หลังจากทางรัฐบาลประกาศฟื้นฟูเศรษฐกิจ เพื่อช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการหลังจากต้องสู้กับสถานการณ์โควิด-19 ระบาดหนักกลางปีที่ผ่านมา ขณะนี้กำลังเข้าสู่ช่วงกลางเดือน พ.ย.แล้ว แวดวงบันเทิงและวงการภาพยนตร์ก็กลับมาคึกคักเป็นพิเศษ ทางโรงภาพยนตร์ต่างก็เพิ่มรอบฉายเพื่อสนองความต้องการให้เหล่าคอหนังได้กลับมาดูภาพยนตร์ในโรงกันอย่างจุใจ เช่นเดียวกันกับทางค่ายหนังดังทั้งไทยและเทศ ต่างก็ปล่อยตัวอย่างหนังดังออกมาให้ชมกันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ “มาร์เวลคอมิกส์” ที่เพิ่งจัดหนักจัดเต็มกับความสำเร็จของ Shang-Chi and The Legend of The Ten Rings จากนั้นก็มาต่อยอดกับ Eternals ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

Eternals คือใคร? แท้จริงแล้ว Eternals ก็คงไม่ต่างอะไรกับ “มนุษย์ต่างดาว” ที่คอยช่วยเหลือเหล่ามนุษย์โลกอย่างลับ ๆ ในด้านการดำรงชีพ สืบเผ่าพันธุ์ในแต่ละยุคสมัย รวมไปถึงให้มนุษย์สามารถก้าวข้ามผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากต่าง ๆ ได้ โดยที่พวกเขาจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการทำลายล้างกันเองของมนุษย์ ยกเว้นเสียแต่เรื่องนั้นจะไปโยงเกี่ยวกับ Deviants (ดีเวียน) มนุษย์ต่างดาวที่เป็นคู่อริกับ Eternals มาเกี่ยวข้องเท่านั้น โดยกลุ่มของ Eternals ประกอบไปด้วย สมาชิก 10 คนได้แก่

1.”เอแจ็กส์” (รับบทโดย ซัลมา ฮาเย็ค) หัวหน้าทีม ผู้มีความสามารถในการ Heal หรือ “รักษา” ไม่ว่าบาดแผลของเหล่า Eternals จะหนักหนาสาหัสแค่ไหน ถ้าถึงมือเธอรับรองหายเป็นปลิดทิ้ง หัวหน้าทีมผู้นี้ยังมีความสามารถในการสื่อสารกับ Arishem The Judge เทพผู้สร้างและผู้ตัดสิน ว่าจะให้ดาวดวงไหนอยู่ต่อไปหรือถูกทำลายล้างอีกด้วย

2.”เซอร์ซี” (รับบทโดย เจมม่า ชาน) มีความสามารถในการแปลงสสาร สิ่งของต่าง ๆ ให้กลายเป็นอีกสิ่ง เช่น ของแข็งกลายเป็นของเหลว แต่ไม่สามารถแปลงสิ่งมีชีวิตได้ (หรือเปล่า)

3. “อิคาริส” (รับบทโดย ริชาร์ด แมดเดน) มีความสามารถในการบินได้ แถมยังยิงลำแสงคอสมิกเพื่อทำลายล้างศัตรูได้อย่างง่ายดาย เขามีร่างกายแข็งแกร่งโดยธรรมชาติ ทั้งยังภักดีต่อ Arishem The Judge มากที่สุดอีกด้วย

4. “ธีน่า” (รับบทโดย แองเจลินา โจลี) มีความสามารถในการดัดแปลงพลัง ให้กลายเป็นอาวุธได้ทุกประเภท เธอมีฉายาว่าเทพเจ้าแห่งสงคราม ใครที่คิดจะต่อสู้กับเธอ คงไม่ต่างอะไรกับเอาชีวิตไปทิ้ง

5. “กิลกาเมช” (รับบทโดย มาดงซอก) มีความสามารถด้านพละกำลังมากที่สุดในทีม เขาแข็งแกร่งโดยธรรมชาติพอ ๆ กับ อิคาริส และ ธีน่า แต่ทักษะการต่อสู้ จะเน้นชกต่อยระยะประชิดเท่านั้น

6. “มัคคาริ” (รับบทโดย ลอเรน ลิดรอฟฟ์) มีความสามารถด้านการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วที่สุดในทีม แม้ร่างกายจะไม่แข็งแกร่งเท่า กิลกาเมช อิคาริส และ ธีน่า แต่ถ้าโดนเธอโจมตีเข้าไปสักครั้ง บางทีศัตรูอาจไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำว่าโดนสังหารไปตั้งนานแล้ว

7. “ฟาสโตส” (รับบทโดย ไบรอัน ไทรี เฮนรี) มีความสามารถด้านการใช้ปัญญา เขาเป็นนักประดิษฐ์จอมอัจฉริยะ เป็นผู้รอบรู้วางแผนกลยุทธ์ต่าง ๆ จะเปรียบเป็นสมองของทีมก็ว่าได้

8. “ดรูอิก” (รับบทโดย แบรร์รี คีโอแกน) มีความสามารถในการควบคุมจิตใจมนุษย์โลก จะเรียกว่าเป็นความสามารถที่น่ากลัวที่สุดสำหรับชาวโลก หากโดนเขาครอบงำ ก็คงยากที่จะต่อกรด้วย

9. “สไปรท์” (รับบทโดย ลีอา แม็กฮิว) มีความสามารถในการสร้างภาพมายา หรือภาพลวงตา แต่เพราะร่างกายที่เป็นเด็กแล้วไม่ยอมเติบโต ทำให้เธอรู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมากอีกทั้ง “สไปรท์” ไปหลงรัก “อิคาริส” แต่ทว่าชายหนุ่มกลับไปรักกับ “เซอร์ซี” นั่นจึงเป็นเหตุให้ “สไปรท์” อิจฉา “เซอร์ซี” เป็นอย่างมาก

10. “คิงโก” (รับบทโดย คูเมล นานจิอานี) มีความสามารถในการยิงพลังคอสมิกด้วยมือ คล้าย ๆ ปืนเลเซอร์ พลังของเขาสามารถชาร์จยิงสร้างความเสียหายที่รุนแรงมากได้ เพียงแต่ก็ต้องใช้เวลาพอสมควร และระหว่างชาร์จ หากโดนศัตรูโจมตีก็ต้องเริ่มชาร์จกันใหม่

เรื่องย่อ Eternals
Arishem The Judge (อริเชม เดอะ จัดจ์) เอเลี่ยนผู้มีพลังระดับดวงดาว รูปร่างใหญ่โตพอ ๆ กับดวงดาวในจักรวาล หรือที่เรียกกันว่า Celestials (เซเลสเทียล) ได้สั่งให้ “เอแจ็กส์” ผู้นำของกลุ่ม Eternals พาพรรคพวกลงไปยัง Tiamut (Earth-616) หรือที่เรียกว่า “ดาวโลก” เพื่อดูแลการเจริญเติบโตของมนุษย์บนโลกจนกว่าจะถึงเวลากำเหนิด “เซเลสเทียล” อีกตน ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาหลายพันปีกว่าที่เมล็ดถูกฝังบนดาวดวงนี้จะเปลี่ยนรูปร่าง แน่นอนว่าถ้าเอเลี่ยนแห่งดวงดาว ถือกำเหนิดขึ้นมาดาวก็จะแตกสลาย “มนุษย์” ก็จะต้องถูกทำลายไปทั้งหมด ไม่ต่างอะไรกับ ฟาร์มเลี้ยงวัวที่รอเวลาเก็บเกี่ยวเนื้อชั้นดี

“เอแจ็กส์” เห็นว่า มวลมนุษชาติสามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งต่าง ๆ ได้ จึงไม่ควรจะให้การเกิดของเหล่า Celestials มาทำลายล้างเผ่าพันธุ์นี้ เธอจึงพยายามโน้มน้าวให้สมาชิกในทีมกลับมาพิจารณาชะตากรรมของเหล่ามวลมนุษชาติ แต่ทว่า “เอแจ็กส์” กลับโดนเผาอรินั่นก็คือ Deviants (ดิเวียน) สังหารและดูดพลังไปเสียก่อน ใครจะหยุดยั้งหายนะครั้งนี้ไว้ได้ ติดตามได้ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น…

จุดเด่นของ Eternals ฮีโร่พลังเทพเจ้า
ถือเป็นความสร้างสรรค์ในการเขียนบทได้อย่างหลากหลายอารมณ์ ลงลึกไปในด้านความดราม่า จนนำไปสู่การทำลายล้างแบบคาดไม่ถึง การใช้ตัวดาราแม่เหล็ก ที่มีลักษณะต่างเชื้อชาติ เพศสภาพ ความไม่สมบูรณ์ทางร่างกาย ถูกจัดวางในบทบาทที่แตกต่างกันออกไป แต่ทว่าสามารถสะท้อนมุมของฮีโร่ในความเป็นมนุษย์ธรรมดาออกมาได้ดีสุด ๆ ฮีโร่ที่ยังคงลุ่มหลงใน รัก โลภ โกรธ หลง

ภาพลักษณ์ของฮีโร่ที่แม้จะมีพลังราวกับเป็นเทพเจ้า แต่กลับไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบในทุกด้าน เป็นเสมือนกับต้องการจะบอกว่า แม้คุณจะมีพลังเป็นฮีโร่ แต่หาใช่ชีวิตจะมีความสุขเสมอไป คุณยังต้องจมอยู่กับปัญหาและความทุกข์อีกมากมาย บางทีมันก็อยู่ที่ว่าคุณจะเลือกเส้นทางไหน ระหว่าง ยื่นมาเข้าไปช่วยเหลือคนที่ลำบากและทุกข์ยาก หรือ ปล่อยวาง อยู่เฉย ๆ เพื่อดูความเปลี่ยนไปตามกาลเวลา

ในส่วนของบทแอ๊คชั่น เรียกว่าทีมงานทำการบ้านมาแบบสุดโต่ง มุมภาพฉากการต่อสู้กับเหล่า Deviants มีความเป็นมิติและน่าสนใจ โปรดักชั่นระดับ มาร์เวลคอมิกส์ CG แต่ละซีนโชว์ความงดงาม ความดุดัน ความสยอง ระหว่างฮีโร่พลังเทพกับเหล่าสัตว์ประหลาด ซัดกันจนผู้ชมได้ลุ้นแบบหลังไม่ติดเบาะ ขณะที่ฉากการถ่ายทำสุดอลังการหลายฉาก ที่เด่นสุดเห็นจะเป็น “เมืองบาบิโลน” มีมุมกว้าง ๆ มุมสูงเห็นทั้งตัวเมือง ขณะเดียวกันในเรื่องยังแฝงซีนที่ซ่อน Easter Egg เอาไว้มากมาย บ่งบอกไปถึงจุดเชื่อมโยงเหตุการณ์ในหนังเรื่องอื่น ๆ ด้วย

สำหรับบทบาทการแสดงที่เด่นชัดและดูแล้วเพลิดเพลินที่สุดคงไม่พ้น “สไปรท์” (รับบทโดย ลีอา แม็กฮิว) ที่แม้จะดูเป็นเด็กผู้หญิงวัยทีน แต่ก็แฝงไปด้วยความแข็งแกร่งและดราม่าแบบเต็ม ๆ นอกจากนี้ยังมีตัวขโมยซีนอย่าง ผู้ช่วยของ “คิงโก” ผู้มีนามว่า “การุน” ชายชาวอินเดียผู้ใจดี กล้าหาญ และมีกล้องติดตัวมากมาย สามารถเรียกเสียงหัวเราะจากผู้ชมได้ในหลาย ๆ ซีน

จุดอ่อนของ Eternals ฮีโร่พลังเทพเจ้า
เพราะความเป็นเส้นเรื่องที่หลากหลายของแต่ละตัวละคร ทำให้การเล่าเรื่องเกี่ยวโยงกันต้องทำแบบกระชับและสั้นแบบสุด ๆ แม้ผู้ชมจะเข้าใจได้ง่าย แต่ก็ใช่ว่าจะดี เพราะยังผู้ชมหลายคนยังไม่อินไปกับบทบาทของเหล่านักแสดงเท่าที่ควร อย่างเช่น “อิคาริส” (รับบทโดย ริชาร์ด แมดเดน) ที่ต้องแสดงบทแบบทั้งรักทั้งเกลียด หรือแม้แต่เรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่าง กิลกาเมช และ ธีน่า ซึ่งมีความพยายามจะยัดเยียดให้ดูดราม่าสุด ๆ แต่กลับไม่ได้รู้สึกอินตามจนเกิดความสงสาร เนื่องจากสิ่งเหล่านี้ต้องใช้เวลาในการปูพื้นเรื่องแบบละเอียดมาก ๆ ดังนั้นหากเรื่องนี้มีการทำออกมาในลักษณะของหนังซีรีส์เพื่อแบ่งเส้นเรี่องของแต่ละตัวละครให้เกิดความลึก ปูเรื่องได้คมๆ กว่านี้ ไม่ต้องรีบจับทุกสิ่งอย่างมายัดเยียดภายในเวลา 2 ชม.กว่า ก็คงจะไม่โดนเหล่านักวิจารณ์แสดงความเห็นในเชิงลบเป็นแน่

3/5 กะโหลก แม้จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของเว็บไซต์และเพจหนังของไทย รวมไปถึงของต่างประเทศในลักษณะแง่ลบ แต่ภาพรวมกลับไม่ได้เลวร้ายเหมือนที่ถูกโจมตี ซึ่งเข้าใจว่ามีเส้นเรื่องหลากหลายจนดูสับสน นั่นเพราะหนังพยายามอัดบีบความดราม่าลงไป ประกอบกับกลุ่มฮีโร่เองต่างก็มีความใกล้เคียงกับมนุษย์ รัก-โลภ-โกรธ-หลง ซึ่งมันอาจจะดีกว่านี้ ถ้าตัวหนังทำเป็นซีรีส์เพื่อให้มีเวลาในการชมและเข้าถึงตัวละครแต่ละตัว.


คอลัมน์ : ดูหนังกับหมี
โดย : แพนด้าอ้วน

ขอบคุณข้อมูล ภาพจาก เว็บไซต์ Youtube