สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เป็นหน่วยงานที่ถูกจับตามองจากสังคมและสื่อมวลชนต่อเนื่องในมิติการทำงานด้านการบังคับใช้กฎหมาย โดยเฉพาะเรื่องราวของการจัดการกลุ่มผู้ชุมนุมในรอบปีที่ผ่านมา มีตัวเลขคดีแจ้งความ ดำเนินคดี ม็อบ เป็นหลักพันคดีเข้าไปแล้ว?!?

ความรุนแรงที่ “สามเหลี่ยมดินแดง” จากกลุ่มม็อบหลายชื่อหลายกลุ่มเข้ามาสร้างความปั่นป่วนโดยแตกต่างจากการชุมนุมในจุดอื่น ๆ สร้างความหวาดกลัวและกังวลกับคนในพื้นที่ รวมถึงตำรวจที่เข้ามาดำเนินการด้วยท่าทีเพียง “ป้อง-ปราม” เท่านั้น???

ไม่ดำเนินการจับกุมหรือสลายให้ชัดเจน จนเกิดความเดือดร้อนของ “คนดินแดง” ในการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างมากและต่อเนื่องมานานกว่า 2 เดือนเต็ม ๆ

1 ต.ค.64 วันแรกของการทำงาน “นครบาล” ชุดใหม่!! พล...นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบก.สส.บช.น. ประเดิมนำกำลังเข้าจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย พบเป็นคนก่อเหตุปาระเบิดใส่ตำรวจคุมม็อบเมื่อวันที่ 11 ก.ย. 64 โดยจับกุมและตามยึดระเบิดได้จำนวนมากในพื้นที่ จ.นนทบุรี

หลังจากใช้เวลาซุ่มสืบสวนหาข่าวเกือบเดือนและเชื่อว่าน่าจะหยุดการก่อเหตุได้! แต่ทว่าห่างไปอีกไม่กี่วัน ตำรวจก็พลาดท่าอีกจนได้ เมื่อ “นาย” สั่งชุด คฝ.เข้าไปปิดล้อมพื้นที่ซอยต้นโพธิ์ แฟลตดินแดง กลางดึกคืนวันพุธ 6 ต.ค.64 เพื่อไล่จับกลุ่มวัยรุ่นป่วนเมือง จนถูกซุ่มยิงกระสุนเจาะเข้าหัว “หมู่เด” ส.ต.ต.เดชวิทย์ เล็ทเทนสัน เจ็บสาหัส ทำเอาทั้ง “เพื่อนและนาย” ขวัญเสียกับเหตุการณ์ที่คาด
ไม่ถึง!!

ทีมโฆษก ตร. ทีมโฆษก บช.น. ต่างออกมาเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สิ่งที่ตำรวจดำเนินการหลังเกิดเหตุแล้ว ฟังได้บ้าง ฟังไม่สมเหตุสมผลบ้าง ก็ต้องทำใจกันไปในยุคที่ “รอง ผบช.น.” บางคนไม่มีประสบการณ์จัดการม็อบ และยิ่งเป็นกลุ่มม็อบวัยรุ่นป่วนเมืองที่ไม่มี “แกนนำ” ตายตัว ภาพราวกับว่านัดรวมตัวกันมาปะทะ ตร. มากกว่าเรียกร้องสิทธิประชาธิปไตย

เหตุการณ์ “หมู่เด” ถูกลอบยิงจึงน่าคิดต่อไปว่า หลังจากนี้นอกจากการปรับแผน ยุทธวิธีจัดการม็อบวัยรุ่นบริเวณสามเหลี่ยมดินแดงแล้ว การสั่งงานตามสายบังคับบัญชาที่มีการมอบหมายจาก “น.1” พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. มาแล้วนั้น

สายงานความมั่นคง รอง ผบช.น. คนใด??? จะมาวางแผน สั่งการ และมอบหมายใคร ให้เป็น “ผบ.เหตุการณ์” ในแต่ละวันแต่ละพื้นที่…ถ้ายังปล่อยเหมือนเดิม ไม่มีการหมุนคน สับเปลี่ยนกำลังก็จะเกิดความเหนื่อยล้าและอาจจะเข้าทาง “มือมืด” ที่จ้องเล่นงาน “ตำรวจ-ม็อบ” ให้ผิดใจกันก็เป็นได้

การลงพื้นที่หลังเกิดเหตุของ บิ๊กปั๊ดพล...สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. มีนัยสำคัญทั้งเรื่องของการทำเป็นตัวอย่างให้บรรดา “ลูกน้อง” ทั้งเข้าไปเสริมสร้างขวัญกำลังใจแก่ตำรวจและประชาชน รวมถึงการลงพื้นที่ของ “น.1” ที่ต้องการให้ชาวดินแดง ไว้ใจและเชื่อใจตำรวจให้มากยิ่งขึ้น

การจัดการม็อบ ตำรวจมีการวางแผนไว้ 3 แนวทาง คือ 1.ม็อบที่มาชุมนุมตามวันเวลาสถานที่ตามนัดหมาย ปราศจากความรุนแรงใด ๆ ตำรวจมีหน้าที่อำนวยความสะดวกและป้องกันเหตุร้าย 2.ม็อบที่มาชุมนุมแล้วใช้ความรุนแรง ตำรวจก็ต้องปราบปรามให้เด็ดขาดเพราะสร้างความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น 3.ม็อบที่แตกกระจายไปก่อเหตุตามจุดต่าง ๆ ในลักษณะป่วนเมือง ไม่ถือว่าเป็นม็อบแต่เป็นคนร้ายที่สร้างความเสียหายแก่ส่วนรวมในมิติต่าง ๆ ตำรวจต้องดำเนินการจับกุมตามกฎหมายความผิดนั้น ๆ อย่างเต็มกำลัง

เป็นแนวทางหนึ่งที่ “น.1” คนใหม่ พล...สำราญ นวลมา ผบช.น. ให้เป็นแนวทางไว้เพื่อให้แต่ละพื้นที่แต่ละเหตุการณ์ปรับใช้งานให้เหมาะสม

ปัจจุบันการจับกุมกลุ่มที่ออกมารวมตัวเคลื่อนไหวหลากหลายกลุ่ม ยังไม่รวมพวกที่เป็นคดีความตามโรงพักต่าง ๆ มีทั้งจับกุมซึ่งหน้า จับกุมตามหมายจับ จับแจ้งข้อหาตามหมายเรียก ฯลฯ

ตำรวจต้องวางแนวทางการดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมาในทุก ๆ ม็อบที่ทำความผิดให้ได้ เพื่อสร้างบรรทัดฐานกฎหมายให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ไม่ใช่เป็น “สองมาตรฐาน” ดังเช่นในอดีตที่ถูกกล่าวหาและหยิบยกมาเป็นเชื้อไฟจุดให้มวลชนมาถล่มตำรวจและรัฐบาล.

———————
เชิงผา