@หลังผ่านพ้นการ”อภิปรายไม่ไว้วางใจ” แบบไม่มีการ”ลงมติ”ซึ่งเป็นการ”อภิปราย”ของ”ฝ่ายค้าน” ที่แบบจะ”ทำได้ดี” แต่ก็ยังไม่สามารถสร้างความ”บอบซ้ำ” ให้กับ”รัฐบาลพรรคร่วม” ที่มี”เพื่อไทย”เป็น “แกนนำ” โดยมี”เศรษฐา ทวีสิน” เป็น”นายกรัฐมนตรี จนถึงกับต้องมีการ”เปลี่ยนแปลง” ด้วยการ”ปรับ ครม.”เปลี่ยนตำแหน่ง “เสนาบดี” ที่”ไร้ฝีมือ” และที่”โลกลืม” และ”โลกงง” หรือเป็นการ”ปรับ ครม.”โดยมีการเอา”ประชาธิปัตย์” เข้าไป”เสียบ” เพื่อเสริมความ”แกร่ง” ให้กับ”รัฐบาล” แต่ เชื่อเถอะ ยังไม่มีการ”ปรับ ครม.” ในห้วงของ เดือน เมษายน นี้อย่างแน่นอน รวมทั้งในปี 2567 นี้ ประเทศไทยก็ยังไม่มีการ”เปลี่ยนตัว” นายกรัฐมนตรี จาก”เศรษฐา ทวีสิน” เป็น” อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร อย่าง แน่นอน “เก้าอี้” นายกรัฐมนตรีของ”เสี่ยนิด” เศรษฐา ทวีสิน ยังมั่นคง และยังใช้ นโยบาย เดิม คือ เร่งมือในการแก้ปัญหา”เศรษฐกิจ” แบบ”เดินหน้า” ทั้งในประเทศ และ ต่างประเทศ…..เช่น เดินทางลง”ภาคใต้” อย่าง”เร่งด่วน” ทั้งที่ไม่มีอะไรที่”ต้องด่วน” ซึ่ง ภารกิจ ที่ จ.นครศรีธรรมราช ,จ.สุราษฎร์ธานี  ( เกาะสมุย ) ก็คือเรื่อง”ยาหอม” เรื่อง เศรษฐกิจการค้า การลงทุน และ การท่องเที่ยว เช่นการ “ขยายสนามบิน” การ”เพิ่มเที่ยวบิน” สร้างท่าเรือ เพื่อ ต้อนรับ”นักท่องเที่ยว” ที่ เชื่อว่า จะ”เพิ่มมากขึ้น” แต่ สิ่งหนึ่งที่”เสี่ยนิด” และ”สื่อ” ไม่ได้ “พูดถึง” และ”ถามถึง” ทั้งที่เป็นความสำคัญของการ”ท่องเที่ยว” และการ”ลงทุน” นั้นคือการที่”สายการบิน” ขายตั๋วแพง เป็นการ”เอาเปรียบ” กับ”ผู้บริโภค” ที่มี ประชาชน และ ภาคเอกชน เช่น “หอการค้า” ออกมา”เรียกร้อง” ให้”รัฐบาล” แก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า  รัฐบาล”เสี่ยนิด” เศรษฐา ทวีสิน” เป็นรัฐบาลให้ความสนใจกับเรื่อง”เศรษฐกิจ” โดยการ”อุ้มกลุ่มทุน” ทั้งในกลุ่มของ”แอร์ไลน์” และ”พลังงาน” เสียงของ”ประชาชน” ที่ “เดือดร้อน” ในเรื่องดังกล่าว ไม่เคยดัง”เข้าหู” ของ”รัฐบาล” แต่อย่างใด และ ทุกโครงการที่”เสี่ยนิด” ลงพื้นที่พบประชาชนมีแต่เรื่อง”ยาหอม” ที่เป็นเรื่อง”อนาคต” ที่ อาจจะ”ได้ทำ” หรือ”ไม่ได้ทำ” เพราะใน สถานการณ์ ที่ “เศรษฐกิจ” เป็นไปอย่าง”ยอบแยบ” มีการขยาย”เพดานเงินกู้” เพื่อการ”บริหารประเทศ” โครงการต่างๆ”ไม่ง่าย “เป็นเรื่องการ”หาเสียง” เพื่อ”การเมือง”เพื่อ”พรรคการเมือง” มากกว่าเป็น”ของจริง” เพราะ 7 เดือนของ”เพื่อไทย” และของ”เสี่ยนิด “เซลล์แมน ระดับมหาเศรษฐี ยังไม่เห็นผลแม้แต่โครงการเดียว…..

@เพียงแต่”รัฐบาลเพื่อไทย” เป็นรัฐบาลที่”มีโชค” เข้ามาเป็น”รัฐบาล”แล้ว ราคายางพารา ที่เคย”ตกต่ำ” มีราคาที่”แพงขึ้น” ทั้งที่ไม่ได้มี นโยบาย การค้า อะไรกับ ต่างประเทศ เพียงแต่การ”ปราบยางเถื่อน” จากประเทศเพื่อนบ้าน อย่าให้”ทะลักทลาย” เข้ามาใน”ตลาดยาง” ของประเทศไทยเท่านั้น   ส่วนเรื่อง”ปาล์มน้ำมัน” เรื่อง”มันสำปะหลัง,อ้อย .ข้าว” ซึ่งเป็น”พืชเศรฐกิจ” ก่อนที่” รัฐบาลนิดหนึ่ง” จะเข้ามา บริหารประเทศ ราคาของผลผลิตทางการ”เกษตร” ก็ดีอยู่แล้ว ดังนั้น รัฐบาล”เสี่ยนิด” จึง “โชคดี” ที่ประชาชนในภาค”การเกษตร” ซึ่งเป็นคน”ส่วนใหญ่” ของ”แผ่นดิน” ไม่”เดือดร้อน” จนต้องออกมา”เคลื่อนไหว” จนเป็นปัญหาทาง”การเมือง” วันนี้ สิ่งที่”ประชาชน” ถามกันจึงเป็นเพียงเรื่อง”นโยบาย” ที่”เพื่อไทย” ได้”หาเสียง” เอาไว้ ในเรื่อง” แจกเงินคนละ 10,000 บาท ที่ต้องกู้เงินมาเพื่อใช้ในโครงการ”เงินดิจิตัลวอลเล็ต” ถึง 500,000 ล้านบาท  เรื่องการขึ้น”ค่าแรง” 450 บาท และอีก 4 ปีจะเป็น 600 บาท เรื่อง เงินเดือนผู้จบ”ปริญญาตรี “ 25,000 บาท และการแก้ปัญหาเรื่อง”พลังงาน” ที่ผ่านไปแล้ว 7 เดือน ยังมองไม่เห็น”แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์” แต่อย่างใด…..โดยเฉพาะเรื่องปัญหาของความ”มั่นคง” ในพื้นที่”แนวชายแดน” ที่ ณ วันนี้ไม่ใช่มีเรื่องเรื่อง”การแบ่งแยกดินแดนที่จังหวัดชายแดนภาคใต้” เพียงอย่างเดียว แต่ยังมีเรื่องที่”ชายแดนไทย-เมียนมา” ซึ่ง เป็นเรื่องที่มีผลกระทบกับปัญหา”เศรษฐกิจ” การที่ฝ่ายต่อต้าน” พล.อ.มินอ่องหลาย ผู้นำประเทศเมียนมา ยึด”เมืองเมียวดี” ด้าน อ.แม่สอด” จ.ตาก ได้ และในอนาคตอาจจะยึด”เมืองท่าขี้เหล็ก” ชายแดน จ.เชียงรายได้ ต้องส่งผลกระทบถึง”เศรษฐกิจ” ของ”เมืองชายแดน” อย่างไม่ต้อง”ปฏิเสธ” ปัญหาความมั่นคง เป็น”เรื่องใหญ่” แต่กลายเป็นเรื่องที่”เศรษฐา ทวีสิน” ให้ความสนในน้อยมาก

@เช่นเดียวกับเรื่อง”ความมั่นคง” ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่หลังจาก” เพื่อไทย”เข้ามาเป็น”แกนนำรัฐบาล” และ”เศรษฐา ทวีสิน” เป็น “นายกรัฐมนตรี” มี “สุทิน คลังแสง” เป็น”เสนาบดี” กระทรวงกลาโหม สถานการณ์ใน “จังหวัดชายแดนภาคใต้”  มีแต่”ย่ำแย่” ในห้วง 30 วันของ”เดือนรอมฎอน” ปีนี้ มีการ”ก่อการร้ายรายวัน” ที่ส่งผลให้” เจ้าหน้าที่ทหาร “ บาดเจ็บ ล้มตาย” เป็นจำนวนมาก แต่ไม่ได้ยินเสียงจาก”เศรษฐา ทวีสิน” ออกมาพูดถึงการแก้ไขปัญหาที่เกิด และไม่เห็นแม้แต่”เงาร่าง” ของ”สุทิน คลังแสง”  เสนาบดี กระทรวงกลาโหม ลง”พื้นที่” เพื่อติดตาม “สถานการณ์” ทุก ปัญหา กลายเป็นเรื่องของ” พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค” แม่ทัพภาคที่ 4 และ ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ทำการ”แบกรับ” ไว้แต่ผู้เดียว …..และก็เห็นอยู่ชัดๆว่า นโยบายของ”กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ที่ใช้ในการ”รับมือ” กับ”ขบวนการแบ่งแยกดินแดนบีอาร์เอ็น” นั้น “เก๋ากึ๊ก”และ”ล้าหลัง” เพราะทุก นโยบายเป็นการ”เดินตามตูด” ของ” กองกำลังติดอาวุธ”บีอาร์เอ็น ในพื้นที่ โดยมี”ปีกทางการเมือง”เดินงานด้าน”มวลชน” อย่างได้ผล และเป็นการ”ส่งต่อ” ให้กับ”นักการเมือง” ใช้เป็น”อาวุธ” ใน “สภาผู้แทนราษฎร “ เพื่อการ”ขับเคลื่อน”งานการเมือง” ที่เป็นการ”เข้าทาง” ของ”บีอาร์เอ็น” มากกว่าของ”ประเทศไทย” และ ถ้า “กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า” ยังคงมีนโยบายในการ”ดับไฟใต้” แบบ”เรื่อยๆมาเรียงๆ” แบบที่เห็น ก็ไม่มีอะไรใหม่ในการ”ดับไฟใต้” นอกจากการ”เก็บศพ.ของ”เจ้าหน้าที่” แล้ว”สดุดี” คนที่ไม่มี”ลมหายใจ” พร้อมกับการ”เยียวยา” ครอบครัวผู้”สูญเสีย” ซึ่ง “กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า” ได้”ทำแล้ว ทำอยู่ และ ทำต่อ” พร้อมๆกับ”เงินงบประมาณ” ในการ”ดับไฟใต้” ที่ เพิ่มขึ้นทุกปี รัฐบาล มองปัญหาของ”จังหวัดชายแดนภาคใต้” อย่างไร   เรื่องนี้คนในพื้นที่”ปลายด้ามขวาน” ฝากถามมา…..ส่วน”นายกนิด” ถ้ามีการ”คิดทบทวน” ก็คงจะเห็นแล้วว่า การ เดินทางลงมายัง”สามจังหวัดชายแดนภาคใต้” และ”ค้างคืน”ที่”ปัตตานี” และที่”ยะลา” โดยเฉพาะที่ อ.เบตง” เพื่อ”กระตุ้นเศรษฐกิจ” และ การท่องเที่ยว” โดยการ”ก้าวข้าม” ปัญหาความ”ขัดแย้ง” ที่เป็น”ต้นเหตุ” ของความ”รุนแรง” เป็นความ”ผิดพลาด” และเป็นความ”ล้มเหลว” ของการใช้”งบประมาณ” ในการ”ลงพื้นที่” ในครั้งนั้น เพราะความ”รุนแรง” ที่ยังเกิดขึ้นแบบ”ต่อเนื่อง” ได้ ทำลาย “เศรษฐกิจ” และ”การท่องเที่ยว” ไปแล้ว  

@ถ้า “เบตง” เป็นเพียง อำเภอเดียวของ ที่”เศรษฐกิจดี” และการ”ท่องเที่ยว”ได้ผลเป็นเลิศ แต่อีก 32 อำเภอ ของ สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ยัง”ยากจน” และมีแต่เสียง”ปืนและระเบิด” และการ”เก็บศพรายวัน” นั้นคือความ”ล้มเหลว” และ “นายกรัฐมนตรี” ต้อง บอกให้” กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า” ปรับเปลี่ยน” นโยบายในการ”รับมือ” กับ”การ”ดับไฟใต้” ไม่ใช่ ดันทุรัง”ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ ทั้งที่ว่า ไร้ประโยชน์…….ล่าสุด “กำลังพลทหารพราน” ถูก”ซุ่มยิง” ที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส และการ”วางระเบิดแสวงเครื่อง” เพื่อ”สังหาร” ทหารพราน ที่ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี เป็นการ”ชี้ชัด” ว่าต้องมีการ”ปรับขบวนการ” ทั้งงาน”การข่าว” และ”ยุทธวิธี” ของ”กองกำลังในพื้นที่ เพื่อการ”ลดความสูญเสีย” การ”ท่องถาคา” คำว่า”สันติวิธี” และการ”แจกของ” รวมทั้งการ”หิวกระเช้า” ไปพบ”ผู้นำศาสนา” ในพื้นที่ และการ”ปล่อยลูกโป่งสีขาว” ของ”แม่ทัพ นายกอง” ไม่ใช่”ทางออก”ของการ”ดับไฟใต้” อย่างแน่นอน ……และเรื่อง”ความรุนแรง” ก็ไม่ได้จบเพียงการ”ออกบวช” หรือ”รายอปอซอ” แต่ หลัง”รายอปอซอ” ยังมีการจัดงาน”วันเยาวชนชาย-หญิง ” หรือวัน”มาลายูเดย์” โดยมีการกำหนดวันที่ 13 เม.ย. เป็น”วันเยาวชนชาย” และวันที่ 14 เม.ย. เป็น”วันเยาวชนหญิง” ที่ หาดวาสุกรี ต.ตะลุบัน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี และ สิ่งที่ต้อง”ติดตาม”คือ”บีอาร์เอ็น” จะใช้” เล่ห์กระเท่” แบบไหน อย่างไร ในการ เข้า”แทรกแซง” การจัดงาน”วันเยาวชนชาย-หญิง” เพื่อให้ฝ่าย”ความมั่นคง” เดินเข้าไป”ติดกับ” ด้วยการ”แจ้งความเอาผิด” กับ”แกนนำ” ในการจัดการชุมนุม” เหมือกับ ทุกครั้งที่ผ่านมา ซึ่งมี”แกนนำ” ของ”บีอาร์เอ็น” เป็นผู้วางแผน……

@ที่สำคัญ”ความรุนแรง” ยังจะเกิดขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในห้วงของ”เทศกาลฮารีรายอ” หรือ”รายกปอซอ” หรือ” อิดิ้ลฟิตรี้” แล้วแต่ใครจะเรียก และ “เทศกาลสงกรานต์” และ หลังจากนั้น ยังมีเรื่อง”การพูดคุยสันติสุข” ระหว่าง”ฝ่ายเทคนิค” ทั้งของ”รัฐบาลไทย” และ”ขบวนการบีอาร์เอ็น” ที่จะมีขึ้นในปลายเดือน เมษายน นี้ ซึ่ง ฝ่าย”ความมั่นคง” ที่เป็น”ฝ่ายเทคนิค” มองว่า ต้องมีการ”พูดคุย”ตามกรอบของ”JCPP”  หรือแผนปฏิบัติการร่วมเพื่อสร้างสันติภาพแบบองค์รวม” ที่ฝ่าย”บีอาร์เอ็น” ตีความว่านี้คือ”สนธิสัญญา” ที่ต้องมีการ”ลงนาม” และต้อง”ปฏิบัติตาม” แต่ฝ่ายเทคนิคของไทยมองว่า”JCPP “ เป็นเพียง”ไกด์ไลน์” ที่ใช้ในการ”พูดคุย” เท่านั้น ที่ ปฏิบัติได้ทั้งสองฝ่าย ก็ว่าไป  ที่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่เห็นด้วย  ก็ว่าไป ที่ สำคัญ “ฝ่ายไทย” ยังไม่มีการ”ลงนาม” ในแผน  JCPP “ ก็ เท่ากับยังไม่มี”เงื่อนไข” ในการ”ผูกมัด” ให้ต้องทำตามแผน แต่อย่างใด และนี้คือ”สภาพของการพูดคุย” ที่เป็นลักษณะ “นอนเตียงเดียวกันแต่ฝันลนละเรื่อง” ของ” ไทย” และ” บีอาร์เอ็น” เชื่อเถอะอีก 10 ปี ก็ไม่มีผลใดๆ และปัญหาความ”รุนแรง” ของ”จังหวัดชายแดนภาคใต้” ก็ไม่ได้มีผลผูกพันกับกรอบและเวลาของ”การพูดคุยสันติสุข” แต่อย่างใด เรื่องการแก้ปัญหา”ความรุนแรงในพื้นที่” เป็นเรื่องที่” กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า” ต้องมีทั้ง”ยุทธศาสตร์” และ”ยุทธวิธี” แบบใหม่ ไม่ใช่”ย่ำเท้าอยู่กับที่” อย่างที่เป็น…….และที่ “ตอกย้ำ” ชัดเจนถึงความ”ล้มเหลว” ของการ”ดับไฟใต้” ล่าสุดคือ การประกาศ”ต่ออายุการใช้ พรบ.ฉุกเฉิน” โดย “รัฐบาล” ต่ออายุ พรก.ฉฉ.ไปอีก 3 เดือน เป็นการต่อ พรก .ฉุกเฉิน” ครั้งที่ 75 นับตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมา โดยไม่มีการลดพื้นที่ของ”พรก.ฉุกเฉิน” เพราะไม่มีพื้นที่ไหน”ปลอดภัย” ยกเว้น”บีอารเอ็น” ไม่ก่อเหตุ เพราะเอาไว้เป็น”พื้นที่หลบซ่อน นอนพัก”…..

@เรื่อง”หมอกควัน” หรือ”มลพิษ”จาก”พีเอ็ม 2.5 ที่ภาคใต้ยังไม่”รุนแรง” แต่เรื่อง”ภัยแล้ง” กลายเป็น”ภัยคุกคาม” ผู้เป็น”เกษตรกร”ทั่วทั้งภาคใต้  เห็นภาพของ”สวนทุเรียน” ที่  จ.สงขลา ที่ จ.ตรัง  และแม้แต่ ที่ อ.เบตง จ.ยะลา ซึ่งเป็นพื้นที่ ใน”หุบเขา” ที่มีความ”ชุ่มชื้น” แต่”ต้นทุเรียน” ยืนตายยกสวน เพราะ”ขาดน้ำ” เห็น”น้ำตารินอาบสองแก้ม” ของ”เกษตรกรเจ้าของสวน” ก็ได้แต่ “สะทกสะท้อน” ใน”หัวอก” เพราะนั้นหมายถึงการ”หมดตัว” และความ”เสดสา” ที่ เขาได้รับ และ เชื่อว่า”ภัยแล้ง” ครั้งนี้ต้อง”ส่งผล” ถึง”เกษตรกร”ทุก”ภูมิภาค” ของ”ประเทศไทย” ก็ต้องถามว่า “รัฐบาลเสดสา”เอ้ย”เศรษฐา” มีการ วางแผน ในการ”รับมือ” กับ”ภัยแล้ง” อย่างไรบ้าง เพื่อเป็นการ”ช่วยเหลือ” บรรดา”เกษตรกร” ที่ได้รับผลกระทบ เพราะ เชื่อว่า ผลกระทบกับ”ภัยแล้ง”เป็น”วงกว้าง” และ กระทบกับ”ผลผลิต” ของภาคการเกษตรในปีนี้ อย่าง แน่นอน และ นั่นหมายถึง ต้องกระทบถึง”รัฐบาล” ทั้งในเรื่อง”เศรษฐกิจ” และ” สังคม”……และที่ต้องการเห็นคือ” เสนาบดี” กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อย่าง “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” ได้เข้าไป ช่วยเหลือ ดูแล” เกษตรกร” ทั้งใน”ระยะสั้น” และ”ระยะยาว” อย่างไร กับ ผลกระทบจาก”ปัญหาภัยแล้ง” เพราะ ลำพัง โครงการ”ค่าปุ๋ยคนละครึ่ง” เพื่อช่วยลด”ต้นทุน” ในการทำการ”เกษตร” ของ”เกษตรกร” น่าจะไม่เพียงพอ เพราะต่อให้”มีปุ๋ย” มี”ยา” มี”น้ำมัน” แต่ถ้าไม่มี”น้ำ”เพียงอย่างเดียว ก็เหมือน”มอเตอร์ไชด์” ที่ไม่มี”หัวเทียน” นั้นคือ”จอดสนิท” นั่นเอง   ส่วนเรื่องที่ “เสนาบดี” กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งแก้ไข ยกเลิก”กฎข้อบังคับ”ในการ”ทำประมง” การขยายพื้นที่ของ”ประมงชายฝั่ง” เป็นเรื่องที่ดี เพราะช่วยให้”อาชีพประมง” ที่เป็น”อาชีพแต่บรรพบุรุษ” ของประเทศไทยจะไม่”สูญหายตายจาก” เพื่อธำรงไว้ถึงคำโบราณที่ว่าประเทศไทย”ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว” แต่เรื่องการช่วยเหลือ “ชาวประมง” ในเรื่องของ”น้ำมันราคาถูก” นั้น “โดยข้อเท็จจริง “รัฐบาล” ที่ผ่านมา มีการ”จัดสรร” น้ำมันราคาถูกที่เรียกว่า”น้ำมันเขียว” ให้ชาวประมงอยู่แล้ว  แต่มีการ”ทุจริต”จาก “ส่วนเกี่ยวข้อง  โดยการนำ”น้ำมันเขียว” มา”ขายบนฝั่ง” ให้กับ”ผู้ต้องการ” เพื่อทำ”กำไร” ดังนั้นเรื่อง”น้ำมันราคาถูก” เพื่อช่วยเหลือ”ชาวประมง” ต้องช่วย”ชาวประมง” จริงๆ ไม่ใช่เป็นการ”ค้าน้ำมันเถื่อน” อย่างที่เกิดขึ้น ทุกยุคทุกสมัย   เปล่า ไม่ใช่ “เจ้าหน้าที่”ตามไม่ทัน”กลโกง” ของ”นายทุน” ใน”สมาคมประมง” เพียงแต่ เป็นการ”สมรู้ร่วมคิด” เพื่อการหา”ผลประโยชน์ร่วมกัน” ระหว่าง” นายทุน” กับ”เจ้าหน้าที่”ผู้เกี่ยวข้อง เท่านั้น เรื่องนี้ต้อง”ป้องกัน”…..

@เรื่อง”ยาบ้า 5 เม็ด” ที่”ผู้เสพ” เป็น”ผู้ป่วย” กลายเป็น”ปัญหาใหญ่” ของ”สังคม” ในการ”อภิปรายฯ”ของ”ฝ่ายค้าน” นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว “ เสนาบดี กระทรวงสาธารณสุข  ก็ได้ฟัง เสียงไม่เห็นด้วยจาก” สส.ฝ่ายค้าน ไปแล้ว  แต่ อยากให้”เสนาบดี” ลงพื้นที่”เดินสาย” มา”รับฟัง” จากปากของ”ประชาชน” ก็จะได้รู้ว่า เรื่อง”5 เม็ด” ผู้เสพ”เป็น”ผู้ป่วย” มีแต่ เสียงไม่เห็นด้วย และ”ก่นด่า” เจ้าของนโยบาย ทั้งบ้านทั้งเมือง  ล่าสุด “คณะทำงานแก้ไขปัญหายาเสพติด” ของ”กระทรวงยุติธรรม” ที่มี”พ.ต.อ.ทวี สองส่อง “เป็น”เสนาบดี” ลงพื้นที่ พบปะกับ”ตำบลอาสาแก้ปัญหายาเสพติดภาคประชาชน”ที่ จ.สตูล ผู้นำ”ท้องถิ่น-ท้องที่” ต่าง ไม่เห็นด้วยทั้งเรื่อง “5 เม็ด”ผู้เสพเป็น”ผู้ป่วย” และเรื่อง”กัญชา” เรื่อง”กระท่อม” ที่ต้องการให้นำกลับไปเป็น”ยาเสพติด” เช่นเดิม ในทาง”การเมือง” วันนี้”เพื่อไทย” ทั้ง”ติดลบ” และ”ติดหล่ม” ใน เรื่องของ”ยาเสพติด” ที่มี นโยบายไม่”โดนใจ” ประชาชน และความ”ล้มเหลว” ในการ”ป้องกัน และปราบปราม “ยาเสพติด” เอ้า  นักการเมืองคนไหน ที่ขึ้นเวที”หาเสียง” แล้ว”ตะโกน” บอกกับ”ประชาชน”ว่า”เพื่อไทยมายาเสพติดหมดไป” ยกมือขึ้น ให้ประชาชน “เห็นหน้า” ชัดๆ …….

@ก็ได้แต่”เห็นใจ” กับความ พยายามของ”เสนาบดีกระทรวงยุติธรรม” พ.ต.อ.ทวี สองส่อง ในการ”เข็นครกขึ้นเขา” กับการแก้ปัญหา”ยาเสพติด” เพราะหากประเด็น”5 เม็ด” ผู้เสพเป็น”ผู้ป่วย” ตำรวจจับ “ส่ง”ฟ้องศาล” และถูก”ปล่อยตัว” กลับบ้านเพื่อการ”บำบัด” แต่ ขาดทั้ง “เจ้าหน้าที่” และ”สถานที่ในการ”บำบัด” คนเสพที่เป็น”คนป่วย” ก็กลับไปเป็น”ผู้เสพ” และ”ผู้ขายรายย่อย” ในชุมชนในหมู่บ้าน และ ความ”ศรัทธา” ในการร่วมมือเพื่อแก้ปัญหายาเสพติดก็”หดหาย” กับ”ขบวนการของกฎหมาย”.….ใช่นะ วิธีการเดิมที่ได้ผล คือการส่ง”ผู้เสพ” ผู้ค้ารายย่อย ที่”เม็ดเดียว” ก็”ติดคุก” เป็นการ”บำบัด” ที่ได้ผล คน”ติดยา” ทุกคนที่”ติดคุก” เลิกยาเสพติดได้ เพราะ”ในคุก” ไม่มี”ยาเสพติดขาย”เพื่อให้เสพ แต่ หลังจาก”พ้นคุก” และ กลับเข้า”ชุมชน” เมื่อ”ว่างงาน” ไม่มีงานทำ ไม่มี”เงินใช้” คนเหล่านั้น ก็กลับสู่”วงจรเดิมๆ” คือ” ขายยา” และ”เสพยา” ขบวนการ”ต้นน้ำ” คือจับ” กลางน้ำ”คือ”ติดคุก” และหายจากการ”ติดยา” เมื่อมาถึง”ปลายน้ำ” คือ”ว่างงาน” ไม่มี”เงินใช้” ก็กลับเข้าสู่”วงจรเดิม” เป็นการ”ตกม้าตายที่ปลายน้ำ” ถามว่า จะแก้อย่างไร…..ตัวเลขจาก “กระทรวงยุติธรรม” นักโทษใน เรือนจำ ทั้งหมด 300,000 คน มีคนที่จบการศึกษาสูงกว่า”ปริญญาตรี” ต้องโทษ ไม่ถึง 1 %  ส่วนคนจบ”ปริญญาตรี” ผู้ต้องโทษประมาณ 6,000 คน และคนที่เรียนหนังสือไม่จบ”ภาคบังคับ” มีการต้องโทษ ในเรือนจำถึง 75 % นี้แสดงให้เห็นว่าเรื่อง”การศึกษา” มีส่วนในการทำให้มีการ”ทำผิด” เพราะไม่มี”ปัญญา” เพราะขาดการศึกษา ใช่หรือไม่ และถ้าใช่ “เสนาบดี” กระทรวงศึกษาธิการ” พล.ต.อ. เพิ่มพูน ชิดชอบ” จะมีความ”คิดอ่าน” เพื่อแก้ปัญหานี้อย่างไร…..

@วันก่อน “ตำรวจไซเบอร์” นำกำลังเข้า “จับกุม” บ่อนไพ่”และ”ไฮโล” ในพื้นที่ ต.สมหวัง อ.กงหรา จ.พัทลุง ประเด็นที่น่า”สังเวช” คือ วันนี้เรื่องการ”จับบ่อน” ทำไม่ต้อง”ถึงมือ” ของ”ตำรวจไซเบอร์” ประเด็นที่สอง”คุณยาย” เจ้าของ”บ่อนไพ่ผ่อง” บอกกับ”นักข่าว” ว่า จ่ายแล้ว ชั่วโมงละ 500 บาท ทำไมจึงมา จับอีก และนี้ก็”ฝีมือ” ตำรวจ”ไซเบอร์” ที่เข้าจับกุมผู้ปล่อย”เงินกู้ดอกโหด” ที่ ต.เขาปู่ อ.ศรีบรรพต จ.พัทลุง ก็ถามว่า ถ้าเรื่อง”จิ๊บๆ” อย่างนี้ ตำรวจ ท้องที่ ทำไม่ได้ ต้องให้เป็น”หน้าที่”ของ”ตำรวจ”ไซเบอร์” แล้วจะมี”สภ. “ ต่างๆ ไว้ทำอะไร “บ่อน “ ก็จับไม่เป็น” กับ”แป้ง นาโหนด” ผู้หลบหนีเรือนจำชื่อดัง ก็ไม่กล้าจับ เอ้า พล.ต.ต. ณกรณ์ กาญจนาภรณ์ ผบก. ภ.จว.พัทลุง รับไป “พิจารณา”ด้วย ว่า ตำรวจ ท้องที่ ถ้ามีแล้ว ไม่จับผู้ที่”ทำผิดกฎหมาย” จะให้ไปทำหน้าที่อะไร…..

@เรื่องของ”ด่านศุลกากรสะเดา” แห่งใหม่ ที่ลงทุนก่อสร้างไปหลายร้อยล้านบาท แต่กลายเป็น” สิ่งปลูกสร้างตาบอด” เพราะไม่มี ถนนที่ใช้ในการ “เชื่อมต่อ” จาก”ที่ทำการ ไปยัง ถนนสายหลักของ อ.สะเดา จ.สงขลา และไม่มีถนนในการ”เชื่อมต่อ” กับ “ด่านศุลกากร” ของประเทศ”มาเลเซีย” ล่าสุด “สมนึก พรหมเขียว” ผวจ.สงขลา เรียกประชุม หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อการ”ตัดถนน” การ”เวนคืน” ที่ดินของ”ชาวบ้าน” เพื่อให้มี”ถนนเชื่อมกับ”สายหลักกาญจนวนิช” ซึ่งคงต้องใช้เวลานายนับปี กว่าจะ”สำเร็จ” แต่ ถ้าไม่สามารถ” เจรจา” กับ”ประเทศมาเลเซีย” ให้เขา”ตัดถนน” เพื่อมา”เชื่อมต่อ” บริเวณชายแดนไทยได้ ก็ยังไม่สามารถใช้”ประโยชน์” อยู่ดี เรื่องนี้ จำได้ว่า หลังรับตำแหน่ง”นายกรัฐมนตรี” เศรษฐา ทวีสิน  บินด่วนมา พบปะ และ เจรจา กับ นายรัฐมนตรี มาเลเซีย นี่ก็ผ่านไปแล้ว 7 เดือน แต่ยังมีมีคำตอบจาก” นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย” ว่า เขาพร้อมที่จะ”ตัดถนน” เพื่อให้เรา”เชื่อมต่อ”ได้หรือไม่ ถ้าเขา”ไม่พร้อม” หรือ”ไม่ทำ” เพราะไม่ใช่ความ”เดือดร้อน” และ”ความต้องการ”ของเขา  สุดท้าย”ด่านศุลกากรสะเดา” ที่”ลงทุนสร้าง” ก็อาจจะกลายเป็นที่”ทำรังของนกอีแอ่น” เพื่อที่จะให้”กรมศุลกากร” เจ้าของโครงการที่”สร้างโดยไม่คิดให้รอบคอบ” ได้เก็บ”ค่าภาคหลวง” เข้ารัฐเท่านั้นเอง……

@เทศกาลสงกรานต์ ของ ปี 2567 เหมือน”พระมาโปรด” สำหรับ เมืองท่องเที่ยว ในภาคใต้  ที่มีการ”จองที่พัก” เต็มทุกเมือง โดยเฉพาะ”เทศบาลสำนักขาม” ชายแดนไทย-มาเลเซีย อ.สะเดา จ.สงขลา ที่ พ.ต.อ.สุรจิต เพชรจอม ผกก. สภ.สะเดา ต้องสั่งให้”ตำรวจ” เข้มงวด อย่าให้มีการทำผิดกฎหมาย ในสถานบันเทิง ที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก   ส่วนที่ หาดใหญ่ พ.ต.อ.ภูมิ บาลทิพย์ “ ผกก. สภ. หาดใหญ่ จ.สงขลา ต้อง เหนื่อยหน่อย เพราะนอกจาก สถานบันเทิงมากมาย ที่ต้อง”เข้มงวด” แล้ว ยังมีงาน”อีเว้นท์” ของ”เทศกาลสงกรานต์” กลางใจเมือง เพื่อสร้าง”สีสันบันเทิง” ใน เทศกาลสงกรานต์ อีกต่างหาก แต่ก็”คุ้มค่า” ถ้าเห็นถึงประโยชน์”ส่วนรวม” ที่จะมี”เม็ดเงิน”เป็น”พันล้าน” สะพัดในเทศกาลสงกรานต์ใน จ.สงขลา……

@เรื่องของ”เมืองต้นแบบแห่งอนาคต” หรือ”นิคมอุตสาหกรรมจะนะ” จะมีการ”เดินหน้า” ได้หรือไม่ เพราะหากจะเอา”ความคิดเห็น” จากการทำเวทีรับฟังความคิดเห็นที่”สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ” ( สศช ) ว่าจ้างให้ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ “ ( มอ.) เป็นผู้ จัดทำ ก็เป็นการ”ปฏิเสธ” ว่าไม่เอา”นิคมอุตสาหกรรมใหม่” แต่ให้ไปทำเรื่อง”อุตสาหกรรม” ที่พื้นที่ซึ่งรัฐจัดให้แล้ว เช่น “นิคมอุตสาหกรรมฉลุง” อ.หาดใหญ่ หรือ”เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่ อ.สะเดา จ.สงขลา และการสร้าง ท่าเรือน้ำลึก ก็ให้ พัฒนาท่าเรือที่มีอยู่แล้ว ซึ่งเป็นความ”คิดเห็น” ที่ไม่”สอดคล้อง”กับ”ข้อเท็จจริง” ของการ พัฒนา ซึ่งในวันอังคาร ที่ผ่านมา”ตัวแทนของชาวจะนะ” จ.สงขลา ที่ต้องการเห็น”การพัฒนา” ในพื้นที่ ได้เดินทางไป”ยืนหนังสือ” กับ”เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี เพื่อให้ พิจารณา เพื่อ”ขับเคลื่อน” เมืองต้นแบบแห่งอนาคต หรือ”นิคมอุตสาหกรรมจะนะ” อีกครั้ง ก็ต้องติดตามดูว่า ” เศรษฐา ทวีสิน” มีความเห็นในเรื่อง “นิคมอุตสาหกรรมจะนะ” ที่เป็น”เอกชน” เป็นนผู้ลงทุนทั้งหมด อย่างไร เพราะ “เสี่ยนิด ” ลงพื้นที่”ภาคใต้”หลายครั้ง แต่ไม่เคย”หยิบยก” เรื่อง”นิคมอุตสาหกรรมจะนะ” มา พูดถึง ทั้งที่เป็น โครงการ ในการ”พัฒนา สงขลา-ปัตตานี”  เพื่อ”พัฒนาเศรษฐกิจ” ของ”จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่สามารถ ทำได้เร็ว และทำได้ง่าย กว่า”แลนด์บริดจ์” เป็นไหนๆ มี”อะไรในกอไผ่” สำหรับโครงการนี้ หรือเปล่าเพราะมีผู้ตั้งข้อสงสัย ……แล้วพบกันใหม่ ในวันศุกร์หน้า สวัสดีครับ

—————————————————————–

ไชยยงค์ มณีพิลึก

////////////////////////////////////////////////////

ห่วงใย.   พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/  ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 และคณะเยี่ยมเจ้าหน้าที่ อส.ทพ.ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ความไม่สงบใน อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ที่ ร.พ.นราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมือง จ.นราธิวาส

////////////////////////////////////

อบรม ทบทวน.   พล.ท.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ แม่ทัพน้อยที่ 4 เป็นประธาน เปิดอบรมเชิงปฏิบัติการ ทบทวนงานการเมือง และ ภาคประชาสังคม เพื่อนำพาจังหวัดชายแดเนภาคใต้สู่สันติสุข ณ ห้องประชุม กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า

////////////////////////////////////////////

พูดคุยสันติสุข.   พล.ต.ไพศาล หนูสังข์ รองแม่ทัพภาคที่ 4/ รอง ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ให้การต้อนรับ และร่วมประชุมกับ ฉัตรชัย บางชวด รอง เลขาธิการ สมช. หน.คณะพูดคุยสันติสุข ในการพบปะ หารือ กับหน่วยขึ้นตรง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เพื่อการขับเคลื่อนการพูดคุยสันติสุข ณ ห้องประชุม กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร อ.ยะรัง จ.ปัตตานี

//////////////////////////////////////////////

กำลังใจ.   วิสันต์ ประเสริฐศรี ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. พร้อมเจ้าหน้าที่เยียวยา เข้าเยี่ยม เจ้าหน้าที่ทหาร ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการความไม่สงบในพื้นที่ ณ ร.พ.ปัตตานี อ.เมือง จ.ปัตตานี

///////////////////////////////////////////////////

ผู้ใหญ่ใจดี.   กนกรัตน์ เกื้อดิจ ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. เป็นประธานเปิดกิจกรรมมอบเสื้อรายอและร่วมละศีลอดให้กับเด็กกำพร้าและเด็กด้อยโอกาสในพื้นที่ จ.นราธิวาส ที่ ศอ.บต.ร่วมกับกองทันพัฒนาการศึกษาและการกุศลสุไหงโก-ลก จัดขึ้น เพื่อสนับสนุนโครงการดังกล่าว ณ อาคารเอนกประสงค์ เทศบาลเมืองาไหงโก-ลก จ.นราธิวาส

////////////////////////////////////////////

ให้กำลังใจ.  รอมดอม หะยีอาแว ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. พร้อมเจ้าหน้าที่เยียวยา ลงพื้นที่ เยี่ยมให้กำลังใจ  ผู้นำท้องถิ่น และ ประชาชน ที่ได้รับบาดเจ็บ จากเหตุการความไม่สงบ ที่ ร.พ.นราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมือง จ.นราธิวาส

///////////////////////////////////////////////

สืบสานพุทธศาสนา.   ปิยะวัฒน์ วัฒนวรางกูร ,นันทพงศ์ สุวรรณรัตน์ รองเลขาธิการ และ นพ.สมหมาย บุญเกลี้ยง ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต.และเจ้าหน้าที่ ร่วมทำบุญตัดบาตรอาหารแห้ง  แด่สามเณร 81 รูป พระภิกษุ 7 รูป จาก 30 วัดใน 5 อำเภอของ จ.ยะลา ณ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ อ.เมือง จ.ยะลา

/////////////////////////////////////////

วางพวงมาลา.   สมนึก พรหมเขียว ผวจ.สงขลา พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ จ.สงขลา วางพวงมาลาถวายราชสักการะ พระอนุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ายุคลฑิฆัมพร กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์ เนื่องในวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ ณ ลานอนุสรณฯ บริเวณเขาน้อย อ.เมือง สงขลา

///////////////////////////////////////

อนาคตสงขลา.   นิพนธ์ บุญญามณี อดีต รมช.มหาดไทย ,วทันยา บุนนาค อดีตประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมืองพรรค ปชป. สรรเพชญ บุญญามณี สส.เขต 1 สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเวทีระดมความคิดเห็นในหัวข้อ อยากเห็นสงขลาเป็นแบบไหน ณ ที่ทำการสาขาพรรคฯ เขต 1  อ.เมือง จ.สงขลา

////////////////////////////////////////

เข้าเยี่ยมคารวะ.   สมนึก พรหมเขียว ผวจ.สงขลา ให้การต้อนรับ กงสุลใหญ่มาเลเซีย ประจำจังหวัดสงขลา ที่เข้าเยี่ยมคารวะ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและความร่วมมือในการจัดงาน PAn SOngkhla Haah ระหว่างวันทีา 19-21 เม.ย. ในพื้นที่ ด่านนอก สะเดา นาทวี โดยมี พ.ต.อ.สุรจิต เพชรจอม ผกก.สภ.สะเดา วิเชษต์ สายกี้เส้ง นายอำเภอสะเดา ร่วมพูดคุย ณ ห้องทำงาน ผวจ.สงขลา

////////////////////////////////////////////

ตรวจรับอาคาร.  เฉลิมชัย ครุอำโพธิ์ คหบดี ธุรกิจโรงโม่หินเขาบันไดนาง ผู้บริจากเงินก่อสร้างอาคารทันตกรรมครุอำโพธิ์-คงสุวรรณ จำนวน 30 ล้านบาท ได้มอบอาคารให้กับโรงพยาบาลสิงหนครเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยมี นพ.นครินทร์ ฉิมตระกูลประดับผอ. รพ.สิงหนคร อ.สิงหนคร จ.สงขลา เป็นผู้รับมอบและจะใช้อาคารดังกล่าวตามวัตถุประสงค์ต่อไป

///////////////////////////////////////////////////

วอลเลย์บอลชายหาด.   ไพเจน มากสุวรรณ์ นายกองค์การบริหารจังหวัดสงขลา  เป็นประธานเปิดการแข่งขันวอลเลย์บอลชายหาด  ณ ริมหาดสมิหลา อ.เมือง  จ.สงขลา

//////////////////////////////////

เยี่ยมผู้ต้องขัง.   พ.ต.อ.ทวี สองส่อง รัฐมนตรียุติธรรม ลงพื้นที่ ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม จ.สตูล และเยี่ยมผู้ต้องขังเรือนจำจังหวัด พร้อมมอบอินทผาลัมให้กับผู้ต้องขังที่นับถือศาสนาอิสลาม โดยมี รอง ผวจ.สตูล และ ผอ.เรือนจำ และหน่วยงานกระทรวงยุติธรรมในพื้นที่ให้การต้อนรับ

///////////////////////////////////////////

รดน้ำขอพร.   ตัวแทนฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัทหาดทิพย์ จำกัด (มหาชน.) รดน้ำขอพร เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ จาก ไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล นายกสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย ณ สมาคมหนังสือพิมพ์ฯ ถนนไทยอาคาร อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

////////////////////////////////////////////////

เยี่ยมชม. อมร ชุมช่วย นายอำเภอเบตง จ.ยะลา  ลงพื้นที่ เข้าเยี่ยมชม แปลงเกษตรผสมผสาน ที่มีการปลูกพืชผัก ผลไม้ หลากหลายชนิด โดยเฉพาะแตงโมที่ปลอดสารพิษ ปลูกในโรงเรือน และเป็นการปลูกแตงโมนอนเปล แตงโมยังมีคุณภาพดี สด รสชาติดี หวานกรอบ ฉ่ำ เนื้อแน่น อร่อย แถมยังมีแตงโมหลายสายพันธุ์ให้เลือกจองเลือกซื้อ และเป็นเจ้าแรกในอำเภอเบตง ของนายวีระวัฒน์ วัฒนายากร ณ หมู่ที่ 2 ต.ตาเนาะแมเราะ อ.เบตง จ.ยะลา

////////////////////////////////////////////////

ต้อนรับ.  มะสดี หะยีปิ นายกเทศมนตรีตำบลท่าสาป อ.เมืองยะลา จ.ยะลา ประธานและคณะกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนกีฬาจังหวัดยะลา ขอต้อนรับและแสดงความยินดีกับ ร.อ.บุญพบ ประพฤติ ที่มารับตำแหน่งเป็น ผอ.โรงเรียนกีฬาจังหวัดยะลา ณ ร.ร.กีฬาจังหวัดยะลา ต.ท่าสาป อ.เมือง จ.ยะลา

////////////////////////////////////////////

สะพานบุญ.  สือนะ ดีสะเอะ อุปนายกสมาคมคนพิการภาคใต้/ประธานสภาคนพิการทุกประเภท จ.ยะลา ร่วมกับเครือข่ายสมาคมคนพิการภาคใต้ ส่งมอบอินทผลัมและซองบริจาค(ซากาต)แก่คนพิการ,เด็กกำพร้า,ผู้ยากไร้และผู้ด้อยโอกาส ในพื้นที่ ต.กาตอง อ.ยะหา / ต.บาละ อ.กาบัง/ต.โกตาบารู อ.รามัน จ.ยะลา และ ในพื้นที่ อ.เมืองปัตตานี / ต.แหลมโพธ์ อ.ยะหริ่ง / ต.ตรัง อ.มายอ /ต.กอลำ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี

//////////////////////////////////////////////////

กีฬาเป็นยาวิเศษ.    ชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว  สส.เขต 4  จ.สงขลา พรรคพลังประชารัฐ  เป็นประธานเปิดการแข่งกีฬาประจำตำบลเพื่อเป็นการสร้างความสามัคคีขึ้นในหมู่บ้าน  ณสนามกีฬาโรงเรียนบ่อประดู่  ต. วัดจันทร์  อ.สทิงพระ  จ.สงขลา

/////////////////////////////////////////////