@เรื่องที่”รุมเร้า” รัฐบาลผสมที่มี”เศรษฐา ทวีสิน” เป็น”นายกรัฐมนตรี” ทำหน้าที่”กุมบังเหียน” นอกจากเรื่อง”เศรษฐกิจ” ที่ยังคง”ง่อนแง่น” และเรื่อง”การเมือง” ที่อยู่ระหว่างการ” ปรับ ครม.” เพื่อเปลี่ยน” เสนาบดี” จำนวนหนึ่งของ” เพื่อไทย” ที่เป็น” เสนาบดี”ที่ถูกขนานนามว่า”โลกลืม” รวมทั้งการ”ดิ้นรน” เพื่อ “ขับเคลื่อน” โครงการ”ดิจิตัลวอลเล็ต” หรือ โครงการ”แจกเงิน” ให้กับ”ประชาชนเพื่อ”ใช้จ่าย” คนละ 10,000 บาท ที่ยัง”ไม่ง่าย” เพราะมี”เงื่อนไข” และ”ขวากหนาม” ที่เป็นเครื่อง”กีดขวาง” มากมาย ยังมีเรื่องของ”ความมั่นคง” ที่เกิดจากการ”สู้รบ” ระหว่าง”กลุ่มชาติพันธุ์” กับ”รัฐบาลเมียนมา” ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ที่ รุนแรงขึ้นทุกขณะ   ซึ่งเป็นปัญหา ทั้งเรื่อง”ความมั่นคง และเรื่องเศรษฐกิจ”เรื่อง”ความปลอดภัย” ของ”ประชาชน”ในพื้นที่ และเรื่อง”อพยพ” ของชาวเมียนมา ที่เป็น”ภาระหนักอึ้ง”ของ”ประเทศไทย” ที่ ผู้นำประเทศต้องมีความ”ฉับไว”ในการ ตัดสินใจกับปัญหาที่เกิดขึ้น ท่ามกลางกระแสการ”เปลี่ยนตัว” ของ”เสนาบดี” กระทรวงกลาโหม จาก”สุทิน คลังแสง” เป็น”เศรษฐา ทวีสิน” ที่จะ”ควบ” ตำแหน่งทั้ง”สร. 1 และ”สนามชัย 1”  ด้วยตนเอง หรือ กรณี”สงคราม” ที่ชายแดน “แม่สอด” จ.ตาก” จะเป็น”บททดสอบ”ความรู้ ความสามารถของ” เศรษฐา ทวีสิน” ว่าจะเหมาะกับตำแหน่ง”  สนามไชย 1 “ หรือ “รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม” หรือไม่ แต่ที่ผ่านมา สถานการณ์”ชายแดนแม่สอด” บอกให้สังคมรู้และเห็นว่า “เศรษฐา ทวีสิน” ในฐานะ”นายกรัฐมนตรี” ยัง”งุ่มง่าม” ใน”ปฏิบัติการ” ในงานด้านความมั่นคงที่”ล่าช้า” กว่า “สถานการณ์” ที่เกิดขึ้น……

@ซึ่ง”สอดคล้อง” กับ”สถานการณ์” ความ”รุนแรง” ของ “จังหวัดชายแดนภาคใต้” ที่มีเหตุ”รุนแรง” เจ้าหน้าที่รัฐ ตายแบบ”ใบไม้ร่วง” ตั้งแต่ต้นปี 2567 เป็นตนมา แต่”เสนาบดี” กระทรวงกลาโหม และ “นายกรัฐมนตรี” ไม่มีใครที่”พูดถึง” ความ”สูญเสีย” ที่เกิดขึ้น กับ “เจ้าหน้าที่รัฐ” ใน จังหวัดชายแดนภาคใต้…..ข่าวว่าการ”ปรับครม.” ที่จะมีขึ้นในเดือนพฤษภาคม นี้ จะมีการเอา”ขุนทหาร” เข้ามาเป็น ผู้รับผิดชอบงานด้านความมั่นคงของประเทศเพื่อสร้าง”ผลงาน” ให้กับ”รัฐบาล” ที่”เสียรางวัด”ไปแล้ว 7 เดือน ที่ปล่อยให้”ไฟใต้” ลุกโพลง และไม่มีทีท่าว่าจะ”เบาลง”  ข่าวว่า”พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ์” หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะ”รีเทิร์น” กลับมานั่งเก้าอี้”รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง”อีกครั้ง  ถ้าเป็นเพียง”ข่าวปล่อย” ก็”เจ๊ากัน” แต่ถ้าเป็นเรื่องจริง ก็ขอ”ติเรือทั้งโกลน”ว่า ถ้า”รัฐบาล” ให้”พล.อ.ประวิตร” วงศ์สุวรรณ” หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มาทำหน้าที่”รองนายกรัฐมนตรี” เพื่อรับผิดชอบงานด้าน”ความมั่นคง” ก็ เชื่อว่า ไม่ได้ทำให้”สถานการณ์”ด้านของ”ความมั่นคง” ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ดีขึ้น เพราะ” บิ๊กป้อม” เป็น” รองนายกรัฐมนตรีความมั่นคง” มาแล้ว 9 ปี ในสมัยที่”บิ๊กตู่” เป็น”นายกรัฐมนตรี” แต่ไม่ได้แก้ปัญหา”ไฟใต้” ให้”ยุติ”ลงได้แต่อย่างใด ถ้าเป็น”แม่ทัพ”ใน”สนามรบ” ก็เป็น”แม่ทัพ”ที่”พ่ายศึก” เมื่อ กลับมาเป็น”แม่ทัพ” เพื่อทำหน้าที่ในการ”ดับไฟใต้” อีกครั้ง เชื่อเถอะ” ผลลัพธ์” ไม่ต่างกัน เรื่องนี้ถ้า “คิดผิด” ทั้ง”นายใหญ่” ทั้ง”เสี่ยนิด” คิดใหม่ก็ยัง”ไม่สาย” แต่อย่างใด…..

@เห็นด้วยนะกับการที่”นายใหญ่” สั่งให้มีการ”ปรับครม.” เพราะ 7 เดือน ที่ผ่านไป เห็นชัดว่า “รัฐบาลผสม” ที่มี”เสี่ยนิด” เป็น”ผู้นำ” ยังไม่มีอะไรที่เป็น”ผลงาน” ที่เรียกว่า”เป็นชิ้นเป็นอัน” เอาเรื่องที่มี”ผลกระทบ” ต่อ”ปากท้อง” ของ”ชาวบ้าน” คือเรื่องของ”พลังงาน” ราคาน้ำมันที่ไม่มีการ”แก้ไข” ที่”ต้นเหตุ” มีแต่การเอาเงิน”ภาษี” ของ”ประเทศ” ที่เป็นของ ”ประชาชน” ไป”อุ้มราคาน้ำมัน” ไป”อุ้ม”ราคา”แก๊สหุงต้น” ไป”อุ้ม” ค่า”ไฟฟ้า” ซึ่งสรุปสั้นๆที่ ว่า “รัฐบาล” ที่มี”เสี่ยนิด” เป็น”ผู้นำ” ก็เดินตาม”รอยเท้า” ของ” รัฐบาล” “บิ๊กตู่” นั้นคือไม่กล้าที่จะ”แตะต้อง” กลุ่มทุน”พลังงาน” ในประเทศนี้แต่อย่างใด…..เรื่องของปัญหา” พลังงาน” ทางแก้ที่ถูกที่ควร” เสี่ยนิด” ต้อง”จับเข่า” คุยกับ” หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ “พีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาคย์” รองนายกรัฐมนตรี และ “เสนาบดี” กระทรวงพลังงาน  ถามให้ชัดว่า 7 เดือน ที่ผ่านมา ท่านมีการ”ศึกษา”เรื่อง”ข้อกฎหมาย” และ”ข้อเท็จจริง” ของโครงสร้างพลังงานของ”โรงกลั่น” ไปถึงไหน และจะมี”กำหนด” ในการ”รื้อโครงสร้าง” ของ”พลังงาน” เพื่อที่จะได้รู้ถึง”ข้อเท็จจริง” รู้ถึง”ต้นทุน” รู้ถึง”กำไร” ที่”กลุ่มทุน” ได้ไปจากความ”ทุกข์ยาก” ของ”ประชาชน” เพราะที่รู้ๆกันคือ ปีนั้น “โรงกลั่น” ได้กำไรไปกี่หมื่นล้าน ปีนี้ “โรงกลั่น”ได้กำไรไปกี่แสนล้าน “คนไทย” รู้เพียงว่า “กำไร” ที่”โรงกลั่น” แสดงให้ สังคมรับรู้ ล้วนเป็นการ”ล้วงไป” จาก”กระเป๋า” ของประชาชนทั้งสิ้น….. ทางรอดของ”ประเทศไทย” และทางรอดของ”ประชาชน” คือ “รัฐบาล” ต้องมีการ”รื้อ” โครงสร้างราคาน้ำมัน ต้องรู้”ต้นทุน” และ”กำไร” ของ”โรงกลั่น” และต้องมีการ”กำหนดราคา” ที่”สะท้อน”ถึง”ข้อเท็จจริง” และ เลิก”อุ้ม” ทั้งราคาน้ำมัน ราคาแก๊ส และ ราคาไฟฟ้า เพื่อให้ ประชาชน อยู่กับความเป็นจริง  และหากจะช่วยเหลือ ก็ต้องช่วย”กลุ่มเปราะบาง” หรือ”อาชีพ” ที่ได้รับ”ผลกระทบ” เป็น กลุ่มๆ ไป…..

@กลับมาที่โครงการ”ดิจิตัลวอลเล็ต” อีกครั้ง หลังจากที่มีการประกาศว่า “ร้านค้า” ที่เข้าร่วมโครงการนี้ได้ มี”ร้านสะดวกซื้อ” ที่”ครองตลาด” ของประเทศไทย ทุก ตำบล ทุก ชุมชนเมือง ความ”รู้สึก” ที่ดีๆ ของ “ประชาชน” ก็เปลี่ยนไป  ไม่ว่า”รัฐบาล” จะ” ตั้งใจ”หรือไม่”ตั้งใจ” แต่ ทุกคนต่าง”เข้าใจตรงกัน” ว่า โครงการ”ดิจิตัลวอลเล็ต” เป็นโครงการที่ต้องการสร้าง”กำไร” ให้กับ”เจ้าสัว” เจ้าของร้าน”สะดวกซื้อ” เพราะเป็น”ร้านค้า” ที่ได้เปรียบกว่าทุกร้านค้า เพราะมี”ทุน” มี”สินค้า” มีความ”สะดวก” สำหรับ “ประชาชน” และมี”ความพร้อม” ในเรื่องของ”เงินดิจิตัล”ในขณะที่”ร้านค้า” ใน ตำบล หมู่บ้าน ชุมชน  ต่าง ไม่มี”ทุน”ไม่มี”ความพร้อม” ที่จะทำตาม”กติกา”ของโครงการ”ดิจิตัลวอลเล็ต” และ ถ้าลงพื้นที่”สอบถาม” เจ้าของ”ร้านค้า” ส่วนใหญ่”ส่ายหน้า” บอกว่า”อยากได้” แต่”ไม่พร้อม” และ”ไม่เข้า” ร่วมโครงการ เพราะ”ทุนรอน” ที่ต้องใช้กับโครงการนี้มี”ไม่พอ” ดังนั้นที่”เพื่อไทย” คิดว่า โครงการนี้จะ”โกยคะแนนเสียง” จาก”ประชาชน” เพื่อการเอาชนะ”ก้าวไกล” ระวังยิ่ง”เดินหน้า” ยิ่งทำให้”คะแนนหดหาย” เพราะผู้ที่เป็น”ร้านค้า”ใน หมู่บ้าน ตำบล ต่าง ไม่ได้รับ”อานิสงส์” จากการเข้าร่วมโครงการเงิน”ดิจิตัลวอลเล็ต” แต่อย่างใด นี่ก็เป็นเรื่องที่ถ้า”คิดผิด” ก็”คิดใหม่”ได้เช่นกัน……

@” เมื่อ”เลือดเข้าตา,หลังชนฝา” จึงทำให้”บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีต ผบ.ตร. ออกมา” ฟาดงวง ฟาดงา” ทั้งกับ “นายยกรัฐมนตรี”มีการ แจ้งความ ร้องทุกข์เพื่อเอาผิด ใน ม. 157 ว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และเลยไปถึงหน่วยงานของ “ปปช.” ในเรื่องของ “เด็กฝาก” และเรื่องที่”ไม่ชอบมาพากล” ใน ขบวนการ การปฏิบัติหน้าที่ของ”ปปช. มีการ”ลากถู” เอา “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐเข้าไปใน”หล่มน้ำเน่า” ที่เกิดขึ้นกับ”บิ๊กโจ๊ก” และ”สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” ถามว่า”คนไทย” ได้อะไรจากการออกมา”แฉแหลก” แจก”หลักฐาน”ของ”บิ๊กโจ๊ก” ในครั้งนี้   ก็คือได้”หูตาสว่าง” ได้รับรู้ถึงความ” สกปรกมอมแมม” ของหน่วยงานต่างๆ ทั้ง”สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” และ”องค์กรอิสระ” เพื่อที่จะได้เห็นว่า วันนี้”ประเทศไทย” มีปัญหาทั้งทาง”นิติรัฐ” และ”นิติธรรม” และเพื่อที่จะได้ช่วยกัน”ส่งเสียง” ให้”รัฐบาล” ไม่ว่าจะเป็น”นายกนิด” หรือ”นายใหญ่” ได้หันมาให้ความ”สนใจ” และทำการ”ปฏิรูป” องค์กรเหล่านี้อย่างเร่งด่วน ก่อนที่ “ประเทศไทย” จะมีความ”ล้มเหลว” ด้าน”นิติรัฐ” และ”นิติธรรม” จน”กู่ไม่กลับ” อันตรายนะ…..

@กลับมาดู สถานการณ์ความรุนแรงของ”ไฟใต้” ที่ยังมีความ”สูญเสีย” แบบ”ไม่จบไม่สิ้น”อาสาสมัครทหารพราน กลายเป็น”ผักเหนอะ”ของ”อาร์เคเค” เดือน เมษายน เพียงเดียว ทั้ง”ทหารพราน” และ”ทหารเขียว” เสียชีวิตไปแล้ว 5 ราย บาดเจ็บอีก จำนวนหนึ่งจากการ””ประกบยิง” ของ “แนวร่วม” ทั้งที่เป็น”มืออาชีพ” และกลุ่ม”หน้าขาว” ที่ได้รับการ”บ่มเพาะ” และ”ฝึกอาวุธ” และมีการ”สั่งการ” ให้รู้จักวิธีการ”ฆ่าคน” เพื่อเป็นการ”ทดลองงาน” ในขณะที่”ฝ่ายตรงข้าม” ไม่มีการ”สูญเสีย” และในการ”ปิดล้อม”จับกุม ส่วนใหญ่ก็ได้แต่”แนวร่วม” ที่เป็น”ปลายแถว” เรื่องนี้ “พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค” แม่ทัพภาคที่ 4 และ “ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 “ จะแค่”สั่งการ” หน่วยกำลังในพื้นที่อย่างเดียว น่าจะไม่ได้ผล  เพราะ”สั่งการ” มาแล้ว 2 ปี แต่ ผลที่ออกมายัง “เหมือนเดิม” คือ ไม่มีอะไรดีขึ้น การติดตาม”จับกุม” ผู้ก่อเหตุแม้จะได้ผล แต่ที่ได้ผลกว่าและ ประชาชน”ต้องการคือ”ต้อง”หยุดการก่อเหตุ”…..

@และในวันที่ 28-30 เม.ย. นี้ จะมีการ”พบปะ”เพื่อการพูดคุย” ระหว่าง”ประธานฝ่ายเทคนิค” ของ”บีอาร์เอ็น” และ”ของ”คณะพูดคุยสันติสุขฝ่ายไทย “เป็นการ”พูดคุย” ครั้งที่ 2 ของ ปี 2567  แต่”เชื่อขนมกินล่วงหน้า” เป็นการ”พูดคุย” ที่ไม่มีความ”คืบหน้า” ใน”สารัตถะ” ที่มีการนำมาเป็น”ประเด็น”ของการ”พูดคุย” เพราะเป็นที่รู้ๆกันแบบ”ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่” ทั้ง สองฝ่ายต่าง”สวมหน้ากาก” และ”เล่นละคร” เพื่อ”ลากยาว” ให้”เวทีการพูดคุย” หาข้อ”ยุติ”ไม่ได้  โดย “บีอาร์เอ็น” ต้องการ”ลากยาวๆ” เพื่อให้การ”บ่มเพาะ” มวลชนในพื้นที่เพิ่มจำนวนให้เพียงพอ และต้องการใช้เวทีของ “สหประชาชาติ” ในการ”ขับเคลื่อน” งาน”การเมือง” ให้”บรรลุ”ถึง”ฝั่งฝัน” ที่ต้องการ    ส่วน”ฝ่ายไทย” เป็นการ” ขับเคลื่อน” การ”พูดคุย” เพื่อเป็น”ภาพลักษณ์” ของการเห็นด้วยกับการแก้ปัญหาของ”ไฟใต้” ด้วยหลักการของ”สันติภาพ” นั้นคือหาทางออกจากความ”ขัดแย้ง” ด้วยการ”พูดคุย” และยังมีการ”แอบแฝง” ในเรื่อง “ผลประโยชน์” ของ”งบประมาณ” อยู่ด้วย อะอะ อย่าเถียงว่า ไม่จริง    ดังนั้น เวทีการ”พูดคุย” ไม่ว่าเป็นระดับของ”ประธานเทคนิค” หรือของ”หัวหน้าคณะพูดคุยฯ อย่าง “ฉัตรชัย บางชวด” รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ล้วนเป็นเรื่องการ”เล่นปาหี่” หรือ”มายากล” ทั้งสิ้น คนที่”คาดหวัง”ว่า”เวทีการพูดคุย” คือทางออกของ”ไฟใต้” เป็นเพียง”นักวิชาการโลกสวย” ส่วนคนที่อยู่กับข้อเท็จจริงนั้น ต่างรู้กันว่า เวทีการพูดคุยเป็นเพียง”ละครฉากหนึ่ง”เท่านั้น…..

@การเดินทางลงพื้นที่ก่อน “สงกรานต์” ของ” พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์” ผบ.ทบ. เพื่อ ประชุมหน่วยงานความมั่นคงของ”กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า” ที่มี “พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค” เป็น”แม่ทัพภาคที่ 4 และ “ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 มี “พล.ท.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ “ เป็น” แม่ทัพน้อยที่ 4 “  มีการ “สั่งการ” ให้ “กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า” ปรับงาน”ยุทธการ” เพื่อให้”สอดคล้อง” กับ”สถานการณ์” ที่เกิดขึ้น และให้”ปรับปรุง”งาน”การข่าว” ที่เป็น”หัวใจ” ของการดับ”ไฟใต้” รวมทั้งงาน”ภาคประชาสังคม” เพื่อ ”เอาชนะทางการเมือง”ซึ่ง”พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์” ผบ.ทบ. คงเห็นว่าที่ผ่านมา” กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า””หย่อนยาน”ในทุกเรื่อง ก็คงต้อง ติดตามดูว่า หลังจากที่” ผบ.ทบ.” มี”คำสั่ง” ไปแล้ว “กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า” จะมีการ” ปรับปรุง” ตามคำสั่งของ” ผบ.ทบ.”หรือไม่ โดยเฉพาะงานของ”ภาคประชาสังคม”และงาน”การข่าว” ที่เป็น”หัวใจ” ของความ”สำเร็จ”   ในการ”เอาชนะ” ยุทธศาสตร์”ของ”บีอาร์เอ็น” ต้องมีการ”ปฏิวัติ” ครั้งใหญ่ใน”กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า”  จึงจะตามทัน”สถานการณ์” และ”กลเกม” ของ”บีอาร์เอ็น”…..ที่สำคัญวันนี้” กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า” ยังมีการ”ปิดบังอำพราง” หน่วยเหนือในเรื่อง”โครงสร้างรัฐซ้อนรัฐ” ที่”บีอาร์เอ็น” ใช้ในการ”ขับเคลื่อน”ทั้ง”การทหาร” และ”การเมือง” เรื่องนี้เป็นเรื่อง”สำคัญ” ที่”ผบ.ทบ. ต้องรับรู้ และต้องมี”ยุทธศาสตร์” และ”ยุทธวิธี” ในการ “ทำลาย” โครงสร้างแบบ”รัฐซ้อนรัฐ” ของ”บีอาร์เอ็น” ให้ “สำเร็จ” ปัญหาของ”ไฟใต้” จึงจะ”ยุติ”ลงได้…..

@จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่ได้มีแค่เรื่อง”การแบ่งแยกดินแดน” แต่ยังมีปัญหาอีก”มากมาย” เป็น”กระปุงโกย” เช่นเรื่องของ”คนเถื่อน” ที่ “หลบหนี” เข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน ปกติ การ”หลบหนีเข้าเมือง” ทั้งเข้ามาทำงานใน ประเทศไทย และ เดินทางไป”ประเทศมาเลเซีย” เป็นเรื่อง”ปกติ” อยู่แล้ว แต่ หลังการ”สู้รบ” ระหว่าง”รัฐบาลเมียนมา” กับ”กลุ่มชาติพันธุ์” ที่รุนแรงขึ้น จำนวน”คนเถื่อน” ที่”หลบหนีเข้าเมือง” ก็ยิ่งมากขึ้น”เป็นเงาตามตัว” ที่จับได้ถือเป็น”ผลงาน” ของ”เจ้าหน้าที่” แต่ที่”จับไม่ได้” มีอีกมากมาย” และที่”ไม่จับ” เพราะมีการ”จ่ายส่วย” ก็เป็นอีกปัญหาหนึ่งของ”คนเถื่อน” ที่ “ยิ่งจับยิ่งมาก” เรื่องนี้” พล.ต.ต.ทรงโปรด สุขศิริ” ผบก.ตม. 6  ต้องมีความ”คิดอ่าน” การแก้ปัญหาว่าจะแก้อย่างไร “คนเถื่อน” จึงจะ ลดน้อยลง และที่ สำคัญ หลายพื้นที่ทั้งใน จ.สงขลา ใน จ.นราธิวาส ยังเป็นแหล่ง”หลบซ่อน” ของ”คนเถื่อน” ก่อนที่จะ “ข้ามฝั่ง”ไปยัง “ประเทศมาเลเซีย” เรื่องนี้ “ พล.ต.ท. ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี” ผบช.ภ.9 ต้อง “สั่งการ” ให้ ตำรวจภูธร ตรวจสอบ แหล่งที่เป็นที่”นัดพบ” และ”หลบซ่อน”ของ”คนเถื่อน” ซึ่งเรื่องอย่างนี้ไม่มี หน่วยงานไหน ที่จะรู้ดีไปกว่า”ตำรวจ”เป็นไม่มี   และ”แน่นอน” ที่ “คนเถื่อน” สามารถ”กลบดาน” ใน แหล่ง”หลบซ่อน” อย่าง”ปลอดภัย” เพราะมีการ”จ่ายส่วย” ให้กับ “ตำรวจ” ในท้องที่ เรื่องของ”คนเถื่อน” ถ้ามีการ”รับส่วย” จากขบวนการ”ค้ามนุษย์ข้ามชาติ” เชื่อเถอะ “ขบวนการค้ามนุษย์” ไม่มีทาง”เติบโต” และอยู่เหนือ”กฎหมาย” อย่างทุกวันนี้……และอีกหน่วยงานที่ต้องเข้ามามี”บทบาท” ในการ”สกัดกั้น” การเดินทางข้าม”พรมแดนไทย-มาเลเซีย”ของ”คนเถื่อน” คือ ตำรวจตระเวนชายแดนภาค 4   ที่มี “พล.ต.ต.พิชญ์วุฒิ สงวนสมบัติศิริ “ รักษาการ ผบก. ตชด.ภาค 4  ซึ่งมีหน้าที่ในการ”ลาดตระเวนแนวชายแดน” ต้อง”เอาจริง” กับ”ขบวนการค้ามนุษย์ เพราะ สู้สึกได้ว่า ในระยะๆ หลัง ผลงานของ”ตชด. ทั้งเรื่องการจับ”คนเถื่อน” การจับ”ยาเสพติด” การจับ”น้ำมันเถื่อน” และ”สินค้าเถื่อน” ที่ “ทะลักข้ามแดน” มา น้อยลงมาก…..

@อีกเรื่องของ “จังหวัดชายแดนภาคใต้” คือเรื่องของ”ขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนข้ามชาติ” ยิ่ง ราคาน้ำมันโลกปรับตัวเพราะ”สงคราม” มากเท่าไหร่  ก็จะส่งผลให้”ปั้มน้ำมัน” ในประเทศไทย “ปรับราคา”ขายปลีกน้ำมันทุกประเภทสูงขึ้นเท่านั้น และ ยิ่งวันนี้ “รัฐบาล” ไม่มีการ”กู้เงิน”มาเพื่อ” ตรึงราคา” เพราะหมดไปแล้ว 7 เดือน เป็นเงินที่กู้มา 100,300 ล้านบาท ยิ่งทำให้ ราคาน้ำมัน “ปรับราคา” ที่สูงขึ้น ดังนั้น”น้ำมันเถื่อน” จาก”ประเทศมาเลเซีย” และจาก”ประเทศสิงคโปร์” จึงถูก”นายทุน” ในภาคใต้ และ”ภาคอื่นๆ “ ที่อยู่ใน”ขบวนการค้าน้ำมันข้ามชาติ” นำเข้าน้ำมันเถื่อนทั้ง”ทางบก”และ”ทางน้ำ” ล่าสุด มีการ”ลักลอบ” นำเข้าน้ำมันเถื่อนทาง”อ่าวไทย” ทั้ง จ.นครศรีธรรมราช และ”สุราษฎร์ธานี อย่าง”เป็นล่ำเป็นสัน” ทำให้ “พ.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง” จเรตำรวจ ที่เป็น”หน.ตร.ศ.ปนม..” หรือ ตำรวจชุด “ปราบปรามน้ำมันเถื่อน” สั่งการให้ มีการ ตรวจสอบ จับกุม ได้”ของกลาง” และ”ผู้ต้องหา” ทั้งใน อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช” และ” อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี   คาดว่าการ”ลำเลียง” น้ำมันเถื่อนทางเรือ” ใน 2 จังหวัดดังกล่าว น่าจะ”หยุดชั่วคราว” เพื่อดู”ทิศทางลม” อีกครั้ง….

@ส่วนที่ จ.สงขลา “คาราวาน”ลักลอบ”นำเข้าน้ำมันเถื่อน” จาก “ประเทศมาเลเซีย” โดย รถกระบะ,รถเก๋ง” ที่มีการ”ดัดแปลง” ให้มี”เซพลับ” ในการ”บรรทุกน้ำมันเถื่อน” ผ่านด่านศุลกากร ทั้ง อ.สะเดา และ ต.ปาดังเบซาร์ จ.สงขลา ยัง”อยู่ยงคงกระพัน” วิ่งกันได้ตลอดทั้งวัน หลายคันถูก”จับได้” โดย”กองกำลังเทพสตรี” ที่เป็นของ”ทหาร” ก็ถามกันว่า ทำไม”รถดัดแปลง” บรรทุกน้ำมันเถื่อน จึง”ผ่านด่านศุลกากร” ทั้งที่ อ.สะเดา และ ที่ ปาดังเบซาร์ ได้ เรื่องนี้ก็ต้องขอให้ “อธิบดีกรมศุลกากร” ถามกับ”นายด่าน” ทั้งสองแห่งเอาเอง…..รวมทั้งขอให้ “เจ้าหน้าที่” ของ”ด่านศุลกากร” ทั้ง 2 แห่ง มีการ”ตรวจสอบ”การนำเข้าน้ำมันจาก”ประเทศมาเลเซีย” โดยวิธีการ”ทรานส์ซิส” เพื่อไปยัง สปป.ลาว.เมียนมา,กัมพูชา” ว่ามีการ”ออกไปประเทศที่สาม”หรือนำไป”ขาย” ในประเทศกันแน่ เพราะที่ผ่านมา มีการ”ตรวจสอบ”โดย”ดีเอสไอ” พบว่า เป็นการ”ส่งออกทิพย์” บริษัทที่เป็น”ปลายทาง” ในการ”รับสินค้า” และ”สั่งซื้อ” ไม่มีอยู่จริง เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ถ้า”ศุลกากร” มีการ”ตรวจสอบ” และ”ติดตาม” ที่”เข้มงวด” ขบวนการค้าน้ำมัน”ข้ามชาติ” ทำไม่ได้ และหากยังปล่อยให้”ขบวนการค้านั้นข้ามชาติ” ใช้วิธีการ”ทรานส์ซิส” อย่างนี้ โดยไม่มีการ”ตรวจสอบ” เป็นการสร้างความ”เสียหาย” ให้กับ ประเทศชาติปีละเป็น”หมื่นๆล้าน” เรื่องนี้”รัฐมนตรีคลัง” ต้องเร่ง”สั่งการ” ให้มีการ”ตรวจสอบ” และ”จับกุม” ผู้ที่ทำผิดกฎหมาย และที่สำคัญดำเนินการกับ” เจ้าหน้าที่” ที่ให้ความร่วมมือกับ”โจรปล้นชาติ” …..

@กรมสอบสวนพิเศษ หรือ”ดีเอสไอ”ในยุคที่ “พ.ต.อ.ทวี สองส่อง”  เป็น “รัฐมนตรียุติธรรม” และ มี “พ.ต.ท.ยุทธนา แพรดำ “ รักษาการอธิบดี มีผลงาน สำคัญ หลายอย่าง ที่ดำเนินการในภาคใต้ เช่นคดีของ”โกฟุก” เจ้าพ่อบ่อนออนไลน์ และค้าน้ำมันข้ามชาติข้ามชาติ  ใน จ.ระนอง” ที่ถูก”ทลายห้าง”จนต้อง”เผ่นหนี”กลับไปยัง”เมียนมา” คดี”จีนเทา” ที่ อ.ฉวาง ที่ได้”ผู้ต้องหา”ที่เป็น”ชาวจีน” เกือบ 100 ชีวิต มาเป็น”ผู้ต้องหา” ล่าสุดมีการตรวจยึด”โรงงานน้ำมันปาล์ม”ที่ อ.คลองท่อม จ.กระบี่ จาก”กลุ่มนายทุน” เพื่อคืนให้กับ “ชุมชนสหกรณ์ชาวสวนปาล์ม” หลังมีการ”ตรวจพบ”ว่าการขายโรงงานดังกล่าวของ “คณะกรรมการผู้บริหาร” ไม่ถูกต้อง” และ ยังมีอีก หลายคดีใหญ่ๆ ในภาคใต้ ที่”ดีเอสไอ” กำลังเข้าไป”ตรวจสอบ” เพื่อดำเนินการตาม”กฎหมาย” ที่ ณ วันนี้ไม่มีการ”ลูปหน้าปะจมูก” นักการเมือง และ พรรคการเมือง ที่”มีเอี่ยว” กับ “ขบวนการผิดกฎหมาย” คงจะ”หนาวๆร้อนๆ” นะ…..

@มีสองกรณีที่เป็นเรื่อง”ไม่ชอบมาพากล” ใน จ.พัทลุง เรื่องแรก มีการยิงกันในงาน”จัดเลี้ยงหาทุนสร้างศาลาประชุมหมู่บ้าน” ที่  ต.นาปะขอ อ.บางแก้ว จ.พัทลุง ที่ อดีตตำรวจเป็น”มือปืน” และมี”สารวัตรกำนัน และผู้ช่วยกำนัน เป็นผู้”เสียหาย” และ”บาดเจ็บ”  เรื่องนี้มีการขอให้ไม่ต้อง”แจ้งความ” แต่จะ”เคลียร์” กันเอง  และขอให้”นักข่าว” อย่ายุ่ง และเรื่องที่สอง มีการ”ดองคดี” เรื่อง”อนาจาร” เด็กหญิงอายุ 13 ปี แจ้งความปลายปี 65 ที่ สภ.เกาะหมาก อ.ปากพะยูน  จนถึงขณะนี้”คดีไม่คืบหน้า” ถ้าทุกคดี”เคลียร์”ได้หมด แล้วจะมี โรงพัก” จะมี”ตำรวจ” ไว้ทำอะไร เรื่องนี้ “พล.ต.ต. ณฐกรณ์ กาญจนาภรณ์ “  ผบก.ภ.จว. พัทลุง ตรวจสอบด้วย อย่าปล่อยให้”ชาวบ้าน” ใช้”กฎหมู่” แบบในอดีต เช่น”มึงยิงกู กูยิงมึง” เพราะอย่างนี้ “เมืองลุง” จึงยังมีแต่เรื่อง”มือปืน” ผู้มีอิทธิพล และคดี”อุกฉกรรจ์” เกิดขึ้นตลอดปี…..

@จับตามอง ขบวนการค้าบุหรี่เถื่อนที่ “เกาะลังกาวี” ประเทศมาเลเซีย ที่เคยนำ”บุหรี่หลบหนีภาษี” มาขึ้นที่”ท่าเรือ” หลายแห่ง ทั้ง อ.เมือง อ.ละงู” จ.สตูล แต่วันนี้” ทั้ง”เจ้าแม่ กไก่” และ”เจ้าพ่อ ส เสือ” ต่างใช้เรือ”สปีดโบ๊ท” ขนบุหรี่จาก”เกาะลังกาวี” มาขึ้นฝั่ง ในท้องที่ อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ก่อนที่จะ “บรรทุกรถยนต์” มาส่งให้”ลูกค้า”  เรื่องนี้ “พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล” ผบก. ภ.จว.ตรัง  ต้องดำเนินการให้ เจ้าหน้าที่ “ตรวจสอบ” และ”จับกุม” อย่าบอกนะว่า “ไม่มี และ ไม่จริง” เพราะ”ชาวบ้าน” ในพื้นที่เขาเห็นกัน”ทนโท่ “……

@เข้าท่า ชาวบ้านชุมชนจารู ตลาดเก่า เขตเทศบาลนครยะลา ขึ้นป้าย ห้ามมิให้มีการ”จำหน่ายใบกระท่อม” ในชุมชน ถ้าทุกชุมชม กรรมการชุมชน “เข้มแข็ง” อย่าง”ชุมชนจารู” ก็จะช่วยแก้ปัญหาของ”ยาเสพติด” ไม่เพียงแต่เรื่องของ”กระท่อม” แต่เรื่องของ”ยาบ้า” และ”กัญชา” ก็จะแก้ได้ด้วย เรื่องการ”ขายใบกระท่อม” เป็นเรื่องที่”ถูกกฎหมาย” ที่ “ตำรวจ” และ”ปกครอง” ลำบากในการ”จับกุม” หรือ”สั่งห้าม” เพราะ”กฎหมาย” อนุญาต” ให้”ขายได้” ไม่เหมือนกับ”น้ำกระท่อม” ที่ถ้า”ต้มขาย” เป็นเรื่องที่”ผิดกฎหมาย” จับกุมลงโทษได้   เรื่องนี้”พงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ” นายกเทศมนตรีเทศบาลนครยะลา ต้อง”ชื่นชม” และให้”กำลังใจ”กับ คณะกรรมการชุมชน ที่กล้า”งัดข้อ” กับกลุ่มผู้”ค้าใบกระท่อม”…..ส่วนที่ อ.เบตง จ.ยะลา วันนี้ ชาวบ้านส่งภาพมาฟ้อง ทั้ง”ตัวเมือง” ถนนทุกสาย ทุกซอย ทุกตรอก “ เต็มไปด้วยการ”คนขายน้ำมันเถื่อน” เจ้าของ”ปั้มน้ำมัน” ที่ถูกต้องตามกฎหมาย นั่งมอง”คนทำผิดกฎหมายตาปริบๆ” เพราะ”ไม่มีใครดำเนินการกับคน”ทำผิดกฎหมาย” ทั้งที่เป็น”ความผิด” ซึ่ง ตำรวจเอย, สรรพสามิตเอย, ปกครองเอย ” ก็ฝากไปยัง “ พ.ต.อ. จิรวัฒน์ ดูดิง” ผกก,สภ.เบตง  และ”อมร ชุมช่วย” นายอำเภอเบตง  จ.ยะลา ”เจ้าหน้าที่ศุลกากร” ต้อง”เข้มงวดกวดขัน” อย่าปล่อยให้”คาราวานน้ำมันเถื่อน” นำน้ำมันเถื่อนจาก”มาเลเซีย” เข้ามาแบบ”เสรี” ก็น่าจะ แก้ปัญหานี้ได้ อย่าลืมว่า”น้ำมันเถื่อน” ไม่ใช่”สินค้าโอท็อป” นะเจ้านาย  แต่เป็น”สินค้าเถื่อน” ที่”ผิดกฎหมาย”……

@ติดตามดูราคายางพารา และราคาปาล์มน้ำมัน ในพื้นที่ภาคใต้ พบว่า ราคาปาล์มร่วงลงจาก กิโลกรัมละ 5 บาทกว่าเหลือแค่ 4 บาทกว่าต่อกิโลกรัม ถ้าราคายัง”รูดลง” เรื่อยๆ เหลือกิโลกรัมละ  3 บาทกว่าๆเมื่อไหร่ “รัฐบาล” คงจะเห็นการออกมา”เคลื่อนไหว” ของชาวสวนปาล์ม” อีกครั้ง เรื่องนี้ต้องดูฝีมือของ” รอ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” “ ผู้ทำหน้าที่เสนาบดี” กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่าจะ”แก้ปัญหา” ราคาปาล์ม” ที่ส่อเค้าว่า”ร่วงลง” อย่างไร    ในส่วนของราคา”ยางพารา” วันนี้ยังยืนอยู่ที่ กิโลกรัมละ 70 บาท กว่าๆ ซึ่งทำให้ชาวสวนยาง ”ใจเต้นโครมคราม” เพราะกลัวว่า ราคาจะร่วงลงไปมากว่านี้ โดยจะกลับไปที่ กิโลกรัมละ 40 บาทกว่าๆอีกครั้ง ในขณะที่”เพิก เลิศวังพง” ประธานบอร์ด การยางแห่งประเทศไทย ( กยท.) บอกกับชาวสวนยาง ที่ จ.นครศรีธรรมราช ว่า “กยท.” จะทำให้ราคายางแพงขึ้นจนเห็นตัวเลข “สามหลัก” นั้นหมายถึงต้องการเห็นยาง กิโลกรัมละ 100 บาทขึ้นไป  โดยการนำยางในประเทศมา ผลิตเป็น”ยางรถยนต์” เป็น”แบรนด์ของ กยท.” โดยการ”ดูดซับ” ยางในประเทศ 400,000 ตัน และมีการ ผลิต ปุ๋ยเคมี ปุ๋ยอินทรี และ กรดฟอร์มิก โดยเป็น”สินค้าของ กยท.”ขายให้เกษตรกร เพื่อเป็นการ”ลดต้นทุน”ให้กับ”เกษตรกร” ก็ขอให้”ทำได้” และ”ทำจริง” แต่ที่เป็นข้อ”ห่วงใย” คือ ผลิตแล้วต้อง”ขายได้” เช่น”ล้อยาง”หรือ”ยางรถยนต์” ถ้า ผลิตแล้ว”ขายไม่ได้”  เพราะ”ตลาดไม่รองรับ” ประชาชนผู้ใช้ไม่มีความ”เชื่อมั่น” ปัญหาก็จะตามมา ศึกษาให้ดี วางแผนให้ดี ก่อนที่จะ”เดินหน้า” เป็นห่วงนะ …..

@เรื่อง”ขยะของเทศบาลนครหาดใหญ่” จ.สงขลา กลายเป็น”ปัญหาใหญ่” เมื่อ”ผู้บริหารเทศบาลเมืองควนลัง อ.หาดใหญ่ ไม่ยอมให้ใช้พื้นที่ของ”เทศบาลควนลังทิ้งขยะ” จนต้องนำขยะไปให้”ศูนย์คัดแยกขยะ”ที่ อ.คลองหอยโข่ง”  ซึ่ง มีการ”ต่อต้าน”จาก”ประชาชน” ในพื้นที่จากเรื่องของ”มลภาวะ” มีการ”ห้ามรถขยะ” ของ”เทศบาลนครหาดใหญ่” เข้าไปในพื้นที่ แต่ข่าวว่าล่าสุด” พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี” หรือ” พี่หลวงคอน” ได้ ทำความเข้าใจกับ ฝ่ายปกครอง ,ท้องถิ่น,ท้องที่” และ”แกนนำประชาชน” ที่ออกมา”ต่อต้าน” ให้เข้าใจ และให้”เห็นอกเห็นใจ” ทำให้ สามารถขนส่ง”ขยะของเทศบาลนครหาดใหญ่” ไปยัง”โรงงานคัดแยกขยะ” ที่ อ.คลองหอยโข่ง ได้แล้ว แต่ทางที่ดี “ผู้บริหารเทศบาลนครหาดใหญ่” ต้องมี”แผนระยะยาว” ในการ”จัดการ”กับ”ขยะมูลฝอย” ให้มีที่ ”กำจัดขยะ” ที่ถาวร หลังโรงงานฟ้าขยะถูกปิดไป…..

@ติดตามดูการพัฒนาประเทศของ”เพื่อนบ้าน” อย่างมาเลเซีย ที่”นายกรัฐมนตรี”ของเขา กำลังทำให้”กรุงกัวลาลัมเปอร์” เมืองหลวงของประเทศเป็น”ศูนย์กลางดิจิตัล” ในระดับ”ภูมิภาค” ในขณะที่”บ้านเรา” ยัง”ขะมักเขม้น” ในการ”ออกแบบผ้าขะม้า” และ”กางเกงช้าง” เพื่อการ”โกอินเตอร์” ที่ สำคัญ”ด่านศุลกากร” ที่ อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งสร้างด้วย”งบประมาณหลายพันล้าน” วันนี้ยังเป็น”ด่านตาบอด” ที่ยังไม่สามารถ”เชื่อมต่อ” กับ”ประเทศมาเลเซีย” และ”ด่านศุลกากร ตรวจคนเข้าเมือง”ของมาเลเซียได้ ทั้งที่การ”ส่งออก” จาก “ด่านสะเดา”เป็นอันดับหนึ่งของภูมิภาค    ที่ผ่านมา”เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี และ”สมศักดิ์ เทพสุทิน” รองนายกรัฐมนตรี ต่าง”เทียวไล้เทียวขื่อ”พบ กับ”อัลวาร์ อิบราฮิม” นายกรัฐมนตรีประเทศมาเลเซีย และ ผู้บริหารระดับสูง เพื่อแก้ปัญหา”ด่านตาบอด” แต่ผ่านไปแล้ว 7 เดือน ยังไม่มีส่ง”สัญญาณ” ที่ดีจาก “มาเลเซีย” อย่างนี้ “ประเทศเรา” จะ”แข่งขัน”กับ”มาเลเซีย” ได้อย่างไร…… แล้วพบกันใหม่วันศุกร์หน้า สวัสดีครับ

—————————————————————-

ไชยยงค์ มณีพิลึก

เยี่ยมชม.   ซูการ์โน มะทา เลขาธิการพรรคประชาชาติ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดยะลา เขต 2 พรรคประชาชาติ พร้อมด้วย ชะบา มะทา ภรรยา ประธานสาขาพรรคประชาชาติ และครอบครัว ได้รับโอกาสจาก วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร และประธานรัฐสภาให้เข้ามาเยี่ยมชมห้องทำงานของประธานรัฐสภา พร้อมรับของที่ระลึก ถ่ายรูปร่วมกันกับ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม หัวหน้าพรรคประชาชาติ ณ ห้องทำงานประธานรัฐสภา ชั้น 10 อาคารรัฐสภา ถนนสามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพ

บรรพชา.  อำพล พงศ์สุวรรณ ผวจ.ยะลา เป็นประธานในพิธีปลงผม ตามโครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยมี ฉลวย พงศ์สุวรรณ นายกเหล่ากาชาดยะลา อมร ชุมช่วย นายอำเภอเบตง สกุล เล็งลัคน์กุล นายกเทศมนตรีเมืองเบตง  ผณ ศาลาการเปรียญ วัดพุทธาธิวาส พระอารามหลวง อ.เบตง จ.ยะลา

พัฒนาศักยภาพ.     ปิยะศิริ วัฒนวรางกูล รองเลขาธิการ ศอ.บต. เป็นประธานมอบนโยบาย การพัฒนาเด็กและสตรี และกลุ่มคนเปราะบาง โดย ศอ.บต.พร้อมสนับสนุน ณ ห้องประชุมโรงแรมริเวอร์  อ.เมือง จ.ปัตตานี

ตรวจราชการ.   พ.ต.อ.ทวี สองส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ลงพื้นที่ตรวจราชการ เรือนจำกลางจังหวัดปัตตานี โดยมี พ.ต.อ.กองอรรถ สุวรรณขำ รอง ผบก.ภ.จว.ปัตตานี  ผบ.เรือนจำ และ หน่วยงานกระทรวงยุติธรรมในพื้นที่ให้การต้อนรับ

รักษาฟรี.    หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ มูลนิธิปอเต็กตึ้ง กรุงเทพฯ นำทีมโดยผู้บริหารมูลนิธิท่งเซียเซี่ยงตึ้ง  อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อบริการรักษา พยาบาลประชาชน ใน อ.เมือง จ.ยะลา ณ มูลนิธิแม่กอเหนี่ยวยะลา โดยมี จารุวิทย์ แซ่เจ็ง ประธานผู้พิพากษาสมทบศาลเยาวชนฯ จ.ยะลา ร่วมให้การต้อนรับ

หนีไม่พ้น.   พ.ต.อ. ปรัชญา ไบเต๊ะ ผกก.สภ.เมือง จ.นราธิวาส จับกุมกลุ่มวัยรุ่น ที่รวมตัวก่อเกตุวิวาทใน ต.บางนาค ยึดอาวุธปืน ยิงเร็ว และ ปืนสั้น ได้ 2 กระบอก นำตัวไปตำเนินคดีตามกฎหมาย

ตำบลอาสาฯ.  ตัวแทนประชาชน ตำบลอาสา แก้ปัญหายาเสพติด ภาคประชาชน ตามนโยบายของ กระทรวงยุติธรรม นำโดย พล.อ.วิชาญ สุขสง ประธานยุทธศาสตร์ เดินทางโดยเครื่องบิน ซี 130 จากท่าอากาศยานหาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อไปศึกษาดูงาน ตำบลต้นแบบ การแก้ปัญหายาเสพติด ณ ต.เพนียด อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี

กาชาดสงขลา.     สมนึก พรหมเขียวผวจ.สงขลา ได้เป็นประธานเปิดงานกาชาดประจำปี 2567 โดยมี รอง ผวจ. หัวหน้าส่วนราชการ ร่วมพิธี มีประชาชน และ นักท่องเที่ยว ร่วมชมงานกาชาดเป็นจำนวนมาก

“วันว่าง”      ไพเจน มากสุวรรณ นายก อบจ.สงขลา  เป็นประธานเปิดงานสืบสานประเพณีทำบุญ”วันว่าง”ประจำปี 2567 โดยมี  มนตรี ศรประสิทธิ์ นายกเทศมนตรีตำบลพะตงได้ให้การต้อนรับ ณเทศบาลตำบลพะตง  อ. หาดใหญ่ จ.สงขลา

พัฒนาเด็ก.   มุขตาร์ มะทา  นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดยะลา ลงพื้นที่ เปิดโครงการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพเด็ก เยาวชน และประชาชน กิจกรรมอบรมคุณธรรมจริยธรรมเด็ก และเยาวชน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ในระหว่างวันที่ 20 – 23 เมษายน 2567 ณ ห้องประชุมบ่อน้ำร้อนเบตง อ.เบตง จ.ยะลา

เสริมศักยภาพ.    นันทพงศ์ สุวรรณรัตน์ รองเลขาธิการ ศอ.บต.เป็นประธานเปิดการประชุม เพื่อเสริมศักยภาพ นักประชาสัมพันธ์ บัณฑิตอาสาพัฒนามาตุภูมิ ณ ห้องประชุมน้ำพราว โรงแรมซีเอส อ.เมือง จ.ปัตตานี

ห่วงใย.    รอมดอน หะยีอาแว ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. พร้อมเจ้าหน้าที่กลุ่มงานเยียวยา ลงพื้นที่ เยี่ยมครอบครัว จสอ.สีมฤทธิ์ เที่ยงพร้อม ที่เสียชีวิตจากฝีมือของ แนวร่วม ขบวนการแบ่งแยกดินแดน เพื่อแสดงความห่วงใยต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต ณ บ้านพัก ต.ตะบิ้ง อ.สายบุรี จ.ปัตตานี

ตลาดเกษตร.   โยธิน ทองเนื้อแข็ง  ส อบจ..เขต อ.กระแสสินธุ์  จ.สงขลา เป็นประธานเปิดตลาดเกษตร อบจ.สงขลา อำเภอกระแสสินธุ์ “ 1 อำเภอ 1 ตลาดเกษตร  ณ ลานสหกรณ์การเกษตร ต.เชิงแส อ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา

เยี่ยมผู้ป่วย.   เนติวิทย์ ขาวดี นายแพทย์จำรัส สรพิพัฒน์   ร่วมเยี่ยมผู้ป่วยมะเร็ง ตรวจรักษาอาการ ให้กำลังใจกับผู้ป่วย  โครงการ” ร่วมต่อลมหายใจให้แก่เพื่อนมนุษย์ รายที่  230 พื้นที่หมู่ที่ 10 ต.โคกหล่อ  อ.เมืองตรัง  จ.ตรัง พร้อม สนับสนุนอาหารเสริม จาก นพ. วิฑูรย์ เหลืองดิลก  น้ำดื่มบัวหลวง จาก ด.ต.เจริญ รักษา มอบน้ำดื่มให้กับผู้ป่วย

ติดตามภัยแล้ง.   กนกกาญจน์ คงแก้ว นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ กลุ่มส่งเสริม และพัฒนาเกษตรกร ร่วมกับสำนักงานเกษตรอำเภอเมืองตรัง ลงพื้นที่ ติดตามเกษตรกร ที่ประสบปัญหา จากฝนทิ้งช่วงในฤดูแล้ง ของว่าที่ รท. ธนภัทร หลักเพชร  ที่สวนผลไม้ ได้รับความเสียหาย จากภัยแล้ง เพื่อหาทางช่วยเหลือต่อไป

สืบสานตำนาน.   ทรงกลด สว่างวงศ์ ผวจ.ตรัง เป็นประธานเปิดงานสืบสานตำนานเกาะตันหยงสตาร์ (เมืองท่าโบราณ) ตามโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองเก่าตรัง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 โดยมี ณัฐวุฒิ สังข์สุข นายอำเภอปะเหลียน นายกองค์กรบริหารส่วนตำบลท่าข้าม หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และพี่น้องประชาชน ร่วมงาน

ไม่เอากระท่อม.   อัมรอฮิม ดือราแม ประธานชุมชนจารู ตลาดเก่า เขตเทศบาลเมืองนครยะลา แบะกรรมดารชุมชน มีมติ ไม่อนุญาตให้มีการ จำหน่าย พืชกระท่อม ในชุมชนจารู ด้วยการ ขึ้นป้าย ไม่อนุญาตให้ จำหน่าย สิ่งเสพติดทุกชนิด

ตรวจเยี่ยม.   พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9 ,พล.ต.ต เสกสันต์ ชูรังสฤษฎ์ ผบก.ภ.จว.ยะลา ตรวจเยี่ยมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประชุมติดตามคดีสำคัญของ สภ.บันนังสตา จ.ยะลา โดยมี พ.ต.อ. ระนนท์ สุระวิทย์ ผกก.สภ.บันนังสตา และคณะ ให้การต้อนรับ ณ ห้องประชุม ศปก.บันนังสตา จ.ยะลา