จากหลายสถานการณ์ในบ้านเมือง ไม่ว่าจะเป็นวิกฤติไวรัสโควิด-19 ปัญหาวัคซีนไม่พอ คนไทยไม่ได้รับวัคซีนคุณภาพ ปัญหาเศรษฐกิจย่ำแย่ และการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยเต็มใบ ยังคาราคาซังอยู่

ทำให้ “พยัคฆ์น้อย” นึกถึงบรรยากาศช่วงปลายปีที่แล้ว ได้มีโอกาสคุยกับนายรัศม์ ชาลีจันทร์ อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศโมซัมบิก และประเทศคาซัคสถาน เจ้าของเพจ “ทูตนอกแถว” ที่มีผู้ติดตามอ่านเป็นแสน ๆ คน

ประเด็นที่นายรัศม์พูดกับผมและสื่ออื่น ๆ คือความประทับใจตอนเป็นข้าราชการเล็ก ๆ ในกระทรวงการต่างประเทศ คือทำงานสนุกแต่เหนื่อยที่สุด ในสมัยนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร เพราะมี “วีไอพี” จากต่างประเทศมาเยือนไทยเกือบทุกวัน

โดยเฉพาะการได้ทำงานใหญ่ “ครองราชย์ 60 ปีของ ร.9” ในฐานะ ผอ.กองรับรอง จึงได้ดูแลประมุข-ผู้นำต่าง ๆ 25 ประเทศ คงเป็นงานยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ไม่มีที่ไหนจัดได้เท่านี้ น่าภาคภูมิใจมาก ถือเป็นวิสัยทัศน์ของรัฐบาลล้วน ๆ

แต่เมื่อมีการรัฐประหารวันที่ 19 ก.ย.49 แล้วได้ “รัฐบาลขิงแก่” เข้ามาบริหารประเทศประมาณ 1 ปี เป็นช่วงเวลาที่ว่างมาก ผอ.กองรับรองต้องว่างงาน เพราะไม่มีใครมาเยือนประเทศ ไทยเลย!

เมื่อพูดถึงการรัฐประหารวันที่ 22 พ.ค. 57 โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ในขณะนั้น นายรัศม์บอกว่าประเทศส่วนใหญ่เป็นประชาธิปไตย ซึ่งเป็นเทรนด์ของโลกที่มีผลต่อเศรษฐกิจ สวัสดิภาพ และการช่วยเหลือทางด้านต่าง ๆ

ถ้าไทยอยู่ในวังวน “รัฐประหาร” ยุโรป-อเมริกาไม่เอาด้วยอยู่แล้ว ก็ต้องหันไปหาจีน ติดต่อค้าขาย-ลงทุนกับจีน แต่จีนรู้ว่าคุณไปหายุโรป-อเมริกาไม่ได้ แล้วเดินเซเข้ามาหาก็ต้อง “จัดหนัก” เพราะจีนรู้ว่าคุณไม่มีทางไป! แม้จะมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ มีเลือกตั้งเดือน มี.ค. 62 แต่มี ส.ว. 250 คน มาจากการแต่งตั้ง คุณคิดว่าอเมริกาและอังกฤษเขาโง่หรือ?

ถ้าเอาข้อมูลเหล่านี้มาประมวลกับข่าวสารต่าง ๆ ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ทั้งกรณีจีนไม่พอใจสื่อมวลชนในเนปาล-บังกลาเทศ เปิดเผยราคาวัคซีนยี่ห้อหนึ่งของจีนที่ขายให้เนปาล-บังกลาเทศ ราคาโด๊สละ 10 ดอลลาร์ฯ (300 บาท) เท่านั้น

แต่รัฐบาลไทยซื้อวัคซีนจากจีนในราคาเท่าไหร่? ไม่มีใครรู้ เพราะรัฐบาลคงเก็บเอกสารมิดชิด! ไหนจะกรณีคนไทยไม่ได้รับวัคซีนคุณภาพ “ไฟเซอร์-โมเดอร์นา” เหมือนหลาย ๆ ประเทศในอาเซียน และยังไม่เคยเห็นนายกฯ ประยุทธ์ โทรฯ ไปหาผู้นำอเมริกา ประเทศมหามิตรเก่าแก่ของไทย เพื่อขอซื้อ-ขอสนับสนุนวัคซีน “ไฟเซอร์-โมเดอร์นา”

ทั้งหลายเหล่านี้พอจะสรุปได้ว่า? ถ้าไทยยังเป็นแค่ประชาธิปไตยลับลวงพราง นายกฯ ประยุทธ์จะไม่มี “เครดิต” ในเวทีโลกเลย! นำมาซึ่งการเสียเวลา เสียโอกาส สร้างความเสียหายกับประเทศและคนไทยอย่างใหญ่หลวง

แต่พรรคการเมืองร่วมรัฐบาลทำท่าจะเล่น “ปาหี่” แก้รัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ตอนแรกทำท่าขึงขังจะส่งนายบัญญัติ บรรทัดฐาน ส.ส.บัญชีรายชื่อ มาเป็นประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่แผ่วไปดื้อ ๆ เมื่อพรรคพลังประชารัฐดันนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ (ไม่รู้อันดับเท่าไหร่) เข้ามาเสียบแทน!

พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย อย่าลืมจุดยืนที่รับปากว่าจะแก้รัฐธรรมนูญ แล้วทำไมปล่อยนายไพบูลย์เข้ามายึดหัวหาด เพราะนายไพบูลย์คือตัวแทนของนายกฯ การแก้รัฐธรรมนูญจะผ่านหรือไม่ผ่านขึ้นอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ และ ส.ว. 

หรือว่า “ประชาธิปัตย์-ภูมิใจไทย” พอใจมากกับสถานะ “ลูกหาบ” ให้ พล.อ.ประยุทธ์ไปเรื่อย ๆ แต่อย่าลืมว่าถ้าแก้รัฐธรรมนูญในสภาไม่ผ่าน มันต้องลากลงมาแก้กันบนถนน สารพัดม็อบจะลากวิกฤติต่าง ๆ ลงมาแก้กันบนถนน

ถ้าถึงวันนั้น “นายจุรินทร์-นายอนุทิน” ต้องรับผิดชอบเต็ม ๆ ในฐานะที่ปล่อยให้ประเทศเสียหายย่อยยับในทุกด้าน ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยลับลวงพราง ภายใต้การบริหารจัดการของ “ผู้นำ” ประเทศที่ไร้เครดิต!!

——————-
พยัคฆ์น้อย