ข้าวของ ค่าใช้จ่าย “แพงทั้งแผ่นดิน” ตั้งแต่ต้นปีเสือ ไม่ว่าจะเป็นหมู เป็ด ไก่ ไข่ ค่าน้ำมัน ค่ารถเมล์ ค่าเรือโดยสาร ค่าทางด่วน พาเหรดกันขึ้นราคากันอย่างน่าตกใจ ในขณะที่ค่าแรงและรายได้ของคนไทยส่วนใหญ่ไม่ได้เพิ่มขึ้นตามไปด้วย

ปัญหาใหญ่แบบนี้ โดยเฉพาะเรื่องไข่แพง และเนื้อสัตว์ปรับขึ้นราคาสูงมาก มันเกินกำลังความสามารถในการแก้ไขปัญหาของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ รวมทั้งนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรฯ และ นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรฯผู้กำกับดูแลกรมปศุสัตว์

แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ก็ไม่ต้องสั่งให้ทหารไปเลี้ยงหมูไว้ในค่ายอีก ไม่ต้องเจื้อยแจ้วว่าราคาสินค้าปรับขึ้นตามกลไกราคาของตลาดโลก

อย่าได้ไปเที่ยวพูดว่าข้าวของแพงเพราะ “เงินเฟ้อ” เนื่องจากนักเศรษฐศาสตร์ได้ยินแล้วขำกันกลิ้ง!

แต่สิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจควรทำเป็นอย่างยิ่งคือเรียก “นายทุนใหญ่” 3 ราย มาขอความร่วมมือให้ชะลอ “ส่งออก” เนื้อหมู-ไก่ และไข่ รวมทั้งสินค้าแปรรูปจากหมูและไก่ที่ยังไม่ได้ทำสัญญาไว้ ออกไปสักระยะหนึ่งได้หรือไม่? เพื่อนำสินค้าเหล่านี้มาตรึงราคาไว้ และขายในประเทศให้พอกับความต้องการก่อน

เนื่องจากปัจจุบันฟาร์มหมูของเกษตรกรรายย่อย รวมทั้งฟาร์มใหญ่ของเอกชนซึ่งเป็นสมาชิกสมาคมผู้เลี้ยงสุกร ซึ่งคิดเป็น 30% ของปริมาณหมูในประเทศ ส่วนใหญ่หมูตายหมดเล้า ต้องพักเล้า หยุดเลี้ยงหมูกันมาพักใหญ่ ๆ แล้ว

แต่อีก 70% เป็นหมูของ 3 นายทุนรายใหญ่ ซึ่งเป็นฟาร์มปิด ด้วยระบบการเลี้ยงที่ทันสมัย จึงยังไม่ได้รับผล
กระทบจากหมูเป็นโรค แต่เป็นช่วงเวลา “กอบโกย” เนื่องจากราคาหมูเป็น ๆ จากหน้าฟาร์มพุ่งขึ้นไปถึง กก.ละ 110 บาท

ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ต้องคุยกับ 3 นายทุนใหญ่อย่างจริงจัง อย่าปล่อยให้ “ปลาใหญ่กินปลาเล็ก” อีกต่อไป!

คือเป็นนายทุนที่ขายทั้งอาหารสัตว์ ขายวัคซีนฉีดสัตว์ มีโรงงานชำแหละ-แปรรูปเอง มีห้างฯ มีร้านสะดวกซื้อ กระจายไปถึงแผงขายในตลาดสด ตลาดนัด

เรียกว่าตอนนี้ “นายทุน” กินเรียบทั้งระบบ! แล้วพล.อ.ประยุทธ์ก็ปล่อยให้กระทรวงพาณิชย์แก้ไขปัญหาไปตามยถากรรม ด้วยการจัดอีเวนต์ขายหมูราคาถูก วางขายหมูผ่านร้านธงฟ้าและรถพุ่มพวง แต่สุดท้ายราคาหมูสามชั้นจะพุ่งขึ้นไปถึง กก.ละ 300 บาท ก่อนถึงตรุษจีนแน่ ๆ

ช่วงเวลา 7-8 ปีที่ผ่านมา บรรดานายทุน เจ้าสัว ได้อะไรกันไปมากมายแล้วภายใต้การบริหารประเทศของ พล.อ.ประยุทธ์ หลายตระกูลร่ำรวยอู้ฟู่แบบก้าวกระโดด จากการเป็นนายทุนผูกขาด ฟาดเรียบเกือบทั้งระบบ!

แต่วันนี้คนไทยส่วนใหญ่ยากจน มีภาระหนี้สินมากมาย รายได้ไม่ได้เพิ่มขึ้น อีกหลายล้านคนยังตกงาน และปัญหาโควิด-19 ยังไม่คลี่คลาย แต่ต้องมาเจอกับสภาพของกินของใช้ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ แพงทั้งแผ่นดิน เมื่อทั้งจนและเครียดสถิติการฆ่าตัวตายจะสูงขึ้นไปอีก 

ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ต้องไปพิจารณาเอาเองว่าจะ “อุ้ม” นายทุนกินเรียบทั้งระบบต่อไป หรือว่าจะช่วยเหลือประชาชนส่วนใหญ่ก่อน!!

——————————–
พยัคฆ์น้อย