เข้าสู่เทศกาลสงกรานต์ โดยนางสงกรานต์ปีนี้ มีชื่อว่า “ทุงสะเทวี” ทรงพาหุรัด ทัดดอกทับทิม อาภรณ์แก้วปัทมราค ภักษาหารอุทุมพร (มะเดื่อ) พระหัตถ์ขวาทรงจักร พระหัตถ์ซ้ายทรงสังข์ เสด็จไสยาสน์หลับเนตรมาเหนือหลังครุฑเป็นพาหนะ ทำนายว่า “ประชาชนจะอยู่เย็นเป็นสุข ข้าวปลาอาหารสมบูรณ์” ถือเป็นอีกหนึ่งเทศกาลในการชโลมใจประชาชนดับร้อนด้วยการรดน้ำดำหัวอยู่กับครอบครัวในวันผู้สูงอายุ
แต่สำหรับรัฐบาลน้ำอะไรก็ดับร้อนไม่ไหว กับปมร้อนร่างพ.ร.บ. การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ ซึ่งกำหนดให้มีกาสิโนอยู่ด้วยไม่เกิน 10%

โดยก่อนหน้านี้ “รัฐบาลแพทองธาร” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ใส่เกียร์ห้าเร่งสุดซอยดันเป็นญัตติด่วน เพื่อบรรจุวาระเข้าที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 9 เมษายน 68 ปาดหน้าญัตติด่วนเรื่องแผ่นดินไหว ซึ่งเป็นโศกนาฏกรรมเขย่าขวัญคนไทยทั้งประเทศ ถูกทัวร์ลงยับถึงความไม่เหมาะสม
แต่เกมพลิกสถานการณ์เปลี่ยนทำเอา “รัฐบาลแพทองธาร” ต้องติดเบรก เลื่อนวาระนี้ออกไปก่อน โดยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันอังคารที่ 8 เมษายน “นายกฯแพทองธาร” เรียกประชุมแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลด่วน พร้อมมีมติใส่เกียร์ถอย เลื่อนร่างพ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ ออกไปพิจารณาในสมัยการประชุมสภาฯหน้า ซึ่งหมายถึงการแช่แข็งกฎหมายนี้ไปเกือบสามเดือน อ้างว่ามีเรื่องที่ประชาชนเดือดร้อนมากกว่ารออยู่
โดยเฉพาะเรื่องที่โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ประกาศตั้งกำแพงภาษี โดยเพิ่มภาษีไทย 36% แม้จะมีการชะลอออกไป 90 วัน แต่ก็ต้องเตรียมมาตรการรองรับ หลายคนบอกฟังไม่ขึ้น เพราะตามสถานการณ์พบแรงเสียดทาน เจอบรรดากลุ่มต้านไม่เห็นด้วย ประสานเสียงรวมตัวกันคัดค้านพ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ จ่อออกมาเขย่าบัลลังก์ไทยคู่ฟ้า พร้อมผุดมาหลายประเด็นรัวๆ

เป็นการเร่งเครื่องเจอกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) และบรรดาขาประจำคู่แค้น “นายใหญ่ทักษิณ” รวมตัวกันกดดันล้มพ.ร.บ.นี้ ยังไม่รวมมวลชนผู้นำทุกศาสนา อีกทั้งบรรดาคณาจารย์จุฬาเข้าร่วม ที่สำคัญยังมีราชบัณฑิตยสถาน ที่ไม่เคยมีประเด็นการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องยังออกมาแสดงความไม่เห็นด้วย
และหากร่างพ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ ผ่านสภาไปแล้วก็จะไปเจอด่านสว. สีน้ำเงินที่ประกาศเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่าไม่เห็นด้วย
แค่นั้นยังไม่พอยังเจอพรรคร่วมรัฐบาลออกอาการสวมบทเฮี้ยว ส่อแววชิ่งลงมติ ถึงขนาดมีการปล่อยข่าวว่า “นายใหญ่ ทักษิณ ชินวัตร” จะขับออกจากพรรคร่วมรัฐบาลถ้าไม่เห็นด้วยกับร่างพ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์
แม้ “นายใหญ่”จะออกปฏิเสธแต่คนก็เชื่อไปกันครึ่งโลกแล้ว และยิ่งเป็นกฎหมายการเงินหากถูกคว่ำกลางสภานายกฯต้องรับผิดชอบด้วยการลาออก
ความเฮี้ยวของพรรคร่วมที่ได้แสดงออกอย่างชัดเจนจากที่ “นายไชยชนก ชิดชอบ” สส.บุรีรัมย์ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ได้ลุกขึ้นอภิปราย พร้อมประกาศกลางสภาฯ ว่า “ในนามลูกชายคนโต นายเนวิน และนางกรุณา ชิดชอบ ไม่มีวันเห็นด้วยกับกาสิโน”

การเมืองตอนนี้เปรียบเหมือนเป็นการสู้รบกันข้างหลังฉาก ระหว่าง “นายใหญ่บ้านจันทร์ส่องหล้า”กับ “ครูใหญ่เนวิน แห่งค่ายเซาะกราว” ส่งสัญญาณผ่านลูกๆ เปิดหน้าฟาดกันจะๆ
พรรคร่วมรัฐบาลอยู่กันในสภาพตบจูบ “พรรคภูมิใจไทย” แบ่งทีมกันเล่น โดยมี “เสี่ยหนู” หวานเจี๊ยบ “อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย รองนายกฯและรมว.มหาดไทย ทำหน้าที่เป็น good boy หลังมีการปีนเกลียวกัน ทั้งที่ดินเขากระโดง ที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ นอกจากนี้ยังมีการเปิดหลักฐานที่ดินโรงแรม “เทมส์ วัลลีย์” เขาใหญ่ เป็นของครอบครัวตระกูลชินวัตร ตั้งอยู่ข้าง “แรนโช” ชาญวีร์ ของ อนุทิน อยู่ในเขตพื้นที่นิคมสร้างตนเอง-ต้นน้ำลำธาร ห้ามออกโฉนด-ทำธุรกิจ ซึ่งจะเป็นชวนร้อน “รัฐบาลแพทองธาร”
แต่งานนี้ “นายใหญ่ทักษิณ” ออกมาพูดว่า พวกคนขี้อิจฉา ขวางกาสิโน
และพรรคร่วมรัฐบาล บางคนก็เห็นด้วยครึ่ง ไม่เห็นด้วยครึ่ง ไม่เป็นไรถ้าเมื่อถึงเวลาที่ต้องเสนอกฎหมาย ก็ต้องเสนอโหวต รัฐบาลก็ผ่าน เพียงแต่รัฐบาลไม่ต้องการเห็นความขัดแย้งเล็ก ๆ น้อย ๆ ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล

ที่ต้องมีพ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมแพล็กซ์ ทั้ง “นายใหญ่”กับนายกฯอิ๊งค์ก็พูดเป็นคีย์ เรื่องนี้ต้องทำความเข้าใจประชาชน เพราะเป็นโอกาสในการสร้างงานให้กับประชาชนดึงรายได้เข้าประเทศ เสียดายที่จะได้สร้างการท่องเที่ยวโดยมนุษย์ที่จะเกิดขึ้นได้อย่างยิ่งใหญ่ และหากสิ่งเหล่านี้ไม่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก เพราะจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่
“นายกฯอิ๊งค์” ยังย้ำอีกว่าไม่ใช่แค่เรื่องกาสิโน และจะเห็นว่าหลายประเทศมุ่งเน้นไปที่การสร้างแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้นกันหมด เพราะสิ่งที่มีอยู่เดิมนั้นไม่พอ และที่เห็นว่าเศรษฐกิจเป็นเพียงเพราะเม็ดเงินเข้ามาไม่ทัน เราต้องทำทุกวิถีทางต้องทำความเข้าใจในเรื่องนี้ให้ได้มากที่สุด
ดังนั้นหากประเมินจากสถานการณ์ปัจจุบัน ถ้าจะให้ไปได้ก็ไปได้ แต่เราก็อยากให้เป็นความพอใจและสมัครใจของทุกฝ่าย ไม่อยากฝืนความรู้สึก แน่นอนเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ก็ต้องมีคนไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องธรรมดา แต่เราก็ตั้งใจทำให้บ้านเมือง ไม่อยากเห็นบ่อนเล็กบ่อนน้อยเต็มไปหมดพร้อมยืนยันว่ามีระบบตรวจสอบคนที่จะเข้าไปเล่นผ่านระบบ ขณะเดียวกันหากมีเงินแล้วเข้าไปเล่นเป็นประจำ จนติด การพนันก็จะถูกนำไปบำบัด ไม่ใช่ปล่อยเลอะเทอะเหมือนในอดีตที่ไม่ดูแล มันเป็นระบบใหม่อยากให้ทุกคนเข้าใจ
แต่เมื่อมาเจอ “ลูกเลิฟเนวิน” ทำหน้าที่ Bad Boy กลางสภาแม้ “อนุทิน” ออกมาบอกว่าผิดคิว อาการนี้ทำให้นายใหญ่ควันออกหู

เพราะนอกจาก “ไชยชนก ชิดชอบ” แล้วยังมี “ชาดา ไทยเศรษฐ” และยังมีสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล พ่อของ 2 สส.อ่างทอง ภาราดร ปริศนานันทกุลและกรวีร์ ปริศนานันทกุล คนที่ออกโรงค้านอย่างก็เห็นได้ชัดเจน
คงต้องดูว่ารัฐบาลจะเอากันอย่างไรต่อไปเพราะดูไทม์ไลน์แล้ว “นายใหญ่ทักษิณ” ปักหมุดปรับครม.พฤษภาคมนี้
ต้องจับตาดูว่าจะมีใครตกสวรรค์หลังจากให้ตอบแทน กันไปแล้ว
ตามโผก็จะมี“พิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ – มาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ -ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์รมช.มหาดไทย” และอาจจะพวงด้วย “สรวงศ์ เทียนทอง” รมว.ท่องเที่ยวฯ ทั้งหมดนี้คือโผเบื้องต้น ก่อนที่จะถึงเดือนพฤษภาคม คงต้องเขย่ากันหลายรอบต้องดูว่าจะเขย่าไปถึงพรรคร่วมรัฐบาลด้วยหรือไม่
เพราะนอกจากพรรคภูมิใจไทยที่เฮี้ยวแล้วยังมีพรรคประชาชาติที่ใครก็รู้ดีว่าเป็นตัวแทนพรรคมุสลิมและเป็นพรรคที่ร่อนแถลงการณ์ชัดเจนว่าจะไม่สนับสนุนพ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ แม้จะมีการลบแถลงการณ์ไปแล้ว แต่คนอย่าง “นายใหญ่ทักษิณ”ไม่ลืมง่ายๆ
เกมการเมืองร้อนทำให้หลายคนมองไปในเรื่องการต่อรองผลประโยชน์ระหว่างพรรคการเมือง แต่อย่าลืมว่ายังมีเรื่องหลักที่ประชาชนเดือดร้อนอยู่หลายเรื่อง ทั้งเรื่องการตั้งกำแพงภาษีของทรัมป์ ซึ่งจะกระทบธุรกิจในประเทศ การรับมือภัยพิบัติ ที่ปัจจุบันเกิดขึ้นหนักหน่วง มาในระยะหลังๆ ต้องประสบกับภัยแล้ง น้ำท่วมและแผ่นดินไหว จนบัดนี้ยังไม่สามารถมีมาตรการที่จับต้องได้เลย และยังไม่ได้รับรู้ถึงแผนระยะยาวว่ารัฐบาลจะมีมาตรการออกมาอย่างไร
“จึงขอเตือนไปยังรัฐบาลหยุดเล่นเกมเพื่อตัวเองและหันมาดูแลความเดือดร้อนประชาชน เพราะไม่เช่นนั้นประชาชนอาจจะต้องจับมือกันรุมประชาทัณฑ์รัฐบาลแน่นอน”
//////////////////