เรียกว่าสิ้นสุดการรอคอยสำหรับคอหนังค่าย Marvel หลังจาก “โควิด-19” ระบาดหนักจนภาครัฐต้องสั่งปิดโรงหนัง ทำให้ใครหลายคนที่อยากดู Black Widow “แบล็ค วิโดว์” ต้องผิดหวังที่จะได้ชมสุดยอดภาพยนตร์แนวแอ๊คชั่นต่อสู้ระดับโลก กระทั่งเมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา ภาครัฐได้อนุญาตให้โรงภาพยนตร์เปิดให้บริการได้ ซึ่งแน่นอนว่าเฉพาะเรื่อง Black Widow “แบล็ค วิโดว์” มีแต่คนเข้าไปชมกันจนครบที่นั่งในแต่ละรอบ ท่ามกลางการรักษาระยะห่างและป้องกันโควิด-19 กันอย่างเต็มที่ ขณะที่ Box office แจ้งว่าเฉพาะช่วงที่ฉายภาพยนตร์เรื่องนี้ในสหรัฐอเมริกานั้นสามารถกวาดรายได้ไป มากกว่า 379 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

เรื่องย่อ Black Widow “แบล็ค วิโดว์ “
นาตาชา โรมานอฟ หรือ Black Widow (รับบทโดย สการ์เลตต์ โจแฮนสัน) เธอคือนักฆ่าสาวที่ปรากฏตัวครั้งแรกใน “Iron Man 2″ (2010) เรื่องราวของเธอไม่มีที่มาที่ไปแน่ชัด…นอกจากรู้ว่าเป็นสายลับและนักฆ่าสาวชั้นแนวหน้าขององค์กรใต้ดิน “Black Widow” หรือ “สายลับแม่ม่ายดำ” จนกระทั่งการต่อสู้ของ “นาตาชา” ต้องจบลง….หลังจากที่เธอยอมเสียสละชีวิตตัวเองเพื่อแลกกับอัญมณี Soul Stone เพื่อให้ “คลินท์ บาร์ตัน” หรือ “ฮอว์กอาย” นำกลับไปให้กลุ่มรวบรวมจนสามารถใช้พลังจาก Infinity Stones ให้ฟื้นคืนชีวิตของคนที่ถูกทำให้สลายไปแล้ว ได้กลับมาต่อสู้กับกลุ่มของ “ทานอส” อีกครั้งในหนัง The Avengers Endgame

ดังนั้น “Black Widow” จึงเป็นภาพยนตร์ที่เล่าย้อนกลับไปในช่วงหลังจากเหตุการณ์ในหนัง The Avengers (ภาคแรก) ที่เธอได้กลายเป็นสมาชิกของกลุ่มไปแล้ว แต่กลับโดนหมายหัวถูกติดตามไล่ล่าจับกุม เพียงเพราะไม่เห็นด้วยกับ “ข้อตกลงโซโกเวีย” หรือ Sokovia Accords (กฎหมายที่สร้างขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้เหล่าซูเปอร์ฮีโร่ ที่อาจกระทำอะไรเกินเลย จนทำให้มีผู้คนบริสุทธิ์ต้องบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก) ระหว่างการหลบหนี “เยเลนา เบโลวา” (รับบทโดย ฟลอเรนซ์ พิว) หนึ่งในสาว Widow ได้ล่วงรู้ความลับบางอย่าง จึงได้พยายามทิ้งเบาะแสเพื่อให้ “นาตาชา” ออกติดตามหาตัวเธอ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป สามารถติดตามเรื่องราวเหล่านี้ได้ต่อในโรงภาพยนตร์และ ดิสนีย์+ ฮอตสตาร์ (Disney+ Hotstar) เท่านั้น!

จุดเด่นของ Black Widow “แบล็ค วิโดว์”
ฉาก CG โปรดักชั่นจัดหนักจัดเต็มได้อย่างสวยสดงดงาม ไม่ว่าจะเป็นฉากขับรถหุ้มเกราะไล่ล่ากลางถนน ฉากขับ ฮ.แล้วมีหิมะถล่ม ฉากยานบินระเบิดกลางอากาศ บอกได้คำเดียว่า…ไม่น่าพลาดด้วยประการทั้งปวง!! เช่นเดียวกับบทบาทของเหล่านักแสดงหลักที่มีการกัดจิก ล้อเลียน รวมทั้งหักมุมแบบเฮฮา มีความดราม่าเล็ก ๆ แฝงอยู่ให้เห็น ทั้งยังเล่นกับความรู้สึกของผู้ชม โดยเฉพาะในประเด็นความเป็น “ครอบครัว และการกดขี่ข่มเหงความเป็นมนุษย์” ซึ่งเหล่าคอหนังค่าย Marvel ที่ได้ติดตามเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง จะรู้อยู่แล้วว่าตัวเอกอย่าง “นาตาชา” ที่ในอนาคตต้องจบชีวิตนั้น อาจถึงกับต้องน้ำตาซึมก็เป็นได้

จุดอ่อนของ Black Widow “แบล็ค วิโดว์”
การนำเสนอเรื่องราวในลักษณะของอารมณ์ตัวละคร ที่กัดจิกกันบ่อย ๆ ทำให้รู้สึกว่าเป็นการสู้ไป…บ่นไป สู้ไป…เล่าเรื่องดราม่าไป ไม่ตอบโจทย์ให้แฟนหนังรู้สึกคล้อยตามอารมณ์ได้แบบสุดๆ แม้จะมองในมุมอารมณ์ขันได้ก็ตาม นอกจากนี้หนังแนวสายลับก็มักจะใช้สูตรสำเร็จ อย่างเช่น “…สืบหาตัวการใหญ่ให้เจอแล้วก็บุกไปถล่ม…” ทำให้คอหนังเดาทางได้สบาย ๆ หลังจากชมไปแล้วครึ่งเรื่อง ก็ยิ่งทำให้ความน่าสนใจหรือความสนุกถูกลดทอนลงไปมากอีกด้วย ขณะเดียวกัน ตัวละครบางตัวที่ดูเหมือนจะได้เล่นใหญ่ หรือต้องซัดกันให้แหลกไปข้าง กลับถูกตัดทอนบทให้กลายเป็นเพียงตัวประกอบแบบโฉ่งฉ่าง!!??!! หรือ แม้แต่ฉาก “นักรบ Widow” แอ๊คชั่นต่อสู้แบบ 10 ต่อ 1 ซึ่งต้องซัดกันไม่มียั้ง ปรากฏว่า ดูยังไงก็ไม่สมราคาค่าย Marvel อยู่ดี

3/5 กะโหลก บทของตัวละครที่ยังขาดๆ เกินๆ รวมไปถึงการใช้ตัวละครแบบไม่คุ้มค่า ไม่แปลกใจที่เว็บไซต์วิจารณ์ภาพยนตร์ในต่างประเทศถึงให้คะแนนความน่าดูน้อยกว่าหนังเรื่องอื่น ๆ ในค่ายนี้ อย่างไรก็ดี ถ้าไม่คิดอะไรมาก ลองไปดูฉากแอ๊คชั่นไล่ล่ากลางเมือง หรือ ฉากพังยานกลางอากาศ ก็ยังถือว่าสนุกพอสมควร เด็กเล็ก-เด็กโต ดูได้แน่นอน ไม่มีอะไรสยดสยอง

—————————————————-

คอลัมน์ : ดูหนังกับหมี
โดย : แพนด้าอ้วน

ขอบคุณข้อมูล ภาพจาก เว็บไซต์ Youtube และ ดิสนีย์+ ฮอตสตาร์ (Disney+ Hotstar)