แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ ก็ยังมีการออกข่าว กรณีที่ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านเตือน ผู้ค้าห้ามขายปลาภายในวัด ต.บึงเนียม อ.เมือง จ.ขอนแก่น เพื่อการทำบุญ เสริมความเป็นสิริมงคล โดยมีการยกข้อกฎหมายและ พ.ร.บ.เกี่ยวกับสัตว์ และผลการประชุมมหาเถรสมาคมเมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2561 ซึ่งมีการออกหลักเกณฑ์ในการปฏิบัติ จนเหตุการณ์ปานปลายจนถึงการทำร้ายร่างกายกันนั้น

ดร.สาธิต ปรัชญาอริยะกุล เลขาธิการและผู้อำนวยการสมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย (TSPCA) ได้แสดงความคิดเห็นส่วนตัวว่า จากกรณีดังกล่าวนั้น ก็ทราบข้อเท็จจริงจากสื่อ ซึ่งรู้สึกว่าไม่ควรจะใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหา และควรใช้แนวทางสันติวิธี ข้อกฎหมายที่มีอยู่จะดีกว่า แต่อย่างไรก็ตามต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่หรือผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่เพื่อรักษาผลประโยชน์ส่วนรวมและขอเป็นกำลังใจให้ แต่แน่นอนบางกรณีก็อาจจะเป็นเรื่องของการขัดผลประโยชน์ เรื่องของอาชีพ การทำมาหากิน ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าเห็นใจ แต่ก็ต้องมีวิธีการปรับตัวของการค้าให้เข้ากับสภาพบริบทแวดล้อมทางสังคมและข้อกฎหมายที่มีอยู่ ซึ่งสังคมจะอยู่ร่วมกันได้ก็ควรต้องมีขอบเขตและกติกาของการอยู่ร่วมกันเพื่อความสงบเรียบร้อยและรักษาศีลธรรมอันดีของประชาชน จากกรณีดังกล่าวนั้น ถ้าในแง่การปล่อยสัตว์ในวัด สมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย (TSPCA) ได้รณรงค์เรื่องการยุติการจับสัตว์ในธรรมชาติมาเพื่อปล่อยอย่างต่อเนื่อง เช่น การจัดทำภาพยนตร์สั้น ปล่อยนกบุญหรือบาป? หรือรักไม่ปล่อย เพราะการจับสัตว์เพื่อมาปล่อยก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง แม้การปล่อยสัตว์จะเป็นธรรมเนียมที่สืบทอดต่อกันมา โดยโยงกับความเชื่อและพิธีกรรมทางศาสนา แต่เนื่องด้วยวัตถุทานคือสัตว์ในปัจจุบันต่างจากอดีต เพราะวิธีการจับสัตว์เพื่อมาปล่อยในปัจจุบัน ก็เป็นการทำลายวงจรชีวิตสัตว์ในธรรมชาติ เช่น จับแม่นก ลูกนกก็ตายหมดทั้งรังเพราะขาดอาหาร จับแม่ปลา ลูกปลาก็ถูกกินทั้งหมดคอกเพราะไม่มีผู้ดูแล และเป็นการสนับสนุนวงจรธุรกิจค้าชีวิตสัตว์ เป็นการส่งเสริมให้ทำผิดศีลข้อที่ 1 และจะนำมาสู่การทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์โดยไม่สมควร

สำหรับเรื่องการปล่อยสัตว์ในวัดนั้นเคยมีมติมหาเถรสมาคมฯ ที่สำคัญ 2 เรื่อง คือ 1.กำหนดเขตอภัยทานในพื้นที่วัด พ.ศ.2538 ข้อ 4 การกำหนดเขตอภัยทานขึ้นไว้ โดยความมุ่งหมายเพื่อให้เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์บก สัตว์น้ำ ตลอดถึงปักษีทวิชาติที่ไม่เป็นพิษเป็นภัย ได้อาศัยด้วยความร่มเย็นเป็นสุขปราศจากการถูกเบียดเบียน หรือรบกวนด้วยประการใด ๆ ดังนั้น วัดจึงมีเขตอภัยทาน (animal sanctuary) ซึ่งเป็นเขตที่ห้ามผู้ใดกระทำ อันมุ่งหมายแก่การทำร้ายทำลายชีวิตสัตว์ อันเป็นการกระทำความผิดศีลธรรมเพื่อให้สัตว์ได้อาศัยด้วยความร่มเย็นเป็นสุขปราศจากการถูกเบียดเบียน 2. มติที่ 410/2561 เรื่อง การจัดทำหลักเกณฑ์ วิธีการ ในการปล่อยสัตว์ในวัด โดยออกหลักเกณฑ์ในการปฏิบัติ 3 ข้อ ดังนี้ 1.ให้กำหนดพื้นที่วัดเป็นเขตห้ามเจ้าของสัตว์ นำสัตว์มาปล่อย ละทิ้ง หรือกระทำใด ๆ ให้สัตว์พ้นจากการดูแลของตนโดยไม่มีเหตุอันสมควร 2.ให้กำหนดเขตพื้นที่วัดเป็นเขตห้ามซื้อขายหรือการทำธุรกิจเกี่ยวกับการค้าชีวิตสัตว์ภายในเขตวัด 3.ให้วัดต่าง ๆ ถือปฏิบัติตามพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมสัตว์และการจัดสวัสดิภาพสัตว์ และพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าโดยเคร่งครัด

ดังนั้นเรื่องจากรณีดังกล่าว ในเมื่อวัดมีมติขอความร่วมมือจากผู้ขายสัตว์ภายในวัด ให้ย้ายการขายสัตว์ออกนอกวัด ตามมติเถรสมาคมและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ภายในระยะเวลา 1 เดือนนั้น ผู้ขายก็ควรมีการดำเนินการให้ถูกต้องเหมาะสม ส่วนผู้ที่เกี่ยวข้องก็ควรปฏิบัติกับผู้ค้าอย่างให้เกียรติและช่วยกันหาทางออกร่วมกันเพื่อสร้างสังคมและชุมชน ให้อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขต่อไป.

คลิกอ่านบทความทั้งหมดได้ที่นี่