เกาะกาอีโอลาแห่งเมืองนาโปลี หรือเมืองเนเปิลส์ของอิตาลี เป็นเกาะเล็ก ๆ ที่เงียบสงบ แต่มีชื่อเสียงมานานในแง่ของความน่าสะพรึงกลัวและคนท้องถิ่นที่นี่เชื่อกันว่ามันคือ “เกาะต้องสาป” 

ในแง่ของภูมิศาสตร์แล้วมันเป็นเกาะที่เหมาะมากสำหรับใช้เป็นที่พักผ่อนของมหาเศรษฐีสักคน เพราะขนาดของตัวเกาะไม่เล็กจนเกินไปและอยู่ในเวิ้งอ่าว ใกล้แผ่นดินใหญ่มาก ทำให้เดินทางสะดวก ขณะเดียวกันก็มีความเป็นส่วนตัว

จริงๆ แล้ว เกาะกาอีโอลามีสองส่วนและมีสะพานหินเล็ก ๆ เชื่อมถึงกัน ส่วนแรกปลูกวิลล่าหลังงามเอาไว้ อีกส่วนหนึ่งทิ้งไว้เป็นพื้นที่โล่ง ปัจจุบันพื้นที่ทั้งสองส่วนถูกทิ้งร้าง ไร้คนพักอาศัย

แม้จะเป็นเกาะที่สวยงาม แต่ประวัติของมันนั้นดำมืด เต็มไปด้วยความตายและการสูญเสียของคนหลายคนที่เกี่ยวข้องกับเกาะแห่งนี้ทั้งทางตรงและทางอ้อม 

ก่อนหน้าจะกลายเป็นเกาะต้องสาป กาอีโอลาคือแหล่งหย่อนใจยอดนิยมของชาวโรมันโบราณ ซึ่งเป็นผู้ปลูกสร้างวิหารบูชาเทพีวีนัสขึ้นที่นี่ ต่อมามันก็ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นเกาะยูเพลอาและกลายเป็นโรงเรียนสอนหนังสือของ “เวอร์จิล” กวีเอกชาวโรมันผู้ประพันธ์วรรณกรรมมหากาพย์เรื่องอีนีอิด (Aeneid) และผู้ที่ทำให้โลกรู้จักตำนานแห่งสงครามกรุงทรอย

ประวัติศาสตร์อันดำมืดของเกาะกาอีโอลาเริ่มต้นในยุคศตวรรษที่ 19 เมื่อนักบวชคนหนึ่งซึ่งมีฉายาว่า “อิล มาโก” หรือ “ท่านพ่อมด” (The Wizard) ที่พักอยู่บนเกาะแห่งนี้ได้หายตัวไปอย่างลึกลับ หลังจากนั้นก็มีข่าวลือว่าเขาได้สาปแช่งเกาะแห่งนี้ไว้ก่อนจะจากไป

หลังจากนักบวชหายตัวไป ก็มีคนสั่งให้ปลูกวิลลาหลังหนึ่งขึ้นบนเกาะ พอถึงปีค.ศ. 1911 กัปตันกัสปาเร อัลเบงกา ก็สนใจจะซื้อเกาะแห่งนี้ แต่ระหว่างเดินทางไปยังเกาะก็มีหินตกใส่เรือของเขา ทำให้กัปตันอัลเบงกาจมน้ำหายไป และไม่เคยมีใครพบศพหรือแม้กระทั่งซากเรือของเขาอีกเลย

อีกหนึ่งตำนานสยองขวัญเกี่ยวกับเกาะแห่งนี้ก็คือเรื่องของ ฮันส์ เบราน์ เจ้าของเกาะคนใหม่จากสวิตเซอร์แลนด์ ผู้มาพักอยู่บนเกาะในช่วงทศวรรษ 1920 เบราน์ ถูกฆาตกรรมและศพของเขาอยู่ในม้วนพรมที่ใช้ปูพื้น ส่วนภรรยาของเขาก็จมน้ำทะเลเสียชีวิตหลังจากนั้นไม่นาน

ออตโต กรุนบัค ชาวเยอรมันที่มีโอกาสครอบครองเกาะกาอีโอลาเป็นช่วงสั้น ๆ ถัดจาก เบราน์ ก็เสียชีวิตด้วยอาการหัวใจวายในวิลล่าบนเกาะ 

มอริซ-อีฟส์ ซองโดซ เจ้าของเกาะคนถัดจาก กรุนบัค กลายเป็นบ้าและฆ่าตัวตายหลังจากถูกส่งเข้าโรงพยาบาลด้านจิตเวชในสวิตเซอร์แลนด์ 

เกาะแห่งนี้ยังเคยอยู่ในความครอบครองของ จิอานนี อาเนลลี ผู้บริหารของบริษัทรถยนต์เฟียต ซึ่งสูญเสียลูกชายจากการกระทำอัตวินิบาตกรรมและหลานชายเพราะโรคมะเร็ง หลังจากได้เป็นเจ้าของเกาะ 

ถัดมาคือ พอล เก็ตตี มหาเศรษฐีระดับพันล้านซึ่งหลังจากที่ซื้อเกาะแห่งนี้ หลานชายของเขาก็โดนมาเฟียลักพาตัวไปในปีค.ศ. 1973 ซึ่งกว่าจะได้ตัวคืน ก็โดนตัดหูไปหนึ่งข้างและ เก็ตตี้ ต้องจ่ายเงินค่าไถ่ไปเกือบ 3 ล้านเหรียญสหรัฐ

จิอานปาสกวาเล กรัปโปเน คือเจ้าของเกาะคนสุดท้าย เขาตกอยู่ในสภาพติดหนี้จำนวนมหาศาลซึ่งทำให้เขาต้องรับโทษจำคุก ขณะทีภรรยาของเขาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต์ หลังจากนั้น ทั้งเกาะและวิลลาบนเกาะก็โดนทิ้งร้างและเริ่มผุพังเพราะขาดการดูแล

ปัจจุบันเกาะกาอีโอลาอยู่ในความดูแลของแคว้นกัมปาเนีย โดยเป็นส่วนหนึ่งของ “สวนใต้น้ำกาอีโอลา” และเป็นแหล่งอนุรักษ์ทางทะเลที่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย 

เกาะกาอีโอลาไม่ได้ปิดกั้นนักท่องเที่ยว ผู้ที่สนใจสามารถว่ายน้ำจากชายฝั่งของแผ่นดินใหญ่ไปยังตัวเกาะได้เลยเพราะระยะทางอยู่ห่างกันไม่มาก นอกจากนี้ยังสามารถลงดำน้ำดูวิวใต้ทะเลซึ่งมีซากปรักหักพังจากยุคโรมันจมอยู่รอบบริเวณด้วย

อย่างไรก็ตาม หลังจากเจ้าของเกาะคนสุดท้ายจากไปก็ยังไม่พบรายงานว่ามีใครสนใจพักค้างคืนบนเกาะแห่งนี้ 

ที่มา : mirror.co.uk

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES