สัปดาห์หน้าสิ้นปี 64 กำลังจะผ่านพ้นไปอย่างทุลักทุเล ทั้งเรื่องการเมือง เศรษฐกิจ สภาพความเป็นอยู่ของคนไทย
ไล่ตั้งแต่เรื่องการเมือง แม้จะเป็นรัฐบาลผสมเกือบ 20 พรรค ประกอบด้วยหลายก๊ก หลายมุ้ง จนต้องคอย “แจกกล้วย” ไว้ตลอดเวลาเพื่อประคับประคองเสถียรภาพของรัฐบาล
แต่พรรคร่วมฝ่ายค้านและบรรดาม็อบต่าง ๆ ยังไม่สามารถ “เจาะยาง” รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ด้วยปัจจัยหลักอาจเป็นเพราะองค์กรอิสระต่าง ๆ ไม่อิสระกันจริง ๆ แต่ล้วนเป็นเครือข่ายของรัฐบาลเกือบทั้งนั้น เช่น ป.ป.ช.
สภาพความทุลักทุเลของรัฐบาลผสม เห็นได้ชัดจากการเปิดประชุมสภารอบนี้ ตั้งแต่ 1 พ.ย.64 “สภาล่ม” ไปแล้ว 4 ครั้ง แต่คนในรัฐบาลกลับออกมาโวยวายพรรคร่วมฝ่ายค้านว่าไม่ให้ความร่วมมือ จ้องแต่เล่นเกมทางการเมือง!
“พยัคฆ์น้อย” ต้องถามไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ รวมทั้งนายนิโรธ สุนทรเลขา ประธานวิปรัฐบาลคนล่าสุด! ว่าตอนร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ๆ เคยคุยกับบรรดาพรรคร่วม พรรคเขย่ง และพรรคปัดเศษ ไว้ว่าอย่างไร? แล้วตอนนั้นนับเสียงของ ส.ส.ฝ่ายค้านเข้าไปร่วมรัฐบาลด้วยหรือเปล่า?
ดังนั้นกรณีของ “สภาล่ม” ซ้ำซาก! จึงเป็นความรับผิดชอบของพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคพลังประชารัฐสภาพเวลานี้คล้ายกับพรรคแตก! จึงโยนความผิดให้ฝ่ายค้านไม่ได้
ต่อมาเรื่องเศรษฐกิจ ลำพังไม่มีโควิด-19 “จีดีพี” ป้วน เปี้ยนแค่ 2% แถมจัดงบประมาณรายจ่ายติดลบบานเบอะทุกปี คนจนมีมากกว่า 14 ล้านคน หนี้ครัวเรือนพุ่ง 90 % หนี้สาธารณะขยับเข้าสู่ 60% (กว่า 9 ล้านล้านบาท) ต้องขยายเพดานการก่อหนี้สาธารณะขึ้นไปถึง 70% รัฐบาลต้องกู้ฉุกเฉิน 2 รอบ 1.5 ล้านล้านบาท กู้มาแจกสะเปะสะปะ แต่จีดีพีไม่กระเตื้องขึ้น หนี้สาธารณะ–หนี้ครัวเรือนไม่ลด แถมธุรกิจขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ขาดสภาพคล่อง กำลังปิดกิจการไม่ต่ำกว่า 40%
สุดท้ายคือเรื่องสังคมสภาพความเป็นอยู่ของคนไทยเดือดร้อนกันอย่างหนัก เมื่อโควิด-19 ระบาดรอบที่ 3 ตั้งแต่เดือน เม.ย. 64 มีการตายคาบ้าน ตายบนถนน บนฟุตปาธจำนวนมาก เนื่องจากเตียงคนไข้ไม่พอ ต้องเผาศพจนเมรุแตก!
แต่การจัดหาวัคซีนเป็นไปอย่างล่าช้า แถมสั่งซื้อวัคซีนด้อยประสิทธิภาพจำนวนมาก โดยไม่เข้าร่วมโครงการ “โคแวกซ์” นี่คือความล้มเหลวในการบริหารจัดการโควิดของรัฐบาล ที่มี รมว.สาธารณสุขคือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล มัวแต่ลองผิดลองถูกกับวัคซีน ทำให้คนไทยต้องฉีดวัคซีนไขว้ยี่ห้อมั่วกันไปหมด
อีกหลายล้านคนต้องซื้อวัคซีนฉีดเอง เพื่อป้องกัน “โรคกระจอก” ซึ่งทำให้คนไทยติดเชื้อโควิดไปกว่า 2.1 ล้านคน ตายสะสมกว่า 2.1 หมื่นศพ
สรุปภาพรวมปี 64 สิทธิเสรีภาพของคนไทยหายไป! ใครออกมาก่อม็อบ ออกมาชุมนุมเรียกร้อง จะถูกเจ้าหน้าที่รัฐเข้าปิดล้อมจับกุม คุมขัง บางครั้งถูกสลายการชุมนุมด้วยการฉีดน้ำ ยิงด้วยกระสุนยาง และแก๊สน้ำตา
ไม่ต้องพูดถึง “ความสุข”ของคนไทยก็หายไปด้วย เมื่อเจอทั้งพิษเศรษฐกิจและปัญหาโควิด-19 รุมเร้า! แล้วยังตามมาด้วย “เกียรติภูมิประเทศ” ก็หายไปด้วย! เมื่อสหรัฐอเมริกาไม่เชิญประเทศไทยเข้าร่วมประชุมเรื่องประชาธิปไตย เมื่อนักกีฬาแบดมินตันคู่ผสมของไทยไปคว้าแชมป์โลกในต่างประเทศ แต่ธงชาติไทยไม่มีสิทธิขึ้นสู่ยอดเสาให้กับแชมป์โลก
พล.อ.ประยุทธ์อย่าโทษฝ่ายค้าน ไม่ต้องโทษสภา อย่าโทษม็อบ! แต่ต้องพิจารณาตัวเองกับ พล.อ.ประวิตรในฐานะประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยเป็นกรณีพิเศษ ว่าทำไม? เกียรติภูมิของประเทศมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร?.
—————————-
พยัคฆ์น้อย