“น้ำตาล-จุฑามาศ กุลวงค์” บอกกับ “ทีมวิถีชีวิต” เมื่อวันที่เราได้พูดคุยกับเธอเกี่ยวกับ “2 อาชีพที่หลงรัก” ทั้งการเป็น “ไรเดอร์” และ “ยูทูบเบอร์กับติ๊กต็อกเกอร์” โดยเรื่องราวของเธอ และการทำอาชีพของเธอนั้น ก็น่าสนใจ จนทำให้เธอมีแฟนคลับที่คอยติดตามและให้กำลังใจเธอจำนวนไม่น้อย ซึ่งวันนี้เธอจะขยายความชีวิตเพื่อให้ทุกคนได้ทำความรู้จักกับเธอมากขึ้น…

“เราเป็นคนรักอิสระ และชอบเดินทาง จึงเป็นเหตุผลที่ตัดสินใจลาออกจากงานประจำมาเป็นไรเดอร์ส่งอาหาร เพราะสามารถยืดหยุ่นเวลาได้ ทำให้มีเวลาไปทำสิ่งที่เราชอบอย่างการท่องเที่ยว กับเป็นยูทูบเบอร์ ติ๊กต็อกเกอร์” สาวเจ้าของเรื่องราวที่ชื่อ น้ำตาล-จุฑามาศ”ไรเดอร์สาวและเจ้าของช่องยูทูบ “Tarn jutamat” และติ๊กต็อก “jknamtarnใช่แกร็บน้อยที่ชอบหนีเที่ยวป๊ะ” ขยายความเรื่องอาชีพกับ “ทีมวิถีชีวิต” ก่อนที่จะเล่าย้อนถึงเส้นทางชีวิตให้ฟังว่า เธอเป็นลูกสาว-ลูกคนเล็กของ คุณพ่อสุรชัยคุณแม่ฉวีวรรณ มีพี่ชายชื่อ อาทิตย์ ซึ่งเธอเกิดและเติบโตที่ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ตอนเด็ก ๆ ก็ใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านเกิด จนหลังจากสอบเข้า คณะวิทยาศาสตร์ สาขาชีววิทยา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้ เธอก็ออกมาใช้ชีวิตด้วยตัวเองในช่วงที่เรียนมหาวิทยาลัย

ส่วน “จุดเริ่มต้นการเป็นยูทูบเบอร์” นั้น เธอเล่าว่า จริง ๆ ไม่ได้คิดจะมาเป็นยูทูบเบอร์เลย แค่คิดว่าหลังเรียนจบแล้วจะหางานทำที่ตรงกับสายวิชาที่เรียนมา ซึ่งในช่วงที่รอรับปริญญาเธอได้เลือกไปทำงานเป็นพนักงานอยู่ที่ร้านคาเฟ่แห่งหนึ่งเพื่อหารายได้ไปก่อน โดยในช่วงทำงานอยู่ร้านคาเฟ่นี้ก็ทำให้เธอมีโอกาสได้ทำงานหลายหน้าที่ รวมถึงยังใช้ช่วงวันหยุดและเวลาว่างไปทำงานที่โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษอีกระยะหนึ่งด้วย แล้วต่อมาก็จับพลัดจับผลูได้ก้าวเข้าสู่โลกของยูทูบเบอร์ ในช่วงที่โควิด-19 ระบาด เพื่อจะหารายได้เสริม

ด้วยความเป็นคนชอบถ่ายรูป สมัยเรียนมหาวิทยาลัยก็มักรับจ้างถ่ายรูปงานต่าง ๆ อยู่แล้ว ก็เลยมีความคิดที่อยากลองเป็นยูทูบเบอร์ดู เพราะคิดว่าน่าจะหารายได้เสริมให้ตัวเองได้ จึงเริ่มจากเรียนรู้การตัดต่อวิดีโอ และลองทำคลิปลงช่องของตัวเอง แต่ช่วงแรกก็ยังไม่รู้ว่าจะทำคอนเทนต์อะไร ก็เลยลองทำไปเรื่อย ทั้งคลิปแต่งหน้า ทั้งทำอาหาร เพราะยังหาตัวเองไม่เจอ รู้แค่ว่าอยากทำ ซึ่งช่วงแรก ๆ คนติดตามไม่เยอะ มียอดคนดูแค่หลักสิบ เพราะเราไม่มีฐานแฟนคลับ ซึ่งช่วงนั้นก็มีหลายคนบอกเราว่าทำอะไรอยู่บ้าง เพ้อเจ้อฝันเฟื่องบ้าง แต่ก็ไม่ได้ท้อ เพราะเป็นสิ่งที่เราอยากทำ ซึ่งก็ทำคลิปมาเรื่อย ๆ และพยายามหาตัวเองไปด้วย โชคดีที่มีพ่อแม่คอยให้กำลังใจ”

ออกท่องเที่ยวแบบลุย ๆ

น้ำตาล เล่าย้อน พร้อมเผยถึงตอนที่โดนคำดูถูกว่า เธอใช้วิธียิ้มสู้กลับ และก้มหน้าก้มตาทำต่อไปเพื่อพิสูจน์ตัวเอง เพราะเธอมองว่า เวลาคนเราลงมือทำอะไรครั้งแรก ก็เป็นเรื่องปกติที่จะมีคนที่ไม่เห็นด้วยเสมอ แต่ถ้าหากเรามั่นใจว่าสิ่งที่ทำนั้น เราชอบและอยากทำจริง ๆ ถึงที่สุดแล้วก็จะไม่มีใครที่มาทำให้เราถอดใจได้ ทั้งนี้ เธอบอกว่า หลังก้าวสู่การเป็นยูทูบเบอร์ เธอก็ตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิต ด้วยการลาออกจากงานประจำเพื่อมาทำยูทูบเต็มตัว และอีกเหตุผลที่เธอเลือกลาออกจากงานนั่นก็เพราะด้วยนิสัยส่วนตัว ที่ชอบท่องเที่ยว และไม่ชอบทำงานในห้อง หรือทำงานอยู่กับที่ เธอจึงเลือกวิถีการเป็น “ยูทูบเบอร์”

แต่หลังลาออกจากงานประจำมาได้สักพักหนึ่ง เงินเก็บที่มีก็ค่อย ๆ ร่อยหรอ เพราะไม่มีรายได้เข้ามาเลย ทำให้สุดท้ายก็เลยต้องกลับไปทำงานประจำอีก เพียงแต่ครั้งนี้เธอตัดสินใจว่าจะกลับไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่บ้านเกิด จ.อุดรธานี อย่างไรก็ดี หลังกลับบ้านเกิดและทำงานประจำอีกครั้งได้ไม่นานมาก เธอก็ตัดสินใจลาออกจากงานอีกหน และเริ่มมาเป็น “ติ๊กต็อกเกอร์” โดยเธอเปิดช่องของตัวเองขึ้นมาอีกหนึ่งช่องทาง เพื่อถ่ายทอดชีวิตเรื่องราวการทำงานกับไลฟ์สไตล์ของเธอ ไปพร้อม ๆ กับการขายของออนไลน์เพื่อหารายได้เลี้ยงตัวเองควบคู่ไปด้วย

คนเริ่มรู้จักเราก็ตอนที่เบนเข็มมาทำติ๊กต็อก จนทำให้คนเริ่มรู้จักเราเยอะมากขึ้น และตามไปซัพพอร์ตตามช่องทางโซเชียลต่าง ๆ ของเรามากขึ้น ทำให้จากที่มีคนติดตามแค่หลักร้อย ก็พุ่งไปจนถึงหลักแสน จนตอนนี้เหลืออีกนิดเดียวเราก็จะมีเอฟซีที่ติดตามครบ 2 แสนแล้ว” เธอเล่าเรื่องนี้ด้วยน้ำเสียงดีใจ

ลุคสาวแว่นสุดคิวท์ 2 อาชีพ 2 สไตล์

ขณะที่อาชีพ “ไรเดอร์” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งอาชีพของเธอนั้น น้ำตาล เล่าว่า ช่วงที่ยังไม่ค่อยมีคนรู้จัก ตอนที่ยอดคนติดตามยังไม่เยอะเหมือนตอนนี้ ด้วยความที่เงินเก็บที่มีเริ่มหมด ทำให้เธอต้องมองหาอาชีพเสริม ซึ่งโจทย์ของเธอตอนนั้นก็คือ ต้องเป็นอาชีพที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ตัวเอง และต้องเป็นอาชีพที่ยืดหยุ่นเวลาได้ด้วย ก็เลยมาลงตัวที่อาชีพไรเดอร์ เพราะเป็นอาชีพอิสระ สามารถจัดการเวลาได้ และที่สำคัญยังเป็นงานที่ทำให้เธอมีเวลาให้ครอบครัวด้วย ซึ่งเธอมีหน้าที่ต้องคอยพาคุณพ่อของเธอไปหาหมอ โดยในช่วงที่เป็นไรเดอร์ได้สัก 2-3 เดือน ปรากฏคุณพ่อเธอป่วยเป็นโรคไต ทำให้ต้องเข้ารักษาที่ตัวเมืองอุดรธานี เธอจึงรับอาสาเรื่องนี้ ส่วนคุณแม่ก็ให้อยู่ที่บ้าน เพราะเธอไม่อยากให้คุณแม่ต้องมาลำบาก

ช่วงนั้นเรามีหน้าที่พาคุณพ่อไปฟอกไต โดยระหว่างที่คุณพ่อฟอกไตประมาณ 4 ชั่วโมง เราก็จะออกไปวิ่งงาน จนคุณพ่อใกล้ฟอกไตเสร็จ เราก็ขับมารับคุณพ่อเพื่อพากลับไปบ้าน พอส่งเสร็จเราก็ออกไปวิ่งไรเดอร์ต่อ ซึ่งช่วงนั้นยอมรับว่าเหนื่อย แต่ก็สู้”เป็น “จังหวะชีวิต” ของสาวคนนี้ช่วงที่ก้าวสู่อาชีพไรเดอร์ได้สักระยะ

ยิ้มหวานหลังเรียนจบรับปริญญา

เธอได้บอกอีกว่า ช่วงที่ทำอาชีพนี้ แรก ๆ คุณพ่อคุณแม่ก็เป็นห่วง แต่ไม่ได้ห้าม เพราะปล่อยให้เราอิสระในการเลือกใช้ชีวิต เพราะมั่นใจว่าสามารถดูแลตัวเองได้ เพียงแค่เป็นห่วงตามปกติ เพราะเป็นลูกสาว อย่างไรก็ตาม แม้ทางบ้านจะไม่คัดค้านที่เธอทำอาชีพนี้ แต่เอาเข้าจริง ๆ ในช่วงแรก ๆ ตัวเธอเองต่างหากที่มีคำถามกับอาชีพที่ทำ โดยเธอไม่แน่ใจว่าอาชีพไรเดอร์จะใช่ทางของเธอหรือไม่? เพราะด้วยความเป็นผู้หญิง ทำให้ตอนทำงานนี้ใหม่ ๆ จะระวังตัวมาก เพราะยังไม่คุ้นกับอาชีพนี้ แต่พอทำไปทำมาก็รู้สึกชอบและหลงรักงานนี้มาก ๆ เพราะเป็นไรเดอร์ทำให้ได้เดินทางท่องเที่ยวไปในตัว กับได้เจอผู้คนหลากหลาย

บางคนก็ไม่ได้ดีกับเราเลยนะ (หัวเราะ) ก็มีบางคำพูด บางกิริยาที่ลูกค้าแสดงออกมา ที่เรามองว่าเป็น Toxic ชีวิตมาก แต่ก็พยายามไม่เก็บมาคิด พยายามปล่อยวาง ปล่อยผ่านไป” เป็นอีกฉากชีวิตเบื้องหลังของไรเดอร์สาวรายนี้

ทั้งนี้ ปัจจุบัน น้ำตาล ก็ยังทำอาชีพ ไรเดอร์ ควบคู่กับการเป็น ยูทูบเบอร์ และติ๊กต็อกเกอร์ ไปพร้อมกัน ซึ่งสาเหตุที่เจ้าตัวเลือกทำงานที่ต่างกันนี้ควบคู่กันนั้น เธอบอกเหตุผลว่า นอกจากรักและชอบทั้ง 2 อาชีพนี้แล้ว รายได้จากการทำงานไรเดอร์บางเดือนมีรายได้เทียบเท่ากับการทำงานประจำได้เลย แต่ด้วยเหตุที่เธอเป็น อินฟลูเอนเซอร์ ด้วย ก็ทำให้ไม่ได้ขับประจำเหมือนไรเดอร์คนอื่น และในแต่ละเดือนก็จะมีช่วงที่เรียกว่า “หนีเที่ยว” เดือนละครั้ง เพื่อออกไป “ชาร์จพลังชีวิต”

เราจะขับไรเดอร์เพื่อเก็บเงิน พอได้จำนวนที่วางแผนไว้ ก็จะพักอาชีพไรเดอร์ และแบกกล้องออกไปถ่ายคลิปทำคอนเทนต์ท่องเที่ยวทันที ซึ่งแรก ๆ เรามักจะเดินทางคนเดียว แต่หลัง ๆ จะมีเพื่อนคู่หูไปด้วย ก็สนุกไปอีกแบบ ทำให้ไม่เหงามากเวลาที่ต้องขี่รถเดินทางไปทั่ว”

น้ำตาล-จุฑามาศ” สาวไรเดอร์ อีกหนึ่งคนดังโลกโซเชียล บอก “ทีมวิถีชีวิต” ในช่วงท้ายในการพูดคุยกันว่า เธอตั้งใจเอาไว้แล้วว่า อยากที่จะทำอาชีพไรเดอร์และเป็นยูทูบเบอร์ต่อไปให้ถึงที่สุด หรือจนกว่าจะทำไม่ไหว เพราะรักทั้ง 2 อาชีพ ส่วนคนที่สนใจอยากใช้ชีวิตสไตล์เธอนั้น เธอก็มีคำแนะนำคือ “ต้องกล้าลงมือทำ”โดยเธอเชื่อว่าน่าจะมีหลายคนที่อยากเดินทางท่องเที่ยวแบบเธอ เพียงแต่ยังลังเล ยังไม่กล้าที่จะเริ่มต้น ซึ่งเธอก็อยากจะให้กำลังใจให้เริ่มทำ… “ถ้าทำแล้วไม่ประสบความสำเร็จ หรือไม่ดีอย่างที่หวังไว้ ก็ให้บอกตัวเองว่าช่างมัน ไม่เป็นอะไร เพราะยังดีกว่ามัวแต่กลัวจนไม่ยอมทำเลย… เพราะฝันที่วาดไว้นั้นจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย จะเป็นจริงไม่ได้เลย ถ้าไม่เริ่มต้นที่จะลงมือทำ ดังนั้น…ก้าวแรกสำคัญเสมอ”.

กฎเข้ม’ ชีวิต ‘ไรเดอร์หญิง’

ถึงแม้ “ห้องทำงานอาชีพไรเดอร์” นั้นจะ “อยู่กลางแดดอยู่กลางแจ้ง” ที่ต้องเจอกับแดด ควัน มลพิษ เกือบทั้งวัน แต่ “เรื่องความสวยความงามก็ไม่ทิ้ง” โดย “น้ำตาลจุฑามาศ กุลวงค์” บอกว่า ผู้หญิงกับความสวยความงามเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งมีหลายคนถามเธอว่า “ขับไรเดอร์ยังไงหน้าไม่โทรมเลย?” ซึ่งเธอก็บอกเคล็ดลับไปว่า “ต้องมีอุปกรณ์กันแดดคุณภาพดี” อาทิ ผ้าบัฟ ปลอกแขน และที่สำคัญ “ต้องทาครีมกันแดดให้ถูกวิธี” คือไม่ใช่เพิ่งทาครีมแล้วออกแดดเลย แต่ต้องทาก่อนออกแดดไว้ก่อนสัก 15-20 นาที ครีมกันแดดถึงจะมีประสิทธิภาพป้องกันได้ดีที่สุด

ส่วนอีก “กฎเข้ม” ที่เกี่ยวพัน “ความปลอดภัย-ชีวิต” นั่นคือ หากง่วงหรือมีอาการไม่ดี “ต้องไม่ฝืนขับขี่” เพราะไม่เพียงเสี่ยงต่อสวัสดิภาพตัวเอง แต่ยังอาจเกิดอุบัติเหตุทำให้คนใช้รถใช้ถนนคนอื่น ๆ เกิดอันตรายด้วย และอีกข้อคือ “ต้องรู้จักระวังตัว”ยิ่งเป็นไรเดอร์ผู้หญิง ยิ่งต้องระวังมากขึ้น โดยพยายามไม่วิ่งงานในที่เปลี่ยว ๆ หรือมืด ๆ หรือหากรู้สึกเอะใจกับพิกัดหรือโลเคชั่นที่ลูกค้าส่งมาให้ ก็ต้องตรวจเช็กให้ดี ถ้ารู้สึกแปลก ๆ ก็อย่าเข้าไป… “กฎเหล่านี้สำคัญกับสวัสดิภาพชีวิตไรเดอร์มาก อย่างเราเองก็เคยพลาด จากการไม่ประเมินสภาพร่างกายตัวเอง คิดว่าไหว จึงฝืนวิ่งงาน สุดท้ายหลับในจนเกือบตกลงไปในบ่อน้ำ ดีที่ได้สติก่อนที่รถจะตกไป ถ้าวันนั้นไม่ได้สติตื่นก่อน ไม่รู้วันนี้จะยังมีชีวิตอยู่มั้ย!!”.

บดินทร์ ศักดาเยี่ยงยงค์ : รายงาน