เรียกเสียงฮือฮามาโดยตลอดสำหรับเทรนภาพยนตร์ซีรีส์จากเกาหลีจาก Netflix ในรอบหลายเดือนที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น Hometown cha cha cha, Squid game, The King’s Affection และล่าสุดกับภาพยนตร์แอ๊คชั่นทริลเลอร์แนวหลุดโลก Hellbound หรือ “ทัณฑ์นรก” กลับมาเรียกคะแนนความนิยมพุ่งเป็นอันดับ 1 บนชาร์ตได้สำเร็จหลังฉายไปได้เพียงแค่ 1 วัน อีกทั้งยังเป็นที่น่าแปลกใจแบบสุด ๆ เมื่อเว็บไซต์มะเขือ อย่าง https://www.rottentomatoes.com กลับมาให้คะแนนความน่าดูถึง 100% จนไต่อันดับติด Top 10 มากกว่า 90 ประเทศทั่วโลก ด้วยฝีมือผู้กำกับ “ยอนซังโฮ” ผู้สร้างจักวาล K-ซอมบี้ อย่าง “Train to Busan” และ “Peninsula” การันตีว่าภาพของหนังเรื่องนี้ต้องออกมาชวนตื่นตาตื่นใจอย่างแน่นอน

เรื่องย่อ Hellbound
จากมังงะในเว็บตูนที่บอกเล่าเรื่องราวของ เหล่าสิ่งมีชีวิตลึกลับที่เรียกว่า “ทูตสวรรค์” พวกมันมีร่างกายใหญ่โตราวกับเป็น Hulk โผล่ออกมาจากอีกมิติเพื่อฆ่ามนุษย์โดยเฉพาะ หากใครที่ได้รับคำทำนายว่าจะต้องตายเวลาไหน วันที่เท่าไร พอถึงเวลากำหนดพวกมันปรากฎตัว ก่อนจะวิ่งเข้าไปทำร้ายมนุษย์ที่เป็นเป้าหมายจนบาดเจ็บสาหัส เคลื่อนไหวหลบหนีไปไหนไม่ได้ จากนั้นก็จะเผาเหยื่อทั้งเป็น เหลือทิ้งไว้เพียงกะโหลกและซี่โครงท่อนบน ส่วนอื่น ๆ กลายเถ้าธุรีไปหมดแล้ว และสำเร็จโทษแล้วเสร็จ พวกมันก็จะหายเข้าไปในมิติอื่น

“ยอนซังโฮ – ยูอาอิน” นำทีมเปิดใจ “Hellbound” เจาะลึกรอยแยกความเชื่อ เมื่อโลกถูกชักจูงว่าคนบาปโดนนรกลงทัณฑ์

จากเหตุการลงทัณฑ์ “ยังอิกจุน” (รับบทโดย จินคยองฮุน) ตำรวจสายสืบได้รับคำสั่งให้จับตากลุ่ม “สัจธรรมใหม่” ลัทธิที่ออกมาประกาศให้ยอมรับชะตากรรมการพิพากษาของ “พระเจ้า” ที่ส่งเหล่า “ทูตสวรรค์” มาลากคอคนทำชั่วลงนรก โดยผู้เผยแพร่ความเชื่อดังกล่าวเป็นคนแรกคือ “จองจินซู” ประธานของกลุ่มสัจธรรมใหม่ (รับบทโดย ยูอาอิน) ขณะเดียวกันลูกสาวของนายตำรวจ “จินฮีจอง” (รับบทโดย อีเร) กลับมารับอาสาคอยดูแลกลุ่มสัจธรรมใหม่ สร้างความไม่พอใจให้นายตำรวจเป็นอย่างมาก

สำหรับกลุ่มสัจธรรมใหม่เป็นองค์กรทางศานา เพิ่งถูกก่อตั้งขึ้นในปี 2012 มีสาวกชื่อกลุ่ม “หัวศร” ออกมาคอยเคลื่อนไหวสนับสนุนลัทธิทางโลกโซเชียล คอยขุดคุ้ยข้อมูลของผู้ถูกลงโทษไปเผยแพร่บนอินเตอร์เน็ต และหากใครที่ขัดขวางการทำงานของกลุ่มสัจธรรมใหม่ ก็จะโดนสมาชิกกลุ่มหัวศรเข้าไปรุมทำร้ายปางตายทันที ความทราบไปถึง ทนายสาว “มินฮเยจิน” (รับบทโดย คิมฮยอนจู) ที่คิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นต้องมีเบื้องหลังบางอย่าง ที่รอการพิสูจน์ เธอจึงร่วมมือกับ ตำรวจสายสืบ และกลุ่มคนที่พยายามต่อต้าน “สัจธรรมใหม่” และ “หัวศร” ไม่ให้เกิดการลงทัณฑ์ และพยายามพลิกสถานการณ์ให้โลกกลับมาควบคุมโดยฝีมือมนุษย์ ไม่ใช้ฝีมือของพระเจ้าตามความเชื่อของ 2 กลุ่มนี้

จุดเด่นของ Hellbound
ด้วยเนื้อเรื่องที่เป็นมังงะมาก่อนผู้สร้างจึงให้ความเคารพต้นฉบับแบบสุด ๆ มีการโชว์ CG สวย ๆ หลายซีน โดยเฉพาะฉากที่เหล่า “ทูตสวรรค์” ลงทัณฑ์ดูมีความดุดันโหดเหี้ยมเหมือนสัตว์ป่ากำลังรุมกินเหยื่อ ขณะที่มนุษย์ผู้อื่นไม่สามารถขัดขืน ช่วยเหลือ หรือทำอะไรได้ พล็อตเรื่องทำให้เกิดความอึดอัด กดดัน ที่สุดคือ “ลุ้น…ว่าใครจะเป็นเหยื่อรายต่อไป” และจะรอดชีวิตจากการลงทัณฑ์ได้หรือไม่ โดยจะถูกแบ่งให้ชมในซีซั่นแรก 6 ตอน เชื่อว่าอารมณ์แนวลุ้นเป็นตายน่าจะถูกใจเหล่านักวิจารณ์หนังต่างประเทศอย่างแน่นอน เส้นเรื่องมีความแข็งแรงแม้จะมีตัวละคนหลายตัว แต่การดำเรื่องลักษณะเชิงสืบสวนกลับชวนให้ติดตามได้ตลอด

จุดอ่อนของ Hellbound
เพราะความต้องการจัดทำหนังให้เหมือนต้นฉบับเลยทำให้การลำดับเรื่องราว ดูไม่ราบรื่น ทั้งยังดูสะเปะสะปะวกไปวนมา เหมือนกับต้องการจะปูเนื้อหาเรื่องราวคำสอนศาสนาให้ดูกว้างใหญ่ไว้ก่อน พอเกิดการลงทัณฑ์ก็จะสร้างความสงสัยให้แก่ผู้ชมและรอการอธิบายเหตุต่าง ๆ จากตัวละครหลัก แม้ผู้ชมจะอยากติดตามต่อไปว่าใครจะรอดหรือไม่รอด แต่เอาเข้าจริงหนังยังมีช่องว่างและคำถามที่น่าสงสัยเหลือไว้มากมาย โดยเฉพาะประเด็นที่ว่าทำไมคนๆนี้ถึงต้องโดนลงทัณฑ์ ซึ่งคาดว่าคงต้องรอการเฉลยในภาคต่อไปอย่างแน่นอน

3/5 กะโหลก แม้เป็นภาพยนตร์ซีรีส์ที่ทำออกมาชวนให้ติดตาม ภาพสวย เส้นเรื่องดี แต่กลับสร้างคำถามให้ผู้ชมมากมาย และยังต้องรอคำตอบในซีซั่นต่อไป

—————————————————————–

คอลัมน์ : ดูหนังกับหมี
โดย : แพนด้าอ้วน

ขอบคุณข้อมูล ภาพจาก เว็บไซต์ Youtube และ Netflix