20 ต้นๆ อีกครั้ง แต่คุณ “เซจง” บอกว่ากลับไม่ได้นึกถึงชีวิตช่วงวัย 20 ของตัวเองเท่าไร ช่วยอธิบายเหตุผลหน่อย?

ยางเซจง : ผมไม่ได้นึกถึงตัวเองในช่วงวัย 20 ในมุมมองของความรักหรือความสัมพันธ์ครับ แต่ผมก็มองกลับไปที่ตัวเองในช่วงอายุ 20 ปีอยู่นะครับ ‘วอนจุน’ และตัวผมเมื่อสัก 12 ปีที่แล้วใช้ชีวิตไม่เหมือนกัน บรรยากาศรอบตัวก็ไม่เหมือนกันด้วยครับ ผมลองถามคนรอบตัวที่อยู่ในช่วงอายุ 20 ต้นๆ อยู่บ่อยๆ ว่าช่วงนี้ทำกิจกรรมอะไร ออกไปเจอเพื่อนกันยังไง เรียนกันอย่างไร ชอบไปไหนกันบ้าง แล้วก็พบว่ามันแตกต่างจากประสบการณ์ชีวิตของผมอยู่มากเหมือนกันครับ หลังจากปลดประจำการ ผมมีโอกาสใช้ชีวิตในฐานะวอนจุน ผมรู้สึกว่าผู้กำกับกับคุณซูจีคุยกับผมโดยมองผมเป็นวอนจุนในช่วงท้ายๆ ของการถ่ายทำ จึงคิดว่าผมน่าจะทำได้ดีในการแสดงออกถึงตัวตนของวอนจุนครับ

Q:  “ผู้กำกับอีจองฮโย” เคยกำกับผลงานต้นฉบับจากละครต่างประเทศ เช่น “Good Wife” หรือ “Life On Mars” แต่สำหรับครั้งนี้เป็นการสร้างจากเว็บตูน อยากทราบถึงการทำงานที่แตกต่างกันว่าเป็นอย่างไรบ้าง?

ผู้กำกับอีจองฮโย : ปัจจุบันมีเว็บตูนหลายเรื่องที่ถูกนำมาทำเป็นภาพเคลื่อนไหว ซึ่งก็มักจะเห็นกันว่าพอเป็นภาพเคลื่อนไหวแล้ว ก็จะมีความแตกต่างออกไปจากเว็บตูนบ้าง การสร้างเว็บตูนมีเวลาไม่จำกัด เรื่องราวสามารถเขียนต่อกันไปได้เรื่อยๆ แต่พอจะทำเป็นซีรีส์ ก็จะต้องมีการคัดเลือกเนื้อหามานำเสนอครับ ส่วนนี้ยากกว่าที่คิด โชคดีที่ผมมีทีมงานคอยช่วยเหลือในการเลือกเนื้อหาในส่วนที่น่าสนใจ และเขียนออกมาเป็นบทซีรีส์ได้อย่างดี ผลงานครั้งนี้จึงเป็นอีกประสบการณ์ที่ดีของผมเลยครับ และเมื่อดูเรื่องนี้จนจบแล้ว ผู้ชมน่าจะสัมผัสได้ว่าเราให้ความสำคัญกับอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครมากกว่าที่จะเน้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จุดนี้จึงเป็นสิ่งที่แตกต่างจากซีรีส์โรแมนติกเรื่องอื่นๆ ครับ

Q : ผู้กำกับนั้นเชี่ยวชาญในการสร้างซีรีส์โรแมนติก อยากทราบว่าคุณเคยติดตามผลงานที่ผ่านมาของผู้กำกับเรื่องใดบ้าง หรือมีการพูดคุยถึงผลงานเรื่องใดที่นำมาช่วยในการแสดงครั้งนี้บ้าง?

ซูจี : ฉันชอบเรื่อง ‘I Need Romance 2012’ มากเลยค่ะ ส่วนการอ้างอิงถึงการแสดงเป็น ‘ดูนา’ ยังไม่มีผลงานใดเป็นพิเศษ นอกจากเว็บตูนต้นฉบับค่ะ

ยางเซจง : มีเรื่องที่ผู้กำกับแนะนำให้ลองดูด้วยครับ แต่ผมจำชื่อเรื่องเป๊ะๆ ไม่ได้

ผู้กำกับอีจองฮโย: เป็นผลงานจากอังกฤษหรือไอซ์แลนด์ที่ชื่อว่า ‘Normal People’ ครับ

ซูจี : เรื่องนี้ฉันเคยดูก่อนหน้านี้แล้วค่ะ รู้สึกได้ว่ามีการแสดงถึงอารมณ์ความรู้สึกที่เปลี่ยนไปอย่างละเอียดอ่อนคล้ายคลึงกันเลยค่ะ

ยางเซจง : ผมชอบเรื่อง ‘Life on Mars’ และ ‘Romance is a Bonus Book’ ครับ ทั้งสองเรื่องมีความแตกต่างกันมาก ทำให้ผมคิดว่าผู้กำกับไม่ใช่เพียงผู้เชี่ยวชาญในการสร้างซีรีส์โรแมนติก แต่มีความสามารถในการถ่ายทำทุกแนวเลยครับ ผมประทับใจมากและคอยบอกผู้กำกับอยู่บ่อยๆ เลยครับ สำหรับการอ้างอิง ผมได้อ่านเว็บตูนตั้งแต่ช่วงต้นถึงช่วงกลาง และจงใจหยุดอ่านไปครับ ผมกลัวจะมีภาพติดหรืออคติเกิดขึ้นในการตีความ จึงพยายามโฟกัสตามเนื้อหาบทซีรีส์ที่นักเขียนบทจางยูฮาเขียนไว้มากกว่าครับ นอกจากนี้ก็ดู ‘Normal People’ ที่ผู้กำกับแนะนำมาเป็นการเสริมจุดอ้างอิงด้วยครับ

Q : ช่วยฝากถึงผู้ชมหน่อย?

ยางเซจง : ผู้กำกับและทีมงานทุกคนของ ‘ดูนา ไอดอลสาวข้างบ้าน’   ตั้งใจทำงานกันอย่างหนัก บรรยากาศการถ่ายทำเต็มไปด้วยรอยยิ้มและความสุข  ช่วยติดตามและมอบความรักให้กับซีรีส์เรื่องนี้กันเยอะๆ นะครับ ขอบคุณครับ

ซูจี : ผลงานชิ้นนี้เป็นความทรงจำที่ดีของฉัน ทีมงานทุกคนก็ทำงานกันอย่างเต็มที่เลยค่ะ หวังว่าจะช่วยส่งกำลังใจและติดตามชมตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนจบกันเลยนะคะ

ผู้กำกับอีจองฮโย : พวกเราตั้งใจทำงานกันอย่างเต็มที่ครับ ใครที่มองหาเรื่องราวโรแมนติกที่แตกต่างออกไปก็อย่าพลาดกันนะครับ ส่วนตัวผมคิดว่าเรื่องนี้เหมาะที่จะดูรวดเดียวจบนะครับ ขอบคุณครับ

 มาลุ้นไปกับความรักสุดโรแมนติกของ 2 หนุ่มสาววัยเยาว์ที่มาจากโลกคนละขั้ว  พร้อมชวนระลึกถึงช่วงอายุ 20 ที่เต็มไปด้วยอารมณ์คลั่งรัก และความไม่ประสีประสา  ผ่านเคมีและการแสดงสุดละเมียดละไมของ “ซูจี” และ “เซจง” ที่จะทำให้แฟน ๆ ได้ฟินกัน!

“ฮาอึน”