ผ่านมาแล้ว 2 สัปดาห์ที่ก้าวเข้าสู่ช่วงปี 2565 (ปีเสือ)  เรียกได้ว่า…สถานการณ์ทางการเมืองดุเดือดตั้งแต่ต้นปี โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย โหมโรงตีปี๊ปชิงถล่มรัฐบาล “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ทั้งขยี้ เปิดแผล ตอกย้ำจากการบริหารงานผิดพลาด ประชาชนเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้าเพราะประสบปัญหาข้าวยากหมากแพง บริหารงานต่อไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ประเทศเกิดความเสียหายมากมาย  “ทีมการเมืองเดลินิวส์” จึงต้องมาสนทนากับ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ถึงไทม์ไลน์และประเด็นเด็ดรอฟาดรัฐบาล มีอะไรเป็นทีเด็ดสามารถล้มรัฐบาลได้หรือไม่ ในช่วงที่รัฐบาลอยู่ในภาวะขาลง

โดย “นพ.ชลน่าน” เปิดฉากกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเตรียมที่จะยื่นประเด็นอภิปรายทั่วไปมาตรา 152 ที่พรรคร่วมฝ่ายค้านกำลังจะยื่นญัตติต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรภายในสิ้นเดือนม.ค.นี้ โดยคณะกรรมการทำเรื่องนี้อยู่ จะหยิบยกประเด็นที่เป็นวิกฤตที่เกิดขึ้นกับประชาชนและประเทศชาติบ้านเมือง ที่หนักสุดเวลานี้คือวิกฤติด้านเศรษฐกิจ ปากท้องและความเป็นอยู่ ทั้งค่าของชีพ ทั้งหนี้สิน ราคาหมู ราคาไก่ น้ำมัน และค่าแรงถูก ต่อมาเป็นเรื่องวิกฤตโรคระบาด เพราะมีข้อเท็จจริงจำนวนมากที่ต้องสอบถาม และหลายประเด็นที่ต้องเสนอแนะที่เป็นปัญหาทั้ง “ระบาดคนและระบาดในสัตว์” ส่วนวิกฤตด้านอื่น ๆ ยกตัวอย่าง เช่น วิกฤตด้านศรัทธาการเมือง  วิกฤตการเมืองระหว่างประเทศ   

@ เวทีนี้จะเปิดแผลรัฐบาลได้หรือไม่ 

วัตถุประสงค์หลักเราต้องการช่วยประชาชนให้รัฐบาลได้รับรู้รับทราบในข้อเท็จจริงและปัญหา เพื่อหาทางเยียวยาและแก้ไข คุณจริงใจที่จะรับรู้รับทราบแก้ไขปัญหาตามที่เราเสนอแนะหรือไม่ ถ้าคุณยังไม่ทำก็จะเป็นข้อตัดสินของประชาชน อย่าลืมว่า ประเทศนี้อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย คุณอย่าประมาทอำนาจประชาชน พอถึงจุดหนึ่งเขาอาจจะระเบิดได้ และจะมีผลกระทบต่อรัฐบาลโดยตรง ทั้งการชุมนุม การเรียกร้อง การต่อต้าน และการขัดขวางขัดขืน ถ้าเกิดประชาชนลุกฮือขึ้นมาต่อต้านทำให้เกิดรัฐล้มเหลวขึ้นมา คุณจะบริหารราชการแผ่นดินอย่างไร

สำหรับเนื้อหาสาระในการอภิปรายฯ คือ การตรวจสอบการทำหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีและนายกฯว่า เป็นการทำหน้าที่ที่สมบูรณ์พร้อมและล้มเหลวหรือไม่ รวมทั้งเกิดประสิทธิภาพประสิทธิผลจริงหรือไม่ ใช้จ่ายงบประมาณอย่างคุ้มค่าและมีการทุจริตคอร์รัปชั่นหรือไม่ แต่ต้องรอให้เปิดประชุมสภาฯสมัยหน้าก่อนในช่วงเดือนพ.ค.นี้ ส่วนจะเป็นบุคคลใดบ้างต้องรอดูอีกครั้ง จากหลักฐานและข้อเท็จจริงที่มี ซึ่งรัฐบาลนี้ล้มเหลวทั้งคณะ หากพูดชื่อใครก็รู้ว่าไม่ไหวจริง ๆ ยืนยันว่าหากมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจจริงจะเข้มข้นกว่าครั้งที่ผ่านมา เพราะพอกพูนสะสมมาหลายปีและยังไม่ได้รับการแก้ไข

@ กระแสข่าวพลังประชารัฐดีลกับเพื่อไทย เตรียมจับมือกันเพื่อล้ม พล.อ.ประยุทธ์ เป็นไปได้หรือไม่

ยังไม่มีใครพูดเรื่องนี้กับผมโดยตรง และผมก็ไม่เคยพูดกับใครในประเด็นนี้ เพราะว่าการร่วมมือร่วมงานกับพรรคการเมืองใดขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชนในการเลือกตั้ง อุดมการณ์ทางการเมืองที่เป็นสิ่งสำคัญที่สุด ถ้าพรรคเพื่อไทยประกาศตัวเองว่า เป็นฝ่ายประชาธิปไตย สนับสนุนสิทธิเสรีภาพและความเสมอภาค รวมถึงเคารพอำนาจอธิปไตยของประชาชน ฉะนั้นพรรคการเมืองใดมีพฤติกรรมที่เป็นฝ่ายตรงข้ามนี้คงร่วมมือกันไม่ได้ ถ้ามีพรรคการเมืองที่สนับสนุนค้ำจุนอำนาจเผด็จการ ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่เรารับไม่ได้อยู่แล้ว ดังนั้นต้องดูข้อมูลข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นก่อนว่า “เป็นข่าวลือ ข่าวลอย”ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ 

@ การเตรียมยื่นตีความกรณีการดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปี ของพล.อ.ประยุทธ์ มีความคืบหน้าอย่างไร

เรื่องนี้เป็นประเด็นสำคัญที่พรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมฝ่ายค้านให้ความสำคัญมาก เมื่อเราพบลักษณะต้องห้ามแล้ว เราจะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญทันที เพราะตามรัฐธรรมนูญจะดำรงตำแหน่งนายกฯรวมกันเกิน 8 ปีมิได้ หากพล.อ.ประยุทธ์ ยังอยู่ในตำแหน่ง แต่หากพล.อ.ประยุทธ์ ประกาศว่า อยู่ครบวาระแล้วลาออกไป ก็เข้าสู่กระบวนการสรรหานายกฯใหม่ 

“เรากำลังพิจารณาอยู่เหมือนกันว่า กรณีที่มีผู้ไปยื่นร้องก่อน เราจะมีการปรับทิศทางหรือไม่ แทนที่เราจะรอถึงวันที่ 24 ส.ค. 65 เราต้องปรับกระบวนท่าที่จะทำเรื่องนี้ ถ้าเขายื่นเราอาจจะต้องยื่น ยิ่งคนยื่นเป็นซีกรัฐบาล เราไม่ไว้วางใจ เราต้องยื่นไปด้วยเหมือนกัน ถ้าเขาฟังเหตุฟังผลข้างเดียว หากเกิดวินิจฉัยว่า พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ได้ถึง 2570 จบเลยนะ เพราะเจตนารมณ์ในข้อกฎหมายมันชัดเจนมาก”

@ ขณะนี้มีผู้ร้องให้พิจารณายุบพรรคเพื่อไทย เหตุที่มีนายทักษิณ ชินวัตร เข้ามาครอบงำ ตรงนี้ได้เตรียมรับมืออย่างไร จะมีพรรคสำรองหรือไม่ 

เราไม่ประมาทในเรื่องนี้ เราได้เตรียมการที่ชี้แจงที่จะต่อสู้ เพราะเขามองว่าหากสู้กับเราในระบบคงจะสู้ไม่ได้ จึงอาจใช้วิธีการนอกรัฐธรรมนูญ หรือกลไกที่จะสามารถล้มล้างเราได้ ซึ่งเราระมัดระวังมาโดยตลอด เชื่อว่ายุคนี้ความเป็นธรรมมันยังมี ถ้าคุณจะใช้ความไม่เป็นธรรมหรือความอยุติธรรมมาทำร้ายกันบ้านเมืองเราอยู่ไม่ได้แน่นอน เราต้องหันหน้าดูข้อเท็จจริงเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายมาเป็นส่วนร่วมในการแก้ปัญหา แน่นอนว่าการยุบพรรคมีผลกระทบกับการเลือกตั้งทั้งบวกและลบ 

ในแง่บวกสมมุติว่า“ยุบพรรคเพื่อไทย” ประชาชนที่รักศรัทธาเขาอาจจะเทคะแนนให้พรรคเพื่อไทย ในนามพรรคการเมืองใหม่ก็ได้ เพราะว่าเรายังมีสิทธิให้ ส.ส. ดำรงตำแหน่งสมาชิกพรรคการเมืองใหม่ได้ ภายใน 1 เดือน หลังมีการยุบพรรคการเมือง ยกเว้นกรรมการบริหารพรรคทั้ง 23 คน ตายหนึ่งเกิดร้อยผมมั่นใจแบบนั้น เขาต้องคิดหนักนะถ้าจะยุบ ส่วนในแง่ลบก็แค่กรรมการบริหารพรรคทั้ง 23 คน ไม่ได้ลงเลือกตั้งต่อก็แค่นั้น หากยัง “กลั่นแกล้ง”มาก ๆ เหมือนอย่างพรรคไทยรักษาชาติที่ตั้งพรรคการเมืองใหม่แล้วมายุบพรรคการเมืองอีกจะเสียหายมาก เชื่อว่าเขาคงไม่กล้าทำแบบนั้น อย่าลืมว่าพรรคการเมืองมีฐานมวลชนอยู่ พวกเขาเป็นต่างล้วนเป็นเจ้าของพรรคการเมือง ซึ่งจะเกิดความไม่สงบลุกฮือขึ้นมาได้ และกระทบต่อประเทศแน่ซึ่งไม่เป็นผลดีเลย.