ความหวังของพ่อแม่ทุกคนคืออยากให้ลูกมีชีวิตที่ดี ยามแก่เฒ่าหวังได้พึ่งพิงคอยดูหลานเหลนเติบโตสืบทอดวงศ์ตระกูล แต่ไม่มีใครรู้ว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร? ดังเช่นชีวิตของ นายวิชัย มะลาด อายุ 64 ปี และนางพูนสุข มะลาด อายุ 58 ปี สองตายาย อาชีพรับจ้างทำไร่ทำนา ครอบครัวยากจน อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 70/98 คุ้มสุขสบาย ซอยวิโรจน์รัตน์ ถนนถีนานนท์ เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์

ตาวิชัยกับยายพูนสุข สู้ชีวิตเลี้ยงลูกๆ จนเติบใหญ่ต่างแยกย้ายไปมีครอบครัว ทำงานตามต่างจังหวัด แต่ละเดือนจะส่งเงินให้พ่อแม่ใช้บ้างตามกำลัง ขณะเดียวกันสองตายายก็ยังรับจ้างทำสวนไร่นา เลี้ยงวัวควาย ไม่อยู่นิ่งเฉย เพื่อให้พอมีรายได้เลี้ยงตัวในแต่ละวัน ไม่เป็นภาระลูกหลาน

หลังเกิดการระบาดของเชื้อโควิด-19 ช่วงปลายเดือน ก.ค.64 สองตายายก็ได้รับข่าวร้าย นางธิดารัตน์ มะลาด อายุ 35 ปี ลูกสาวซึ่งกำลังท้องแก่และเป็นเสาหลักของครอบครัวพร้อมสามีกับลูกสาวอีก 2 คน ติดเชื้อโควิดกันทั้งบ้าน อยู่ที่ จ.สมุทรปราการ ซึ่งวันที่ 2 ส.ค. อาการของธิดารัตน์ทรุดหนัก ลูกในครรภ์ 8 เดือน แพทย์แจ้งว่าต้องรีบผ่าคลอดเพราะเด็กอาจจะเป็นอันตราย และแพทย์ก็ช่วยเด็กออกมาปลอดภัย ส่วนธิดารัตน์นั้นได้เสียชีวิตลงในวันที่ 5 ส.ค.

ทารกน้อยออกมาลืมตาดูโลกไม่ทันได้เห็นแม้แต่หน้าแม่บังเกิดเกล้า แพทย์ตรวจเช็กร่างกาย โชคดีที่ไม่ติดเชื้อโควิด แต่ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ครอบครัวตั้งชื่อว่า น้องไดม่อน ส่วนลูกเขย และหลานสาว 2 คน คือ ด.ญ.ดิว อายุ 11 ขวบ และ ด.ญ.หมิว อายุ 6 ขวบ รักษาตัวไม่นานก็หายจากการติดเชื้อ

หลังจากธิดารัตน์เสียชีวิตลงเพราะฤทธิ์ของโควิด สามีของเธอที่เพิ่งเป็นพ่อม่ายหมาดๆ ยังไม่รู้ว่าจะเลี้ยงลูกทั้ง 3 คน ได้อย่างไร จึงต้องหอบลูกๆ มาฝากไว้กับตาวิชัยและยายพูนสุข ที่กาฬสินธุ์ให้ช่วยเลี้ยงดู สองตายายก็หาเช้ากินค่ำลำบากอยู่แล้ว แต่เมื่อเห็นหลานตาดำๆ 3 คน ก็ไม่คิดจะปฏิเสธสายเลือด แม้จะไม่ได้มีกินเหลือเฟือแต่ก็ตั้งใจจะเลี้ยงหลานให้ดี โดยเฉพาะตาวิชัยซึ่งถูกควายขวิดจนไส้แตกร่างกายยังอ่อนแออยู่ แต่ก็ยอมสู้เพื่อหลานๆ

ยายพูนสุข กล่าวว่า หลังลูกสาวเสียชีวิตไปก็ลำบากมาก ต้องเลี้ยงหลาน 3 คน โดยเฉพาะคนเล็กตอนนี้อายุได้ 3 เดือน ต้องกินนม และต้องดูแลใกล้ชิด ตนจึงออกไปช่วยตาวิชัยหากินไม่ได้ ทำให้รายได้ไม่พอรายจ่าย ขณะที่พ่อของหลานทั้ง 3 คน ก็ยังทำงานอยู่ที่ จ.สมุทรปราการ ส่งเงินมาให้ลูกบ้างแต่ก็ไม่พอ ที่ผ่านมามีจิตอาสาและสาธารณสุขเข้ามาช่วยเหลือมอบเครื่องอุปโภค บริโภค ส่วนตนก็ได้ไปยื่นเรื่องขอรับเงินเยียวยาการเสียชีวิตของลูกสาวและขอคำปรึกษากับสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.กาฬสินธุ์ ด้วย

ต่อมานางระเบียบ ร่มไทรทอง ประธานชมรมแม่ดีเด่นแห่งชาติประจำ จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วย ผศ.สุมาลี ใจยสิทธิ์ ผู้ช่วยนายกเหล่ากาชาด จ.กาฬสินธุ์ นางจงกลนี เกียรติดำเนินงาม คณะกรรมการเหล่ากาชาด จ.กาฬสินธุ์ และคณะในนามสมาชิกกองทุนแม่ของแผ่นดิน สมาคมแม่ดีเด่นแห่งชาติ โดยชมรมแม่ดีเด่นแห่งชาติประจำ จ.กาฬสินธุ์ ได้เดินทางมาเยี่ยมครอบครัวตาวิชัยและยายพูนสุข กับหลาน 3 คน หลังรู้ข่าวต้องอยู่กันอย่างลำบาก 5 ชีวิต

นางระเบียบ กล่าวว่า หลังทราบข่าวครอบครัวตาวิชัยกับยายพูนสุข ซึ่งฐานะยากจนและมาเสียลูกสาวเพราะโควิด สองตายายต้องรับภาระเลี้ยงหลาน 3 คน โดยเฉพาะตาวิชัยร่างกายเพิ่งจะฟื้นตัวเพราะถูกควายขวิด ก็อดทนรับจ้างเลี้ยงควายให้เพื่อนบ้านมีรายได้วันละ 300 บาท เลี้ยงดู 5 ชีวิต และจ่ายค่าเช่าบ้านเดือนละ 600 บาท ที่หนักสุดก็จะเป็นค่านมของหลานคนเล็ก รายได้ไม่เพียงพอต่อรายจ่าย บางทีเพื่อนบ้านมีอาหารการกินก็นำมาแบ่งปันให้ได้พอประทังชีวิต ดังนั้นทางชมรมแม่ดีเด่นแห่งชาติประจำ จ.กาฬสินธุ์ จึงได้มีมติมอบทุนแม่ผู้ยากไร้ให้ จำนวน 5,000 บาท พร้อมถุงยังชีพจากเหล่ากาชาด จ.กาฬสินธุ์ เพื่อเป็นการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น

หลังมีผู้หยิบยื่นความช่วยเหลือทำให้ครอบครัวมะลาดมีกำลังใจมากขึ้น โดยยายพูนสุขถึงกับน้ำตาคลอ กล่าวขอบคุณทางคณะเป็นอย่างสูง ที่มองเห็นผู้ยากไร้และให้ความช่วยเหลือ

ขณะที่นางไพฑูรย์ โนนศรีชัย อายุ 76 ปี เพื่อนบ้าน กล่าวว่า เห็นสภาพความเป็นอยู่ของครอบครัวยายพูนสุขแล้วสงสาร ไหนจะสูญเสียลูกสาวที่เป็นเสาหลักของครอบครัว จากสาเหตุติดเชื้อโควิด-19 และต้องเลี้ยงดูหลานกำพร้า 3 ชีวิต ก่อนหน้านี้ไม่มีงานทำและไม่มีรายได้ ทั้งสุขภาพก็ไม่ค่อยจะดีเพราะสูงอายุ โดยเฉพาะนายวิชัยซึ่งถูกควายขวิดจนไส้แตก และรอสิ้นเดือนที่ลูกเขยหรือพ่อของเด็กๆ จะส่งเงินมาช่วยค่าเลี้ยงดูเท่านั้น

อะไรที่พอช่วยเหลือกันได้ก็ต้องช่วยกันไป ตนให้สองตายายช่วยดูแลฝูงควายและเกี่ยวหญ้าให้บ้าง โดยจ่ายค่าจ้างให้วันละ 300 บาท และตนกับเพื่อนบ้านเมื่อมีอาหารหรือของใช้จำเป็นก็แบ่งปันให้ตามอัตภาพ นอกจากนี้ว่างๆ ก็มาเป็นเพื่อนคุยปลอบใจกันและกัน ซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่พอจะหยิบยื่นให้กันได้ในยามลำบากตามประสาชาวบ้าน

คอลัมน์ : นิยายชีวิต โดย : อสงไขย
เรื่องและภาพโดย :ยุทธนา เกียรติดำเนินงาม จ.กาฬสินธุ์
แนะนำเรื่องราวชีวิตดั่งนิยาย หรือสอบถามได้ที่ [email protected]
[[คลิก]] อ่านเรื่องราว “นิยายชีวิต” เพิ่มเติมได้ที่นี่..