กลายเป็นกระแสขึ้นมาอีกครั้งกลับเรื่องราวของ “หวยบนดิน” หลังหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ อย่าง “พี่เต้-มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์” พร้อมเพื่อน ส.ส. 20 คน เปิดตัวแถลงข่าว ขอตั้งกรรมาธิการ หรือ กมธ.วิสามัญ เพื่อศึกษาแก้ปัญหาหวยใต้ดินให้ถูกกฎหมาย

หากแปลความง่าย ๆ ก็คือ การศึกษาความเป็นไปได้เพื่อจัดทำ “หวยบนดิน” นั่นแหละ!!

ถามว่า…แนวคิดนี้เป็นเรื่องใหม่ หรือเปล่า? ตอบเลยว่า… “ไม่ใช่” เพราะเรื่องนี้มีการพูดกันมานาน พูดกันมามาก มีการหยิบยกโยนกระแสถามสังคม ไปก็หลายครั้ง แต่สุดท้าย!! ก็เก็บไว้ “ใต้โต๊ะ” เหมือนเดิม

ต่อให้สังคมเห็นจำนวนเงินมากมายมหาศาล ที่สามารถนำมาสร้างประโยชน์อะไรต่ออะไรให้กับประเทศได้สารพัด อย่างที่ “พี่เต้” ยกตัวอย่างมาให้เห็นว่า…อย่างน้อยก็ราว ๆ ปีละ 7 แสนล้านบาท ทีเดียว

แต่ก็อย่างที่ใครต่อใครก็รู้ว่าเป็นเรื่อง “ยาก” ที่จะฟื้นเรื่องนี้ให้เกิดขึ้นโดยเร็ว เพราะตัวอย่างมีให้เห็นชัดเจน ว่าสุดท้ายแล้ว เมื่อ “การเมืองเปลี่ยน” อะไร? ได้เกิดขึ้นตามมาบ้าง!!

แม้ทุกวันนี้ทุกคนทุกฝ่ายต่างรู้ดีอยู่แก่ใจอยู่แล้วว่า เรื่องของ “หวยใต้ดิน” น่ะ มันรุนแรงขนาดไหน ยิ่งเมื่อ “ออนไลน์ กลายเป็น ชีวิต” ของทุกคน จากการ “เดินโพย” ก็แปรเปลี่ยนมาเป็นการซื้อออนไลน์ที่หาซื้อได้ง่าย คล่องตัว

เพียงแค่เคาะเสิร์ชหาในออนไลน์ สารพัดช่องทาง “หวยใต้ดิน” โผล่มาให้เห็นเป็นดอกเห็ด เลือกเล่นได้ตามสบายแล้วแต่ความพอใจของแต่ละคน แถมไม่ใช่หวยใต้ดินเฉพาะประเทศไทยเท่านั้น

หวยใต้ดินของเพื่อนบ้าน ทั้งหวยลาว หวยฮานอย หวยมาเลย์ และอีกสารพัด ก็มีให้เลือกเสี่ยงโชคกันทุกวัน แล้วแต่ใครจะถนัดแบบไหน บางคนถนัดทุกประเทศ ก็เล่นก็ซื้อกันฉ่ำปอด

ในเมื่อลอตเตอรี่ยังแพงสุดโต่ง ใบละ 100 บาท ใบละ 150 บาท ในเมื่อชีวิตความเป็นอยู่…ยังยากจน มีเงินไม่พอ วิธีหาเงินง่าย ๆ ก็คือการ “เสี่ยง” นี่แหละ ลงทุน 1 บาท หากโชคดีก็ได้คืน 60 บาท 65 บาท 70 บาท แม้จะเสี่ยง!! แต่ก็ยอม!!

แม้เป็นเรื่องผิดกฎหมาย แต่แทบทุกวงการที่ “หวยใต้ดิน” คืบคลานเข้าไปหา จะด้วยเสี่ยงดวงเป็นอาชีพเพราะ “อยากรวย” ทางลัด หรือเพียงแค่ “วัดดวง” ก็ตามทีเถอะ

ตามพระราชบัญญัติการพนัน มาตรา 12 กำหนดไว้ชัดเจนว่า “คนซื้อ” ต้องระวางโทษจำคุก 3 ปี ปรับ 5,000 บาท ส่วน “คนขาย” จำคุก 3 เดือนถึง 3 ปี ปรับ 500-5,000 บาท

“ธนวรรธน์ พลวิชัย” อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ในฐานะประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ซึ่งแถมพ่วงด้วยตำแหน่งโฆษกสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยไว้ว่า แม้เศรษฐกิจจะสะดุดแค่ไหน แต่การใช้จ่ายในการซื้อลอตเตอรี่ รวมไปถึงการซื้อหวยสารพัด ไม่ได้ลดลงเลย

ด้วยเพราะเป็นการเสี่ยงโชคทางเดียวที่เป็น “ความหวัง” เพราะเข้าถึงง่ายและใช้เงินลงทุนไม่มาก!!

มีผลวิจัยระบุว่า คนไทยกว่า 9 ล้านคน เสพติดหวย โดยเป็นการเล่นเพราะ “ชอบ” จำนวน 7.6 ล้านคน แต่อีก 1.3 ล้านคน เล่นเพราะ “ติด” และคนไทย 1 ใน 4 หรือราว ๆ 20 ล้านคน เสียเงินซื้อลอตเตอรี่และหวย รวมกันประมาณ 2.5 แสนล้านบาทต่อปี

นอกจากนี้ 44% ยังคาดหวังที่จะถูกลอตเตอรี่ แต่มีเพียง 1 ในล้านคนเท่านั้น ที่โชคดี ส่วนคนเล่นหวย มี 78% ที่คาดว่าจะถูก เลข 2-3 ตัวบน 2-3 ตัวล่าง ซึ่งในความจริงมีโอกาสเพียงแค่ 0.4-2%    

ก่อนหน้านี้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเอง ก็ได้ทำการศึกษาการออกสลากในรูปแบบใหม่ ๆ ในทุกรูปแบบอยู่แล้ว ทั้งสลาก 2 ตัว 3 ตัว รวมไปถึงการออกลอตโต้ หรือแม่แต่การออกสลากแบบไม่ใช้ตัวเลข

แต่ด้วยสถานการณ์โควิด ทำให้ทุกอย่างต้อหยุดไว้ก่อน เพราะการศึกษาต้องเปิดประชาพิจารณ์ เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหนีไม่พ้นต้องเกิดการรวมตัวของคนจำนวนมาก แม้จะทำได้ทางออนไลน์ แต่ในความเป็นจริงก็หนีไม่พ้น ที่ต้องเปิดเวทีเพื่อแสดงความเห็น

ที่สำคัญ!! การออสลากรูปแบบใหม่ โดยเฉพาะหวยบนดิน ไม่ใช่ว่านึกอยากจะทำก็ทำได้ทันที อย่าลืมว่า “แรงต้าน” ในสังคมไทยมีอยู่มากมายมหาศาล

ในเมื่อทุกอย่างยังไม่เป็นใจ จึงต้องหันมามุ่งเน้นในเรื่องของการเปิดจุดขายลอตเตอรี่ในราคา 80 บาท ให้เยอะมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะที่ผ่านมาก็ถูกโจมตีอย่างหนักจากปัญหาลอตเตอรี่แพง

ขณะเดียวกันก็เตรียมที่จะหันมาเป็นผู้ขายในช่องทางออนไลน์เอง เพื่อให้ชาวบ้านชาวช่องเข้าถึงลอตเตอรี่ในราคา 80 บาทให้ได้มากที่สุดเช่นกัน

อย่างที่บอก…การ “ฟื้นชีพหวยบนดิน” ถือเป็นเรื่องใหญ่ของสังคมไทย ยังมีอีกหลายฝ่ายหลายกลุ่มที่แสดงความ “รังเกียจ” เรื่องหวย เพราะมองว่าเป็นเรื่องของการ “มอมเมา” ก็ต้องมารอดูกันว่าการโยนหินเที่ยวนี้ สังคมจะตอบสนองแค่ไหน?

……………………………………….
คอลัมน์ : เศรษฐกิจจานร้อน
โดย “ช่อชมพู”