ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังคอกม้าดังกล่าว เลขที่ 54/6 หมู่ 4 ซอยบางทราย ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พบกับนายชัชโรจน์ เลขอาวุธ อายุ 50 ปี และ นางประภาดา เลขอาวุธ อายุ 43 ปี เจ้าของคอกม้า ได้แจ้งว่ามีชาวต่างชาติสัญชาติสหรัฐอเมริกา เข้ามาทำอนาจารม้าเพศเมียที่คอกม้านี้ ทั้งหมด 3 ตัว โดยตัวแรกชื่อน้องมะลิ ม้าแคระ ท้อง 9 เดือน แท้ง เมื่อปีที่แล้ว ตัวที่สองน้องจีน่า เมื่อเดือน ก.พ. 67 แต่ท้องว่าง ไม่ได้ท้อง ล่าสุดตัวที่สามน้ององุ่น ท้อง 4 เดือนกว่า ยังไม่แน่ใจว่าแท้งหรือไม่ รอหมอตรวจก่อน
พ.ต.ต.ยุทธพล วัทธเศรษฐ์ สว.(สอบสวน) สภ.ถลาง จนท.ชุดสืบสวน สภ. จนท.ตร.ทท.ภูเก็ต และ จนท.ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต (TAC) ได้เดินทางไปยังบ้านพักของชาวต่างชาติดังกล่าว ซึ่งห่างจากคอกม้าเกิดเหตุไม่มากนัก โดยนายชัชโรจน์ เจ้าของคอกม้า ได้เปิดกล้องวงจรปิดให้ชาวต่างชาติดังกล่าวดูการกระทำของลูกชาย
ด้านนางประภาดาเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนเห็นเขามาสักพักแล้วคิดว่าเป็นเด็กทั่วไปที่รักม้ารักสัตว์เขาชอบมาที่คอกม้า ซึ่งตนผูกล่ามม้าไว้ที่สวนยางเพื่อให้ม้าได้เล็มหญ้า หลัง ๆ มาเจอมาลูบไล้ม้า ตนก็ไม่ได้เอะใจ จนเห็นพฤติกรรมไม่ดี ตนก็เลยคิดว่าจะทำอย่างไรให้เซฟม้าของตน ก็เลยไม่พยายามนำม้าไปผูกที่ไกล ให้อยู่ในสายตาเราพอหลังจากที่เขามาทำม้าหลังจากที่เขาอยู่ใกล้ม้า ม้าจะมีเมือกที่อวัยวะเพศจนม้าแท้ง แล้วมาอีกเหตุการณ์ ม้า 2 ตัว แต่มาผูกล่ามในสวนยางเรา ไม่สามารถเก็บเป็นวิดีโอได้ จึงไม่ได้มีการแจ้งความใด ๆ เพื่อความปลอดภัยของม้าเรา จึงไม่นำม้าออกไปสวนยางเกือบปีแล้ว เราให้ม้าอยู่ในคอกอยู่ในบริเวณบ้านเพื่อให้ม้าปลอดภัย จากการเปิดดูในกล้องแล้ว เห็นพฤติกรรมเขาที่ทำอนาจารโดยเอามือล้วงเข้าไปในอวัยวะเพศม้า แล้วเรามีการไปแจ้งความไว้ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2567
ด้าน ดร.สาธิต ปรัชญาอริยะกุล เลขาธิการและผู้อำนวยการสมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย (TSPCA) ได้แสดงความคิดเห็นส่วนตัวว่า กรณีชาวต่างชาติใช้มือล้วงอวัยวะเพศม้าเพศเมียนั้น จะต้องพิจารณาถึงองค์ประกอบ เช่น พฤติกรรมและสภาพจิตใจของนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงการกระทำดังกล่าวส่งผลให้ม้าตัวนั้น มีความทุกข์ทรมานทั้งร่างกายและจิตใจอันมีผลให้แท้งลูกด้วยหรือไม่ และที่สำคัญต้องดูเจตนาความมุ่งหมายการใช้ม้าเพศเมียตัวนั้นเพื่อสนองความต้องการทางเพศของตนหรือไม่ จากกรณีดังกล่าวถ้ามีการพิสูจน์ได้ว่า ชาวต่างชาติดังกล่าวใช้นิ้วมือสอดใส่เข้าไปในอวัยวะเพศของม้า มีลักษณะความสัมพันธ์ทางเพศระหว่างมนุษย์และสัตว์ การกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายการใช้สัตว์ประกอบกามกิจ ตามพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557 เป็นการทารุณกรรมโดยไม่มีเหตุอันสมควร ด้วยการใช้สัตว์ประกอบกามกิจ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 3 ประกอบมาตรา 20 และมาตรา 31 สำหรับการใช้สัตว์ประกอบกามกิจ ตามพระราชบัญญัตินี้ในปัจจุบัน เป็นลักษณะของการมีความสัมพันธ์ทางเพศระหว่างมนุษย์และสัตว์ ซึ่งมีความหมายที่ครอบคลุม รวมถึงการชำเราด้วย เช่น การร่วมประเวณีทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการใช้อวัยวะเพศของมนุษย์ล่วงล้ำต่ออวัยวะเพศของสัตว์ทุกเพศทุกวัย ทั้งทางทวารหนัก ทวารเบา หรือช่องปากของสัตว์ เป็นต้น การใช้สัตว์ประกอบกามกิจส่งผลกระทบต่อศีลธรรมในจิตใจของผู้คน ในการคุ้มครองตามกฎหมายนี้ เพื่อมนุษย์ไม่ให้ผิดศีลธรรมซึ่งเป็นคุณธรรมของกฎหมาย นอกจากนั้น กฎหมายยังมีเจตนารมณ์ในการรักษาสุขอนามัยของประชาชน เพราะการประกอบกามกิจกับสัตว์อาจทำให้มนุษย์ติดโรคจากสัตว์ได้ เช่น โรคเอดส์ (Acquired Immune Deficiency Syndromes – AIDS) หรือโรคอื่น ๆ ที่ปรากฏในอดีตแล้ว เป็นต้น.
