แม้จะช่วยเหลือออกมาได้ แต่ก็ “ทิ้งโจทย์-เปิดแผล” ปัญหาค้ามนุษย์และแก๊งธุรกิจสีเทาตามแนวชายแดนที่กระเทือนถึงภาพลักษณ์ประเทศไทยอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะนอกจากซิงซิง ยังมีกรณีการหายตัวไปของชาวจีนรายอื่น ออกมาร้องขอให้ช่วยตามหา เนื่องจากเกรงว่าจะถูกหลอกไปทำงานข้ามแดนในแบบเดียวกัน

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาแม้จะมีความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับความร่วมมือทั้งทางการไทยและจีน หวังตัดวงจรโดยเฉพาะปัญหาการค้ามนุษย์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่ในภาคสังคมต้องยอมรับว่ามียังมีหลายมุมมองเป็นข้อกังวลการแก้ไขปัญหาในขณะนี้

นายสุรพงษ์ กองจันทึก นักวิชาการประจำคณะกรรมาธิการกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลายทางเพศ สภาผู้แทนราษฎร เป็นหนึ่งบุคคลที่ออกมาสะท้อนความคิดเห็น โดยเร่งให้รัฐบาลเอาจริงกับขบวนการค้ามนุษย์ที่หลอกคนชาติต่าง ๆจากทั่วโลกเดินทางผ่านประเทศไทยไปทำงาน และกักขังหน่วงเหนี่ยว ทำร้ายร่างกายด้วยวิธีทรมาน บริเวณชายแดนตรงข้ามอ.แม่สอด และอ.พบพระ จ.ตาก ซึ่งตกเป็นเรื่องราวโด่งดังไปทั่วโลก

พร้อมระบุ เหยื่อการค้ามนุษย์นับหมื่นคนหายจากการติดต่อกับญาติพี่น้องไปปรากฏตัวที่ริมชายแดนไทยในเครือข่ายธุรกิจสแกรมของจีนเทา จากข้อมูลที่ทราบตัวตนแน่นอนมีกว่า 7,000 คน เฉพาะจากจีนมีกว่า 4,000 คน รวมถึงซิงซิง นักแสดงชาวจีน และเนื่องจากเป็นคนมีชื่อเสียงและได้รับความสนใจจากสื่อ ทำให้สามารถติดตามช่วยเหลือกลับมาได้ ขณะที่ก่อนหน้าไม่นานพบว่ามีนายแบบจีนอีกรายที่หายไปลักษณะคล้ายกันคือ นายหยาง เจ๋อ ฉี

อย่างไรก็ตาม ตั้งข้อสังเกตกรณีที่รัฐบาล โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แสดงท่าทีขอให้ลดกระแสการนำเสนอข่าว เพราะมองว่าไม่ได้เป็นการแก้ปัญหา ทำให้มีข้อกังวลบทบาทของรัฐบาล เพราะข้อเท็จจริงการที่ซิงซิงได้รับความช่วยเหลือเพราะตกเป็นข่าวดัง เช่นเดียวกับกรณีนายหยาง เจ๋อ ฉี ที่มีการนำเสนอเป็นข่าวและสามารถพบตัวและเดินทางกลับไปจีน

ขณะเดียวกันต่อมามีการพบชาวอินโดนีเซีย 32 คน ที่หลบหนีจากการทำงานในธุรกิจสีเทา เพื่อเดินทางกลับประเทศ โดยทางการไทยได้จับกุมและดำเนินคดีฐานเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ซึ่งในประเด็นนี้แนะว่ารัฐบาลและเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายในพื้นที่จำเป็นต้องให้ความช่วยเหลือเหยื่อการค้ามนุษย์

ผ่านการให้ความคุ้มครองดูแลในฐานะเหยื่อ ซึ่งเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) มีบทบาทรับผิดชอบเป็นหลักตามกลไกป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ โดยยังต้องพยายามช่วยเหยื่ออีกนับหมื่นคน ที่ยังตกค้างในฝั่งเมียนมา

การจับกุมเหยื่อผู้หนีมา จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการค้ามนุษย์ เพราะทำให้เหยื่อไม่กล้าหนีออกจากที่ถูกทรมาน และเป็นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ในทางตรงกันข้าม หากเจ้าหน้าที่ปฎิบัติตามกฎหมาย คือพ...ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ..2551 เหยื่อเหล่านี้จะได้รับการดูแลคุ้มครอง และสามารถเป็นพยานนำไปสู่การเล่นงานทางกฎหมายต่อขบวนการค้ามนุษย์ต่อไป”

นอกจากนี้เสนอให้รัฐบาลไทยและจีนประสานงานเรื่องการช่วยเหลือ ควบคู่กับการพูดคุยกับกองกำลัง BGF และDKBA ในการนำเหยื่อที่อยู่ในพื้นที่อิทธิพลของกองกำลังกลับสู่บ้านเกิด เพราะปัจจุบันมีข้อมูลอยู่แล้วว่าเป็นบุคคลใด และพิกัดอยู่ที่ใด

การยอมรับความจริง แก้ไข และเล่นงานขบวนการค้ามนุษย์อย่างจริงจังเป็นเรื่องต้องรีบทำเร่งด่วน เริ่มจากการตัดสาธารณูปโภคที่เลี้ยงบำรุงแหล่งค้ามนุษย์เหล่านี้ และตรวจสอบเครือข่ายที่อยู่ในฝั่งไทย ซึ่งมีอยู่จำนวนมาก”

ทั้งนี้ ย้ำว่าคนนับหมื่นหายตัวไปและถูกค้ามนุษย์ผ่านประเทศไทย เป็นปัญหาที่รัฐบาลต้องเร่งแก้จริงจัง เพราะมีผลกระทบมาก ทั้งการท่องเที่ยวที่เป็นรายได้สูงสุดของประเทศ จะทำให้ขาดความเชื่อมั่นถึงความปลอดภัยที่เดินทางมาสู่ประเทศไทย ยังไม่รวมถึงด้านเศรษฐกิจ และภาพลักษณ์ของประเทศที่มีขบวนการมาเฟียมีอำนาจ.

ทีมข่าวอาชญากรรม รายงาน

[email protected]