อีกไม่กี่วันจะถึง เทศกาลสงกรานต์ปีใหม่ไทย ปีนี้อากาศร้อนแรงจริง หลายพื้นที่อุณหภูมิทะลุเกิน 40 องศาไปเรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะจังหวัดทางภาคเหนือ นอกจากจะเจออากาศร้อน ยังต้องผจญ วิกฤติฝุ่นพิษ PM2.5 และ ควันไฟป่า ที่กระจายปกคลุมหลายพื้นที่

นับเป็นอีกเรื่องใหญ่ที่ รัฐบาลเศรษฐา ต้องเร่งหาทางแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้กับชาวบ้านที่กำลังประสบภัยค่อนข้างส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะด้านสุขภาพ รวมไปถึงการท่องเที่ยว ปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 จึงถูก สส.ก้าวไกล ลากเข้าไปอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติในสภาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่ สส.ชลบุรี เขต 3 พรรคก้าวไกล นำเข้าไปอภิปราย ปัญหาขยะอุตสาหกรรม ยังมีโรงงานที่ กลุ่มนายทุนต่างชาติ แอบลักลอบประกอบกิจการที่เต็มไปด้วยสารพิษ หากยังปล่อยปละไม่เข้มงวดจริงจัง จะส่งผลทำให้ไทยมีทั้ง ขยะพิษ รวมถึงกลายเป็น บ่อขยะโลก

สส.ก้าวไกล อภิปรายฯไม่ทันไร ตามด้วย กมธ.การอุตสาหกรรม สภาผู้แทนฯ ออกมาแถลงปมมีการลักลอบขน กากแร่สังกะสีกากแคดเมียม กว่า 1.5 หมื่นตัน จากพื้นที่ จ.ตาก มาไว้ในโกดัง อ.เมือง จ.สมุทรสาคร พอสื่อทุกแขนงตีข่าว ผู้ว่าฯสมุทรสาคร ต้องนำเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยไปร่วมตรวจสอบ จึงพบ กากแคดเมียม บรรจุถุงบิ๊กแบ็ก อยู่ภายในโรงงานบดย่อยกากอุตสาหกรรมและหลอมอะลูมิเนียม อ้างว่าขนมาอย่างถูกต้องจาก จ.ตาก ตั้งแต่เดือน ส.ค. 66

กลายเป็นเรื่องสร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชนที่ทราบข่าวเป็นอย่างมาก ถึงขั้นต้องประกาศให้บริเวณอาคารโรงงานดังกล่าวเป็น เขตภัยพิบัติ ห้ามเข้าใกล้โดยเด็ดขาด เพราะ แคดเมียม หากเข้าสู่ร่างกายได้โดยการหายใจเอาฝุ่นหรือควันเข้าไปสะสมเรื้อรัง มีความเสี่ยงต่อ โรคมะเร็งปอด, มะเร็งไต, มะเร็งตับอ่อน และ มะเร็งต่อมลูกหมาก

นอกจากจะพบในสมุทรสาครแล้ว ยังพบกากแคดเมียม อีก กว่า 3 พันตัน ถูกส่งต่อไปยังโรงงานใน ต.คลองกิ่ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี แอบลักลอบขนส่งมาตั้งแต่ วันที่ 2 .. 67 และขนมาครั้งสุดท้าย วันที่ 23 มี.. 67 พักรอตู้คอนเทเนอร์ ส่วนต้นทางของกากแคดเมียมทั้งหมดนั้น ผู้ว่าฯตาก เข้าไปตรวจพบ บ่อเก็บกากอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ 7 บ่อ และ อาคารเก็บพัสดุที่มีกากแคดเมียมบรรจุอยู่ในถุงบิ๊กแบ็ก สั่งปิดบริเวณโรงงาน ภายในอาคาร รัศมี 100 เมตร เป็นระยะเวลา 90 วัน

งานนี้ สส.ก้าวไกล 3 จังหวัด คือ สมุทรสาคร-ชลบุรี-ตาก ออกโรงขยับโดดเกาะติดปัญหาขยะพิษแบบทันควันเพื่อสะท้อนมาตรฐานรัฐบาลในการควบคุมสารมลพิษบกพร่อง ที่สำคัญกำลังส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ ทั้งด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม หลังผลตรวจร่างกายเบื้องต้น พบ 8 คนงาน มีสารแคดเมียมเกินมาตรฐาน จึงจำเป็นต้องตรวจผู้เกี่ยวข้องใกล้ชิดกากแคดเมียมเพิ่มเติม อย่างไรก็ดีชาวบ้านบางส่วน เพิ่งจะมารู้จากข่าวว่ามี บ่อฝังกลบกากแคดเมียม ขนาดมหึมาอยู่ในพื้นที่ จ.ตาก โดยเชื่อว่ากากแคดเมียมทั้งหมดนั้นน่าจะถูกขนมาจาก เหมืองแร่สังกะสี ซึ่งปิดตัวไปนานหลายปีแล้ว

เกิดคำถามติดตามมา “ไอ้โม่ง” ใครอนุญาต? ให้ขุดกากแคดเมียมกว่า 1.5 หมื่นตัน ออกจากบ่อใน จ.ตาก

มีข้อเสนอเร่งด่วนต่อรัฐบาล 1. ต้องประกาศให้พื้นที่เป็นเขตควบคุมมลพิษ 2. ตรวจสอบโรงหลอมและการฝังกลบของกากอุตสาหกรรมในพื้นที่โรงหลอมทั่วประเทศ ทั้งที่มีใบอนุญาตและไม่มีใบอนุญาต 3. ตรวจสอบการสำแดงเท็จ นำเข้ากากอุตสาหกรรมอันตราย และ 4. หยุดการออกใบอนุญาตให้กับโรงหลอมเพิ่ม โดยเฉพาะนายทุนต่างชาติ

เหนือสิ่งอื่นใด 3 กระทรวงหลักที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรม, ทรัพยากรธรรมชาติฯ และสาธารณสุข ต้องเร่งเข้าไปตรวจสอบแก้ปัญหาเฉพาะหน้าก่อน ส่วนไอ้โม่งใครเอี่ยวให้ขนกากแคดเมียมออกมา ค่อยตามเช็กบิลย้อนหลัง!!.