แม้ว่าถึงตอนนี้สถานการณ์ ’โจมตีใส่กัน“ ระหว่างประเทศ ’อิสราเอลvs อิหร่าน“จะคลายความเขม็งเกลียวลงไปแล้ว แต่ นานาประเทศ รวมถึงประเทศไทย ก็ ’ยังคงต้องจับตา“ ต่อไป ทั้งนี้ ก็อย่างที่ทราบ ๆ กันว่า… อิหร่าน” ก็ถือว่า “ไม่ธรรมดา” ขณะที่ “อิสราเอล” ก็มี “สหรัฐอเมริกาหนุน” ซึ่งหาก ’เปิดศึกใหญ่ ๆ หนัก ๆ ใส่กัน“ ล่ะก็…

จะเป็น ’อีกศึก“ ที่ ’กระทบทั่วโลก“…
ดังนั้น ’ทั่วโลกยังไม่ไว้ใจสถานการณ์“
และ…’ไทยเราก็ใช่ว่าจะวางใจศึกนี้ได้“

ทั้งนี้ จาก “สถานการณ์น่าเสียวไส้” กรณี “อิสราเอล vs อิหร่าน” และจากการที่ “นานาประเทศยังต้องจับตาสถานการณ์” หากถามว่า’ไทยก็ต้องจับตาด้วยหรือ??“คำตอบก็คือ’ใช่!!“ ก็เช่นเดียวกับความขัดแย้งหรือศึกสงครามที่เกิดในพื้นที่อื่น ๆ ของโลก โดยกรณี “อิสราเอล vs อิหร่าน” นั้น…ก่อนหน้านี้ หลังมีการโจมตีใส่กัน ก็มีรายงานข่าวเกี่ยวกับการแถลง ประเมินสถานการณ์ผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย …แต่ก็ยังพอจะเบาใจได้เมื่อสถานการณ์ยังไม่ลามใหญ่

ย้อนดูรายงานข่าวการประเมินผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยจากสถานการณ์กรณีนี้… ก่อนหน้านี้มีข่าว สศค. หรือ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ของไทย มีการประเมิน-แถลงไว้ โดยสังเขปมีว่า… ภายใต้สถานการณ์ ’ความขัดแย้งที่อยู่ในวงจำกัด“ และ ’ประเทศต่าง ๆ มีการร่วมหาทางออกของความขัดแย้งนี้“ทำให้สถานการณ์มี
แนวโน้มที่ดีขึ้น…

ผลต่อเศรษฐกิจไทยจึงยังมีไม่มาก“

และหากจะดูแบบแยกออกเป็นด้าน ๆ ก็มีดังนี้คือ… ด้านการลงทุน การลงทุนของไทยกับอิสราเอลและอิหร่านยังมีมูลค่าที่น้อยมาก …ซึ่งก็หมายถึงมีผลกระทบน้อย, ด้านการค้า การค้าระหว่างประเทศของไทยก็ได้รับผลกระทบน้อย จากการที่ไทยมีสัดส่วนการส่งออกไปยังอิสราเอล 0.27% และมีสัดส่วนการส่งออกไปยังอิหร่านเพียง 0.05% ของมูลค่าการส่งออกรวม 284.6 พันล้านดอลลาร์ ส่วนการนำเข้าของไทยจากอิสราเอลก็มีสัดส่วนที่ต่ำ คือ 0.15% และการนำเข้าของไทยจากอิหร่านก็อยู่ที่เพียง 0.003% ของมูลค่าการนำเข้ารวม 289.8 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวนี้คือในปี 2566

ด้านการท่องเที่ยว ก็มีการระบุไว้ว่า…การท่องเที่ยวของประเทศไทยได้รับผลกระทบไม่มาก โดยประเทศไทยมีสัดส่วนนักท่องเที่ยวจากประเทศอิสราเอลและประเทศอิหร่านเพียง 1.0% ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศทั้งหมดในปี 2566 โดยมีการใช้จ่ายคิดเป็น 1.9% ของรายได้จากภาคการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม ผลจากการ ’โจมตีใส่กัน“ ระหว่าง ’อิสราเอล vs อิหร่าน“ก่อนหน้านี้ แม้ไม่บานปลาย แต่เมื่อดูที่ ด้านตลาดเงินและตลาดทุน ทั้งของโลกและของไทยก็ผันผวน ซึ่ง สศค. ระบุว่า สถานการณ์ความขัดแย้งทำให้ตลาดเงินและตลาดทุนทั่วโลกผันผวนสูงขึ้น และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวแข็งค่าขึ้น ซึ่งสะท้อนถึงการเคลื่อนย้ายเงินลงทุนไปสู่สินทรัพย์หลักที่นักลงทุนประเมินว่ามีความเสี่ยงต่ำ

ขณะที่ ด้านราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ก็ดังที่ทราบ ๆ กันคือ ปรับตัวสูงขึ้น โดยที่ หลังเกิดเหตุการณ์โจมตีกัน ’ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น“ รวมถึงราคาทองคำ …ซึ่ง ผลเช่นนี้เกิดขึ้นทุกครั้งกับทุกศึก ทุกพื้นที่ของโลก…ทุกชาติ รวมถึงไทย จึง ’วางใจไม่ได้!!“

อย่างไรก็ดี กรณี ’อิสราเอล vs อิหร่าน“ นั้น รศ.ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ นักวิชาการอิสระด้านรัฐศาสตร์และเศรษฐศาสตร์ ให้ความเห็นกับ “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ถึงประเด็น “กระทบไทยมากน้อยแค่ไหน??” โดยระบุว่า…การโจมตีกันนั้นเกิดจากการที่รัฐบาลอิสราเอลสายขวาจัดมองว่าอิหร่านอยู่เบื้องหลัง กลุ่มฮามาส ที่โจมตีอิสราเอล ก็เลยเกิดข้อพิพาทขัดแย้งจนนำไปสู่การโจมตีกงสุลอิหร่านที่ประเทศซีเรีย จนทำให้ฝ่ายอิหร่านตอบโต้กลับอิสราเอลโดย “ยิงจรวด” ใส่อิสราเอล ซึ่ง “การตอบโต้กันไปมานี้ มองว่าอิสราเอลกับอิหร่านโจมตีกันเชิงสัญลักษณ์มากกว่าทำลายล้าง??”

เพราะ… อิหร่านเล่นงานโต้กลับอิสราเอลแต่ก็ดูไม่รุนแรง เป็นการส่งสัญญาณเตือนว่าอย่าเล่นหนัก อิสราเอลก็ตีกลับในลักษณะที่มีขอบเขตจำกัด โจมตีฐานทหารที่โจมตีอิสราเอลเพื่อบอกว่าสามารถตีกลับได้ พูดง่าย ๆ ต่างฝ่ายต่างบันยะบันยัง ตอบโต้กันในขอบเขต ถึงจุดหนึ่งทั้ง 2 ฝ่ายก็คิดว่าต่างฝ่ายต่างไม่เสียหน้าแล้ว ตอนนี้สถานการณ์จึงดีขึ้น บวกกับสหรัฐอเมริกาก็ไม่สนับสนุนอิสราเอลให้ตอบโต้รุนแรง ไม่ต้องการให้มีรบกัน เพราะไม่เป็นผลดีต่อการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่กำลังจะมาถึง

แต่ทั้งนี้ รศ.ดร.สมชาย ก็ระบุว่า… แม้สถานการณ์ ’อิสราเอล vs อิหร่าน“ จะมีแนวโน้มดีขึ้น แต่ ปัญหาระหว่าง ’อิสราเอล vs กลุ่มฮามาส“ ก็ยังไม่หยุด ยังไม่จบง่าย ๆ อิสราเอลยังมีการตอบโต้ ’จะจบจริง ๆ ก็ยังไม่รู้เมื่อไหร่??“ อาจจะจนกว่าจะมีการยอมรับรัฐปาเลสไตน์เกิดขึ้น ซึ่งในขณะนี้ก็ยังไม่ถึงตรงนั้น สถานการณ์ก็จะเป็นไปแบบนี้เรื่อย ๆ…

มีแค่การรบกันระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส ผลกระทบก็เป็นเรื่องราคาน้ำมันที่สูงขึ้น นอกจากนั้นก็จะมีในเรื่องความหวั่นไหว ราคาหุ้นขึ้นลงหากไม่มีสงครามรบกันระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านแบบหนัก ๆ ประเทศไทยก็คงจะไม่มีผลกระทบอะไรมาก ขอแค่อย่าให้มีการรบที่ขยายวงกว้างไปมากกว่านี้“ …ทาง รศ.ดร.สมชาย ระบุไว้

สรุปแล้ว ’ศึกอิหร่านโลกก็ต้องลุ้น??“
โดยที่ ’ไม่ตูมตามลามใหญ่ก็แล้วไป“
ก็ ’ลุ้นเสียว ๆ กันไป…ไทยก็ด้วย!!“.