22 มี.ค. 67 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เชิญ น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม และข้าราชการที่เกี่ยวข้องมาหารือที่ทำเนียบรัฐบาล หลังจากได้รับการร้องเรียนจากภาคธุรกิจ และนักลงทุนว่ามีความล่าช้าในการขอใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (ร.ง.4) ที่ค้างพิจารณาอยู่เป็นจำนวนมาก
นายกฯเศรษฐาขอให้ รมว.อุตสาหกรรม และผู้เกี่ยวข้องช่วยเร่งรัดในกระบวนการขออนุญาต เพราะมีหลายขั้นตอนที่ไม่จำเป็น บางขั้นตอนขึ้นอยู่กับดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ อาจนำไปสู่การเกิดคอร์รัปชันได้ ขอให้เป็นวาระเร่งด่วน เพื่อเป็นการส่งเสริมการค้าการลงทุนทั้งจากนักลงทุนภายในประเทศ และจากต่างประเทศ ซึ่งตรงกับนโยบายของรัฐบาลในเรื่อง ease of doing business
ถัดมาไม่กี่วันก็มีเรื่อง “กากแคดเมียม” ประมาณ 13,800 ตัน ถูกขนจาก จ.ตาก มาเก็บไว้ที่ จ.สมุทรสาคร–ชลบุรี–กรุงเทพฯ แบบไม่ได้ซ่อนเร้นอะไรมากมาย
ทั้งที่กากแร่แคดเมียมดังกล่าว เป็นของเสียอันตรายจากการทำเหมือง แล้วมีการ “ฝังกลบ” แบบปลอดภัยไปแล้วในบ่อ 7 แห่ง ปิดบ่อไปเรียบร้อยแล้วเมื่อปี 61 ตามข้อกำหนดมาตรการผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (EIA) โดยสถานที่ฝังกลบตั้งอยู่ในโครงการโรงถลุงสังกะสี ของบริษัทเอกชนชื่อดัง บนพื้นที่ 2,500 ไร่ ใน จ.ตาก
ฝังกลบไปแล้ว! ไปขุดกันขึ้นมาทำไม? ใคร? มีอำนาจในการอนุญาตให้เอกชนขุดขึ้นมา! ใคร? หน่วยงานไหน? มีอำนาจออกใบอนุญาตขนย้ายกากแคดเมียมจำนวนมาก ต้องใช้รถบรรทุกกี่คัน ผ่านด่านตรวจ ด่านชั่งน้ำหนักมากี่ด่าน กว่าจะไปถึงสมุทรสาคร–ชลบุรี
กากแร่แคดเมียมดังกล่าว ดำเนินการขออนุญาตโดยบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ได้รับอนุญาตขุดและขนย้ายกาก เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.66 เริ่มขนย้ายเดือน ก.ค.66 และขนย้ายเที่ยวสุดท้ายออกจากพื้นที่เมื่อวันที่ 8 ม.ค.67 รวมระยะเวลาขนย้ายกว่า 8 เดือน
ขุด-ขนย้ายกากแร่แคดเมียม แต่นำไปขายต่อถือว่าผิดวัตถุประสงค์ในสัญญาซื้อขาย เพราะบริษัทมีใบอนุญาตกำจัด และสัญญาซื้อขายระบุว่า “ซื้อมากำจัด”
ผู้ต้องหาที่เข้ามอบตัวก็ยอมรับว่า ตอนแรกพยายามส่งออกไปหลอมที่ สปป.ลาว มีคนจีนรอรับซื้อ มีบริษัทที่สามารถแยกแคดเมียม ทองแดง และสังกะสีได้ แต่ปรากฏว่ามีคนจีนติดต่อมาซื้อกากแคดเมียม 5,000 ตัน จึงขายให้กิโลกรัมละ 8.25 บาท และส่งรถมารับเพื่อนำไปไว้ที่ชลบุรี หลังจากนั้นพบว่าคนจีนดังกล่าวพยายามขายต่อให้คนอื่นอีกทอด
งานนี้จึงต้องตรวจสอบกันกราวรูด! ว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐคนไหนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดบ้าง? ตั้งแต่ระดับเล็กๆ ไปจนถึงระดับบิ๊กๆ ทั้งในอดีตและปัจจุบัน
“พยัคฆ์น้อย” ขอฝากไปยัง น.ส.พิมพ์ภัทรา ให้เข้มงวดกวดขันเรื่องการออกใบอนุญาต–ต่อใบอนุญาตโรงงาน ประเภท 101,105,106 อย่าออกใบอนุญาต–ต่อใบอนุญาตให้กับโรงงานห่วย ๆ ไม่ได้มาตรฐาน
ขณะที่โรงงานที่เป็นต้นทาง “กากของเสีย” ก็ต้องการโรงงานห่วย ๆ พวกนี้มากำจัดกากของเสีย เพราะเสียค่าจ้างถูก ๆ แต่สุดท้ายกลับนำกากของเสียไปกำจัดแบบไม่ได้มาตรฐาน หรือไม่กำจัด แต่เอาไปฝังกลบ-เก็บในโกดัง หรือแอบขนไปทิ้งตามพื้นที่รกร้างว่างเปล่าของชาวบ้าน
ทั้งโรงงานต้นทางกากของเสีย-คนขนย้าย-คนกำจัด! ต้องจ่าย “เงินค่าตอบแทนพิเศษ” สำหรับใบอนุญาตเป็นใบ ๆ ไป! จริงหรือไม่? รมว.อุตสาหกรรมต้องหาคำตอบเรื่องเหล่านี้!!.
……………………………….
พยัคฆ์น้อย
