เคยสังเกตตัวเองกันบ้างหรือไม่?.. ว่าเราเคยกินเก่ง กินไม่หยุดแบบควบคุมตัวเองไม่ได้กันบ้างหรือไม่? ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าว นอกจากจะเป็นสาเหตุของโรคอ้วน ที่มาจากวิถีชีวิตและพฤติกรรมการกินแล้ว โรคอ้วนยังอาจมีสาเหตุจากโรคทางจิตเวชในกลุ่ม โรคความผิดปกติทางการกิน (Eating disorders) ซึ่งโรคเหล่านี้ พบได้บ่อย แต่มักจะถูกมองข้าม และในบางกรณี หากปล่อยไว้อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
โดย นพ.ณชารินทร์ พิภพทรรศนีย์ จิตแพทย์ โรงพยาบาลBMHH – Bangkok Mental Health Hospital ได้กล่าวกับ Healthy Clean ว่า “โรคความผิดปกติทางการกิน (Eating disorders) เป็นโรคทางจิตเวช ที่มีอาการสำคัญ คือ พฤติกรรมการกินที่ผิดปกติไป ไม่ว่าจะเป็นการอดอาหาร หรือ กินเยอะจนควบคุมไม่ได้” ซึ่งอาการทางพฤติกรรมเหล่านี้ มีความสัมพันธ์กับสภาวะจิตใจ เช่น อาจสัมพันธ์กับความกังวลต่อน้ำหนักตัว กังวลต่อรูปร่าง เป็นต้น
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/04/hungry-asian-woman-licks-red-painted-lips-looks-tasty-hamburger-picks-delicious-snack-break-diet-1.jpg)
4 กลุ่มโรค พฤติกรรมการกินผิดปกติ หรือ Eating Disorders ที่พบได้บ่อย
-Anorexia nervosa (อะนอเร็กเซีย) เป็นกลุ่มที่มีความกังวลเกี่ยวกับรูปร่างมาก พยายามควบคุมพฤติกรรมการกินของตนเอง ทำให้กินน้อยลง อดอาหาร นำไปสู่น้ำหนักตัวที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลต่อสุขภาพทางร่างกาย ตั้งแต่ ผมร่วง โลหิตจาง ขาดประจำเดือน กระดูกพรุน ไปจนถึง ภาวะหัวใจหยุดทำงาน และเสียชีวิตได้ ในรายที่มีอาการรุนแรง
-Bulimia nervosa (บูลีเมีย) เป็นกลุ่มที่มีความกังวลเกี่ยวกับรูปร่างมาก แต่ก็ควบคุมพฤติกรรมการกินของตนเองไม่ได้ จึงมีช่วงเวลาที่กินอาหารปริมาณมากแบบควบคุมไม่อยู่ หลังจากนั้นก็เกิดความรู้สึกผิด และพยายามชดเชยในสิ่งที่กินเข้าไป โดยการทำให้ตัวเองอาเจียน หรือ ออกกำลังกายมากจนเกินไป ซึ่งกรดในกระเพาะที่ออกมาผ่านการอาเจียน สามารถส่งผลให้ทางเดินอาหารอักเสบ ฟันสึกกร่อน รวมไปถึงทำให้เกิดภาวะการขาดน้ำ เกลือแร่เสียสมดุล ซึ่งนำมาสู่ภาวะหัวใจวาย เป็นอันตรายถึงชีวิตได้
-Binge eating disorders (โรคกินไม่หยุด) เป็นกลุ่มที่ควบคุมพฤติกรรมการกินของตนเองไม่ได้ จึงมีช่วงเวลาที่กินอาหารปริมาณมากอย่างรวดเร็ว และรู้สึกไม่สามารถควบคุมตนเองได้ ถึงแม้ว่าจะอิ่มแล้วก็ตาม ซึ่งพฤติกรรมการกินแบบนี้ สามารถนำมาซึ่งโรคคอเลสเตอรอลสูง ความดันโลหิตสูง และก่อให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ และสมอง ตามมาได้
-โรคความผิดปกติทางการกินอื่น ๆ ซึ่งอยู่นอกเหนือโรคที่พบบ่อยข้างต้น เช่น การกินอาหารได้อย่างจำกัดชนิด ส่งผลให้ร่างกายขาดสารอาหารบางกลุ่ม หรือ การมีพฤติกรรมกินวัตถุที่ไม่ใช่อาหาร เช่น กินดิน กินกระดาษ กินไส้ลวดเย็บกระดาษ เป็นต้น
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/04/friends-eating-together-some-street-food.jpg)
เช็กลิสต์อาการโรคพฤติกรรมการกินผิดปกติ
-คุณเคยทำให้ตัวเองอาเจียน ใช่หรือไม่
-คุณมีความกังวลว่าตัวเองไม่สามารถควบคุมปริมาณอาหารที่ตัวเองกินได้ ใช่หรือไม่
-คุณน้ำหนักลดไปมากกว่า 6 กิโลกรัม ใน 3 เดือน ใช่หรือไม่
-คุณเชื่อว่าตัวเองอ้วน ทั้ง ๆ ที่คนอื่นบอกว่าคุณผอมเกินไป ใช่หรือไม่
คุณคิดว่าอาหารมีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิตของคุณมาก หรือ มีความหมกมุ่น จนกระทั่งวิถีชีวิตเปลี่ยนแปลงไปเพราะอาหาร ใช่หรือไม่
หากคำตอบตรงกับลิสต์ข้างต้นตั้งแต่ 2 ข้อขึ้นไป คุณอาจเข้าข่ายโรคพฤติกรรมการผิดปกติ
ทั้งนี้ การวินิจฉัยโรคโรคความผิดปกติทางการกิน ไม่ได้วิเคราะห์จากพฤติกรรมการกินมาก กินน้อย หรือ น้ำหนักตัว เพียงอย่างเดียว แต่จำเป็นต้องวิเคราะห์ให้ลึกถึงความคิด ความรู้สึกที่เกี่ยวข้องกับการกิน, รูปร่าง, ระยะเวลาที่เป็น, และผลกระทบที่เกิดขึ้น
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/04/asian-woman-being-happy-after-buying-street-food.jpg)
“การรักษาโรคความผิดปกติทางการกิน จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือกันจากทั้งผู้ป่วย แพทย์ นักจิตวิทยา และนักโภชนาการ โดยการรักษา ประกอบไปด้วยการบำบัดความคิด และพฤติกรรมการกิน รวมถึงการใช้ยาในบางกรณี ความเข้าใจจากครอบครัว และคนรอบข้าง ก็มีส่วนสำคัญไม่แพ้กัน ในการช่วยให้ผู้ป่วยอาการดีขึ้น และหายจากโรค หากสงสัยว่าตนเอง หรือ คนที่คุณรัก เริ่มมีอาการที่มีลักษณะพฤติกรรมการกินที่ผิดปกติ ควรรีบมาพบจิตแพทย์ เพื่อเข้ารับการรักษา ยิ่งหากตรวจพบเร็ว ได้รับการรักษาเร็ว ก็จะยิ่งมีโอกาสหายขาดได้มากขึ้น” นพ.ณชารินทร์ กล่าวทิ้งท้าย..
………………………………………
คอลัมน์ : Healthy Clean
โดย “พรรณรวี พิศาภาคย์”
อ่านบทความทั้งหมดที่นี่…